นางสาวภัททภาณี เอกะหิตานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์ไฮเนเก้นและสตรองโบว์ ในกลุ่มบริษัททีเอพี กล่าวว่า จากการที่บริษัทเห็นช่องทางการตลาดในกลุ่มโอกาสของสินค้าทางเลือกสำหรับกลุ่มเป้าหมายนักดื่มในยุคนี้ที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งเพื่อต้องการเสริมพอร์ตโฟลิโอในกลุ่มพรีเมี่ยมของบริษัทให้หลากหลายมากขึ้น เพื่อแข่งขันกับตลาดแอลกอฮอล์นำเข้า อย่าง คราฟต์เบียร์ เป็นต้น ที่ได้รับความนิยมมาก และเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นคนรุ่นใหม่ จากเดิมที่มีเพียงเบียร์ไฮเนเก้น กินเนส และคิลเคนนี่ เท่านั้น โดยในช่วงปลายปี 59 ที่ผ่านมา บริษัทได้นำเข้าเครี่องดื่มแอปเปิลไซเดอร์ภายใต้แบรนด์ “สตรองโบว์” เพื่อทำตลาดในประเทศไทย พบว่าปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาด 80% เป็นผู้นำตลาด หรือคาดการณ์ว่าจะมียอดขาย 2 แสนลิตรปี 2560 และเติบโตเป็น 5 แสนลิตรในปี 2561
สำหรับกลยุทธ์และแผนกิจกรรมการตลาดของสตรองโบว์ต่อจากนี้บริษัทจะทำผ่าน “Experiential marketing strategy คือกลยุทธ์ของสตรองโบว์ที่จะมุ่งเน้นการสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคอย่าง Gen M ภายใต้ Brand position statement “A Fresh Remix of Nature” โดยการทำกิจกรรมทางการตลาดของสตรองโบว์ (Strongbow) ยังคงอยู่ในรูปแบบของ Music และ Lifestyle platform ที่มีเอกลักษณ์ในแบบฉบับของสตรองโบว์ (Strongbow) เพื่อการสร้างสีสัน ความมีชีวิตชีวา เชื่อมไปยังกลุ่มเป้าหมายของเรา มีทั้งจัดขึ้นเองและรวมถึงการ co-creation กับเหล่าแบรนด์พันธมิตรหรือบุคคลที่มีความเป็นตัวตนสอดคล้องกับแบรนด์ และเลือกช่องทางของการสื่อสารหลักผ่านดิจิทัล เพื่อให้เข้าถึงและเจาะลงไปในกลุ่ม Gen M ที่เราตั้งเป้าของการสื่อสารทางการตลาดเอาไว้ อีกทั้งการทำ Outlet activation กับร้านอาหารชั้นนำที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์สตรองโบว์ (Strongbow ) ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ตลาดเครื่องดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ประเทศไทยในปี 2560 มีมูลค่า 30 ล้านบาท โดยมีการเติบโตอยู่ที่ 120% โดยปัจจัยการเติบโตหลักมาจากที่เครื่องดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์นั้นเป็นหมวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เกิดขึ้นใหม่ในประเทศไทย โดยวางจำหน่ายทั้งหมด 3 รสชาติ ได้แก่ โกลด์ แอปเปิ้ล, เร้ดเบอร์รี่ และฮันนี่ เบื้องต้นใช้การกระจายสินค้าผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด และร้านสะดวกซื้อ อาทิ ลอว์สัน 108, แฟมิลีมาร์ท, วิลล่ามาร์เก็ต, กูร์เมต์มาร์เก็ต, ท็อปส์, บิ๊กซี ฯลฯ ทั้งนี้ เราคาดว่าสตรองโบว์จะเป็นแบรนด์ผู้นำของตลาดเครื่องดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ในประเทศไทยได้ในปีหน้าอย่างแน่นอน