นายณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด (บีเอ็มเอ็น) กล่าวว่า จากแผนดำเนินงานที่บริษัทวางไว้ตั้งแต่ปี (2561-2563) ได้วางงบประมาณไว้ราว 500 ล้านบาท ที่จะทำการลงทุนขยายธุรกิจต่อเนื่องจากระบบสัมปทานที่มีอยู่ในระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน สายสีน้ำเงินและที่จะขยายต่อในอนาคต ทั้งในเรื่องของการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์หรือพื้นที่ค้าปลีก ,พื้นที่โฆษณา และธุรกิจการให้บริการโทรคมนาคม
สำหรับในเรื่องการพัฒนาธุรกิจพื้นที่ค้าปลีกหรือที่เรียกกันว่า เมโทรมอลล์ ที่ปัจจุบันได้พัฒนาพื้นที่ของสายสีน้ำเงินไปแล้ว 7 สถานี คือ สุขุมวิท พระราม 9 จตุจักร พหลโยธิน กำแพงเพชร คลองเตย และศูนย์วัฒนธรรมฯ จากจำนวนที่ได้รับสิทธิ์ 11 สถานี รวม 14,000 ตารางเมตร (แต่มี 12 พื้นที่ เพราะสถานีลาดพร้าวมีพื้นที่ 2 ส่วน คือ พื้นที่อาคารจอดรถ พื้นที่ค้าปลีก) จากทั้งหมดที่มีอยู่ 18 สถานี โดยสถานีที่มีผู้ใช้บริการมากสุดคือ สุขุมวิท ประมาณ 80,000 คนต่อวัน สถานีพระราม 9 ประมาณ 50,000 คนต่อวัน เป็นต้น
โดย สถานีลาดพร้าวนั้นจากที่ได้ทำการศึกษาและสำรวจบริเวณโดยรอบสถานี พบว่า ด้วยทำเลที่ตั้งของสถานีที่อยู่สี่แยกรัชดา ลาดพร้าว ทำให้มีการเติบโตของแหล่งที่พักอาศัยอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ รวมถึงกลุ่มผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าที่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง อีกทั้งสถานีนี้ ยังมีอาคารจอดแล้วจร รองรับรถยนต์ของผู้มาใช้บริการรถไฟฟ้าได้กว่า 2,000 คันและในอนาคต จะเป็นสถานีที่เชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้า สายสีเหลือง ทางบริษัทฯ จึงเล็งเห็นศักยภาพของสถานีนี้ ในการพัฒนาพื้นที่ค้าปลีก เพื่อรองรับการเติบโตของจำนวนผู้ใช้บริการ ที่เพิ่มมากขึ้น และผู้ที่อยู่อาศัยบริเวณโดยรอบสถานี ซึ่งพื้นที่ค้าปลีกของสถานีลาดพร้าว จะมีด้วยกัน 2 ส่วน
สำหรับในปี 2560นี้จะทำการเปิดพื้นที่ส่วนแรกที่บริเวณอาคารจอดแล้วจรขนาด 2,300 ตารางเมตร ที่จะร่วมมือกับทางกูร์เม่ต์มาร์เก็ต ของบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิด“กูเมต์ มาร์เก็ต”(Gourmet Market)ในระบบรถไฟฟ้า เป็นครั้งแรกของประเทศไทยโดยโครงการนี้ใช้งบลงทุนเพื่อเตรียมความพร้อมของสถานที่ ระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ กว่า 35 ล้านบาท เพื่อตอบสนองชีวิตคนเมืองที่ต้องการความรวดเร็ว เป็นการอำนวยความสะดวกสบายกับผู้ใช้บริการในระบบรถไฟฟ้า MRT ที่ส่วนใหญ่จะมีไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ โดยจะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2560 เป็นต้นไป
“ แผนพัฒนาธุรกิจพื้นที่ค้าปลีก นอกจากการเปิดให้บริการ กูร์เมต์ มาร์เก็ตที่สถานีลาดพร้าวแล้ว ยังมีการRenovate เมโทร มอลล์ สถานีสุขุมวิท ให้ทันสมัย การตกแต่งภายในจะเป็นสไตล์โมเดิร์น เพิ่มพื้นที่ส่วนกลาง อีกทั้งยังมีฟรี WIFI ให้บริการซึ่งการตกแต่งของสถานีนี้จะใช้เป็นต้นแบบการตกแต่งสถานีอื่น ๆ ที่จะเปิดต่อไป โดยในไตรมาสที่ 4 บริษัทฯ จะทำการเปิดเมโทร มอลล์ สถานีเพชรบุรี เป็นสถานีต่อไป เนื่องด้วยสถานีนี้มีผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับที่ 3 จุดที่ตั้งของสถานีเป็นจุดเชื่อมต่อ Airport Rail Linkนับเป็นจุดเริ่มต้นเดินทางไปสู่ New CBD ย่านพระราม 9 และในอนาคตจะทำทางเชื่อมต่อไปยังตึก สิงห์ เอสเตท ”
ทั้งนี้ ผลประกอบการของบีเอ็มเอ็นในปี2560 คาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 600 ล้านบาท เติบโตจากปี2559ประมาณ 20% แบ่งสัดส่วนรายได้จาก ธุรกิจสื่อโฆษณา 60% ธุรกิจโทรคมนาคม 30% และธุรกิจพื้นที่ค้าปลีก 10% อย่างไรก็ตามตามแผนงาน 3 ปีจากนี้ คาดว่าจะทำรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้ธุรกิจสื่อโฆษณา 50% ธุรกิจโทรคมนาคม 30% และธุรกิจพื้นที่ค้าปลีก 20%
นายชัยรัตน์ เพชรดากูล ผู้อำนวยการใหญ่บริหารสินค้าซู เปอร์มาร์เก็ต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวต่อว่า กูร์เมต์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ตพรีเมี่ยมระดั บเวิล์ดคลาส ได้วางแผนการขยายสาขาของกูร์ เมต์ มาร์เก็ต ในรูปแบบสแตนอโลน สาขาที่ 4 โดยร่วมมือกับ บีเอ็มเอ็น เปิดให้บริการซูเปอร์มาร์เก็ตขนาด 2,300 ตารางเมตร ที่ รถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าว โดยกูร์เมต์ มาร์เก็ต สาขานี้จะให้บริการสินค้าคุ ณภาพทั้งผักผลไม้
“สำหรับการเปิดกูร์เมต์มาร์เก็ตที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหรือเอ็มอาร์ที โดยจับมือกับบริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด หรือบีเอ็มเอ็น ผู้ได้รับสิทธิ์ในการพัฒนาพื้นที่ค้าปลีกของเอ็มอาร์ทีหรือเมโทรมอลล์ เบื้องต้นนี้ร่วมมือกันเปิดกูร์เมต์มาร์เก็ตสาขาแรกที่อาคารจอดรถสถานีลาดพร้าว โดยสาขาดังกล่าวจะเป็นสาขาที่ 14 ของกูร์เมต์มาร์เก็ต ใช้งบลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในวันที่ 19 กันยายน 2560 นอกจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลาดพร้าวนี้แล้ว ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเปิดในสถานีอื่นต่อไปด้วย แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่ขั้นต่ำที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 1,500 ตารางเมตร แต่หากพื้นที่น้อยกว่านี้แต่มีศักยภาพก็อาจพิจารณาเปิดในโมเดลใหม่ก็เป็นได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา”