สำหรับเหล่าบรรดาแม่บ้าน พ่อบ้าน หรือคนที่ชอบทำอาหาร เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับเจ้าก้อนสี่เหลี่ยมเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อน หรือในรูปแบบผงสีน้ำตาลอ่อน ที่ไว้ใช้ใส่เพิ่มรสชาติในการปรุงอาหาร นั่นก็คือ "เจ้าซุปคนอร์" นั่นเอง ที่ถือว่าได้อยู่คู่ครัวไทยมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2522 นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ กว่า 30 ปีแล้ว ที่แม่บ้านไทยใช้คนอร์เป็นผู้ช่วยให้ความอร่อยกับรสชาติอาหารของทุกครัวเรือน
นอกจากนี้ คนอร์ยังเป็นแบรนด์เครื่องปรุงรสอันดับหนึ่งของโลก โดยตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ของคนอร์ มีอยู่หลากหลายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำซุป เครื่องปรุงรส ซอส ซุปผง หรือซุปก้อน จวบจนปัจจุบันได้มีสินค้าเพิ่มมากขึ้น อาทิ แป้งทอดกรอบ แป้งข้าวโพด และโจ๊กกึ่งสำเร็จรูป
และล่าสุดปีนี้ ในโอกาสครบรอบ 34 ปี ที่อยู่ คู่กับสังคมไทยของคนอร์ ในส่วนของผลิตภัณฑ์ ซุปก้อน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์อาหารชนิดแรกของยูนิลีเวอร์ โดยทำการเดินหน้าผลักดันขยายตลาดผลิตภัณฑ์อาหารอย่างเต็มที่ผ่านสินค้าดังกล่าว ด้วยการเปิดแคมเปญยิ่งใหญ่แห่งปีภายใต้ปฏิบัติการ "ซุปถึงรส ซดเดียวอยู่" เพื่อตอกย้ำจุดเด่นของคนอร์ ซุปก้อน ที่เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการทำน้ำซุปที่ขาดไม่ได้ ช่วยเพิ่มรสชาติให้น้ำซุปอร่อย เข้มข้นถึงน้ำถึงเนื้อ เพราะมีเนื้อไก่หรือเนื้อหมูมากกว่าผงปรุงรส 2 เท่า เพียงใส่คนอร์ ซุปก้อนลงในน้ำซุป รับรองว่าอร่อยจนต้องชมในครั้งแรกที่ชิม ซดเดียวเอาอยู่ทั้งครอบครัว โดยตั้งเป้าท้าให้แม่บ้านทั่วประเทศมาร่วมพิสูจน์น้ำซุปอร่อยเข้มข้นแบบซดเดียว อยู่กันคนอร์ ซุปก้อนให้ครบ 1 ล้านซด ทั่วประเทศใน เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้ ด้วยการนำทีมพรีเซ็นเตอร์คนอร์ "เชฟตั๊ก" นภัสกร มิตรเอม และ "ท็อป" ดารณีนุช โพธิปิติ ตัวแทนแม่บ้านรุ่นใหม่ ท้าแม่บ้านพิสูจน์น้ำซุปอร่อยเข้มข้นที่ทำจากคนอร์ ซุปก้อน ผ่านสื่อโฆษณาโทรทัศน์และกิจกรรมเต็มรูปแบบ โดยได้เปิดตัว "ช้อนซุปยักษ์" ยาวกว่า 4 เมตร ที่ลานหน้า เซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อเป็นแลนด์มาร์คอัพเดตสถิติซดเดียวอยู่แบบเรียลไทม์
โดย สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานกรรมการบริหาร ธุรกิจผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน อาหาร และไอศกรีม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ได้เล่าว่า จากผลสำรวจล่าสุดพบว่า คนไทยมีการบริโภคแกงหรืออาหารชามน้ำมากถึง 6,700 ล้านชามต่อปี แต่น้ำซุปกลับเป็นอาหารที่ทำง่ายแต่อร่อยยากหากไม่ถึงน้ำถึงเนื้อ แม่บ้านส่วนใหญ่มักมีเวลาทำอาหารน้อยลง จึงมักใส่ผงปรุงรสลงในซุป ทำให้น้ำซุปใสจ๋องแจ๋งเหมือนน้ำเปล่า และมีรสชาติไม่อร่อยเข้มข้นถึงน้ำถึงเนื้อเหมือนเคี่ยวเองซึ่งต้องใช้เวลาในการเคี่ยวน้ำซุปนานเป็นชั่วโมง
ดังนั้น ตลาดที่จะตอบโจทย์ความต้องการของแม่บ้านได้นั้นก็คือ การทำน้ำซุปให้อร่อยถึงน้ำถึงเนื้อ โดยน้ำซุปถือเป็นหัวใจหลักของอาหารทุกมื้อที่ทุกคนในครอบครัวชื่นชอบ และคุณแม่บ้านส่วนใหญ่เริ่มฝึกทำอาหารจากการปรุงน้ำซุปให้คน ในครอบครัวได้กิน โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ชื่นชอบน้ำซุปเป็นพิเศษ เพราะรับประทานง่ายและไม่ว่าจะกินอาหารจานไหน ก็ต้องหันกลับมาซดน้ำซุปร้อนๆ คล่องคอทุกที จนน้ำซุปได้ขึ้นชื่อติดอันดับ 4 เมนูยอดนิยมของคนไทย รองจาก ไข่เจียว ผัดผัก และปลาทอด
"เราจึงมั่นใจว่า แคมเปญการตลาดที่เข้าถึงผู้บริโภคและผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ครองใจแม่บ้านทั่วไทย ที่ทางเราคิดค้นให้ผลิตภัณฑ์เป็นเสมือนผู้ช่วยคุณแม่บ้านให้ทำอาหารได้อย่างมั่นใจถึงอร่อยถูกปากคนในครอบครัวและรอบข้างเสมอ ทั้งยังใช้เวลาในการทำอาหารน้อยลง เพื่อจะได้ใช้เวลา ที่มีค่ากับครอบครัวมากขึ้นอีกด้วย นี้แหละคือความตั้งใจของคนอร์ที่อยากให้ทุกๆ มื้อมีแต่สิ่งดีๆ และเป็นช่วงเวลาดีๆ ของครอบ ครัวไทย ทุกครัวเรือน"