ล้มแล้วต้องลุกโกดักมุ่งธุรกิจสิ่งพิมพ์

วันพุธที่ 06 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ล้มแล้วต้องลุกโกดักมุ่งธุรกิจสิ่งพิมพ์


ตามปกติแบรนด์ที่ประสบปัญหาทางการเงินจนต้องม้วนเสื่อหรืออยู่ในสภาพล้มละลายมักจะไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้ แต่เมื่อเร็วๆ นี้ มีแบรนด์ระดับโลกแบรนด์หนึ่งสามารถหลุดพ้นสภาพล้มละลายและกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้งในเวลาไม่นาน ซึ่งแบรนด์ ดังกล่าวก็คือ อีสต์แมน โกดัก หรือที่รู้จักกันในชื่อ โกดัก
ในอดีตบริษัทอีสต์แมน โกดัก เป็นผู้ผลิตฟิล์มถ่ายภาพ 1 ใน 2 รายใหญ่ของโลก ซึ่งต่อมาประสบปัญหาด้านการเงิน อันเป็นผลจากความเปลี่ยนแปลงของ เทคโนโลยี จนต้องประกาศภาวะล้มละลาย ไปเมื่อต้นปี 2555
บริษัทอีสต์แมน โกดัก นั้นเป็นบริษัท สัญชาติอเมริกันก่อตั้งในปีพ.ศ.2432 (ค.ศ.1889) โดยมี นายจอจส์ อีสต์แมน เป็นผู้ก่อตั้งรวมถึงเป็นผู้คิดคำว่า "โกดัก (Kodak)" ในชื่อบริษัทด้วยเช่นกัน โดย นายจอจส์ อีสต์แมน ได้เคยกล่าวไว้ว่า ที่มาของคำว่า "โกดัก" มีด้วยกัน 4 ประการ 1.สั้น 2.ออกเสียงได้ง่าย 3.ไม่ซ้ำกับบริษัทอื่นและ 4.ตนชอบตัวอักษร K เพราะดูมีพลัง
โกดักเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะผู้ผลิตฟิล์มถ่ายภาพทั้งภาพยนตร์และภาพนิ่ง ซึ่งในปีพ.ศ.2519 โกดักถือครองส่วนแบ่งในตลาดฟิล์มของอเมริกาถึง 90% อย่างไรก็ตาม ปัญหาของโกดักเริ่มเห็นได้ชัดเจนในช่วงปีพ.ศ.2533-2543 อันเป็นยุคเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีการถ่าย ภาพจากฟิล์มไปสู่ดิจิตอลส่งผลให้ยอดขายฟิล์มถ่ายภาพลดลงอย่างต่อเนื่อง
แม้โกดักจะเป็นบริษัทแรกที่สร้างกล้องดิจิตอลตั้งแต่ปีพ.ศ.2518 แต่ด้วยเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจฟิล์มถ่ายภาพบริษัทจึงไม่ได้ให้ความสนใจเทคโนโลยีนี้มากนัก
อย่างไรก็ตาม โกดักก็ได้เข้าสู่ตลาดกล้องดิจิตอล โดยปีพ.ศ.2544 โกดักมียอดขายกล้องดิจิตอลเป็นอันดับ 2 ในตลาด อเมริกา แต่ด้วยสัดส่วนกำไรที่ต่ำและการแข่งขันที่สูงของตลาดทำให้บริษัทขาดทุน 60 เหรียญต่อกล้อง 1 ตัวที่ขายออกไป
ด้วยปัญหาที่รุมเร้าโกดักจึงต้องประกาศ ภาวะล้มละลายในปีพ.ศ.2555 และเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างเพื่อฟื้นฟูกิจการ หลังจากนั้น โกดักได้ขายสิทธิบัตรที่มีอยู่ให้แก่บริษัทต่างๆ เช่น แอปเปิล กูเกิล ไมโครซอฟท์ เฟซบุ๊กและอื่นๆ ทำให้ได้เงินทุนกลับมากว่า 520 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึงขายธุรกิจคอนซูเมอร์ โปรดักต์ออกไปด้วย
ปัจจุบันโกดักประกาศพ้นภาวะล้มละลายอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 กันยายน พ.ศ.2556 ที่ผ่านมา รวมระยะเวลาในการปรับโครงสร้างเพื่อฟื้นฟูกิจการประมาณ 20 เดือน
นายอีวานโดร แมททูชี ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายธุรกิจกราฟิกและรองประธานฝ่ายการตลาดในเขต ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท โกดัก อีสต์แมน กล่าวว่าบริษัทจะเน้นธุรกิจงานพิมพ์เชิงพาณิชย์ 4 ประเภท คือ 1.สื่อสิ่งพิมพ์ อาทิ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และหนังสือ 2.บรรจุภัณฑ์ 3.ระบบเซ็นเซอร์แบบสัมผัสหน้าจอบนโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต และ 4.การพิมพ์ระบบบาร์โค้ดบนสินค้า
"แม้บริษัทจะขายสิทธิบัตรออกไปหลายรายการแต่ยังคงถือครองสิทธิบัตรด้านการพิมพ์อยู่จึงมีโซลูชั่นงานพิมพ์ที่หลากหลายรองรับทั้งระบบงานพิมพ์ออฟเซ็ต ไฮบริดและดิจิตอล"
ด้านการดำเนินธุรกิจบริษัทมุ่งเน้นใน 5 ตลาด คือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย ญี่ปุ่นและเกาหลี สาเหตุที่บริษัทจะให้ความสำคัญการทำตลาดเอเชีย เป็นเพราะธุรกิจสิ่งพิมพ์กำลังปรับตัวก้าวเข้าสู่ระบบดิจิตอล แต่บริษัทมองว่าระยะยาวตลาดบรรจุภัณฑ์มีศักยภาพเติบโตมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์
"การปรับโครงสร้างธุรกิจนี้จะผลัก ดันให้กำไรจากอาเซียนปีนี้ก่อนหักภาษีอยู่ที่ 4,800 ล้านบาท ปัจจุบันอาเซียนมีสัดส่วนรายได้ 27% ของทั่วโลก บริษัทได้ตั้งเป้าที่จะมีรายได้เพิ่มเป็น 1 ใน 3 ของโลกภายในเวลา 3 ปี" นายอีวานโดร กล่าว ทิ้งท้าย


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ