Toggle navigation
วันจันทร์ ที่ 9 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
สุขภาพ & ความงาม
นวัตกรรมใหม่เลเซอร์ "CIRRUS" ขจัดต้อหินเพื่อดวงตาสดใส
นวัตกรรมใหม่เลเซอร์ "CIRRUS" ขจัดต้อหินเพื่อดวงตาสดใส
วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556
Tweet
ปัจจุบันสถานการณ์โรคต้อหินมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้น เนื่องจากประชากรมีอายุยืนขึ้น โดยโรคต้อหินจะมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นตามอายุเริ่มตั้ง แต่อายุ 40 ปีขึ้นไป และถ้ามีประวัติโรค ต้อหินในครอบครัว สายตาสั้นหรือยาว มากผิดปกติ เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง มีประวัติการใช้ยาบางชนิดเป็นเวลานาน เช่น สเตียรอยด์ หรือมีประวัติการเกิดอุบัติเหตุทางตา ก็จะมีความเสี่ยงในการเป็นต้อหินสูงขึ้น ร้อย ละ 90 ของคนไข้ที่เป็นโรคต้อหินไม่สามารถรู้ว่าตนเองเป็นโรคต้อหินเนื่อง จากไม่มีอาการในระยะแรก และไม่ได้รับการใส่ใจและตรวจสุขภาพตาอย่างละเอียด ส่งผลให้โรคต้อหินเป็นสาเหตุ ที่ทำให้สูญเสียการมองเห็นถาวรอันดับ 1 ในประเทศไทย
โรคต้อหินเป็นภาวะที่เกิดจากความดันในลูกตาที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นเวลานานจนทำให้เส้นประสาทตา (Optic nerve) เสื่อม หรือถูกทำลาย ซึ่งส่งผล ให้สูญเสียการมองเห็นโดยเริ่มจากลาน สายตารอบนอก ในเบื้องต้นคนไข้อาจจะยังไม่รู้สึกถึงความผิดปกติจนกระทั่ง การดำเนินของโรคจะรุนแรงมากขึ้นทำ ให้ลานสายตาแคบลงเรื่อยๆ จนคนไข้ตาบอดในที่สุดหากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมทันท่วงที
นายแพทย์ปริญญ์ โรจนพงศ์พันธุ์ รองศาสตราจารย์และหัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยาและต้อหิน กล่าวว่า การรักษาโรคต้อหิน คือ การพยายามลดความดันในลูกตา โดยลดการผลิต หรือเพิ่มการระบายน้ำ ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี ตั้งแต่การใช้ยา หยอดตา ยารับประทาน ยิงแสงเลเซอร์ และการทำผ่าตัด ในแต่ละวิธีมีข้อจำกัดในการใช้ขึ้นกับตัวผู้ป่วยและประเภท ของต้อหิน ในผู้ป่วยต้อหินชนิดมุมเปิดอาจ ใช้การยิงแสงเลเซอร์เพื่อลดความดันลูกตา
"ในอดีตการวินิจฉัยโรคต้อหินทำ ได้ง่ายๆ โดยการตรวจสุขภาพตาทั่วไป โดยการวัดความดันลูกตา ตรวจขั้วประสาทตา โดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และในกรณีที่สงสัยว่าผู้ป่วยเป็นโรคต้อหิน แพทย์ก็จะทำการตรวจตาอย่างละเอียด โดยการตรวจลานสายตา และขยายม่านตาเพื่อตรวจดูลักษณะของเส้นใยประสาทตา ว่ามีความผิดปกติมากน้อยเพียงใด อาจทำการวาดรูปขั้วประสาทตาไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามการรักษา ซึ่งยากที่จะได้มาตรฐานที่ชัดเจนและ เกิดความผิดพลาดได้ง่าย แต่ด้วยวิวัฒนาการของเทคโนโลยีที่ทันสมัย มากขึ้นจึงทำให้แพทย์สามารถใช้เครื่องมือเข้ามาตรวจวิเคราะห์และวินิจฉัยโรคต้อหินได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น"
อย่างไรก็ดี การรักษาโรคต้อหินนั้น เป็นเพียงการหยุดการดำเนินโรค แต่ไม่สามารถทำให้การมองเห็นที่สูญเสียไปแล้วกลับเป็นปกติได้ ดังนั้น การ ป้องกันและการรักษาในระยะเริ่มต้น จึงเป็นหนทางที่สำคัญที่สุดที่จะป้องกัน การสูญเสียการมองเห็นในระยะยาว เนื่องจากโรคต้อหินไม่มีอาการผิดปกติ ในระยะเริ่มต้น จึงไม่มีสัญญาณเตือนภัย ให้ผู้ป่วยทราบว่าเป็นโรค ซ่อนเร้นอยู่ในร่างกายแต่อย่างใด แต่หากผู้ป่วยได้ รับการตรวจตาอย่างละเอียดโดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างสม่ำเสมอ เช่น การตรวจหาความผิดปกติและการถูกทำลายของเซลล์ปมประสาท (Ganglion cell) ในชั้นเนื้อเยื่อของจอประสาทตา แพทย์ก็จะสามารถวินิจฉัย โรคได้เร็ว และสามารถวางแผนการรักษาโรคต้อหินได้ก่อนที่คนไข้จะสูญเสียภาวะการมองเห็น
ล่าสุด ทางคาร์ล ไซส์ส ประเทศไทย เปิดตัวเครื่องวิเคราะห์จอประสาทตาโดยการสแกนด้วยเลเซอร์ ถ่ายภาพแบบตัดขวางด้วยเทคโนโลยี Optical Coherence Tomography เพื่อดูชั้นของเนื้อเยื่อและ พยาธิสภาพของจอประสาทตาและขั้วประสาทตา ทำให้สามารถวิเคราะห์โรค ของจอประสาทตา และติดตามการรักษา โรคต้อหินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดย อารมภ์ วีระพัฒนา ผู้จัดการทั่วไป แผนกเครื่องมือแพทย์ บริษัท คาร์ล ไซส์ส จำกัด กล่าวถึงนวัตกรรม ใหม่นี้ว่า ด้วยวิวัฒนาการของเครื่อง CIRRUS ทำให้การตรวจสุขภาพตาเป็น เรื่องที่ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป เพราะเครื่อง CIRRUS จะทำการสแกนตาของคน ไข้ด้วยแสงเลเซอร์ และด้วยเทคโนโลยี FastTracTM และซอฟต์แวร์ Guided Progression Analysis หรือ GPATM ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของคาร์ล ไซส์ส ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจจับและวิเคราะห์เนื้อเยื่อในบริเวณเดียวกันทุกครั้งได้อย่างแม่นยำตรงจุด เพื่อเปรียบเทียบดูการเปลี่ยนแปลงและความผิดปกติของเนื้อเยื่อในชั้นต่างๆ ของจอประ- สาทตาดังกล่าว โดยเครื่องจะประมวล ผลและแสดงภาพออกมาในรูปแบบ Cube scan เพื่อดูพยาธิสภาพของเนื้อเยื่อได้ในลักษณะ 3 มิติ ทำให้แพทย์สามารถวิเคราะห์พยาธิสภาพของโรคได้อย่างละเอียดและแม่นยำได้ทันที เพื่อช่วยใน การวินิจฉัยและติดตามการรักษาโรคต้อ หินและโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของจอ ประสาทตาได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ