ด้วยผลงานวิจัยจากในประเทศและต่างประเทศยืนยันว่า เด็กที่กินนมแม่จะมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง เติบโตสมวัย และนมแม่ยังช่วยลดความเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ ทำให้แม่ลาหยุดงาน น้อยลง และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้เวิร์กกิ้ง มัม ต่างให้ความสนใจเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากขึ้น เนื่องจากหลายปัจจัยในด้านเศรษฐกิจ โดยการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ทำให้ครอบครัวมีค่าใช้จ่ายลดลง เด็ก 1 คนจะมีค่าใช้จ่ายในการกินนมผงอยู่ที่ 4,000 บาทต่อเดือน แต่หากเด็กเปลี่ยนมากินนมแม่ แต่ละครอบครัวจะประหยัดได้ถึง 24,000 บาทภายในเวลา 6 เดือน
ดังนั้น สัปดาห์นมแม่โลก หรือ World Breastfeeding Week (WBW) จึงได้เกิดขึ้นโดยเครือข่ายพันธมิตรนมแม่โลก จากการรวมตัวขององค์กรต่างๆ จากทั่วโลก เพื่อรณรงค์ให้ประชาคมโลกตระหนักถึงความสำคัญของนมแม่ โดยได้จัดให้มีสัปดาห์นมแม่โลกขึ้นเป็นประจำในเดือนสิงหาคมของทุกปี
พ.ญ.ศิริพร กัญชนะ ประธานมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการร่วมสนับสนุนสัปดาห์นมแม่โลกในปีนี้ จึงได้จัดกิจกรรม Breastfeeding Flash Mob รวมพลังนมแม่ฉลองสัปดาห์นมแม่โลก 2556 ขึ้นในวันที่ 24 สิงหาคม 2556 ณ หอศิลป์วัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร สนามกีฬาแห่งชาติ เพื่อสื่อสารกับทุกภาคส่วนของสังคมไทยในการมีส่วนร่วมสนับสนุน และส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย
สำหรับแนวทางการดำเนินงานนับจากนี้ จะมุ่งเน้นไปที่งานด้านวิชาการมากยิ่งขึ้น ด้วยการพัฒนาให้เป็นศูนย์ข้อมูลและองค์ความรู้ด้านนมแม่ของประเทศ พร้อมกับผลักดันในเรื่องของมุมนมแม่ในสถานประกอบการให้เป็นนโยบายระดับชาติ ควบคู่ไปกับเรื่องของสวัสดิการ และสิทธิประโยชน์สำหรับแม่ลาคลอด รวมถึงสนับสนุนการสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคีเครือข่ายนมแม่ในภูมิภาคต่างๆ เพื่อสร้างสังคมนมแม่ให้กลับคืนสู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ทางองค์การเครือข่ายพันธมิตรนมแม่โลกได้เปิดตัวคำขวัญที่ใช้ ในการรณรงค์ประจำสัปดาห์นมแม่โลกในปีนี้ ว่า BREASTFEEDING SUPPORT : Close to Mothers ซึ่งมีความหมายว่า รวมพลังช่วยเด็กไทยให้ได้กินนมแม่ และยังได้นำสัญลักษณ์ที่เป็นรูปวงกลม 5 ห่วงที่มีความเชื่อมโยงกันมาล้อมรอบศูนย์กลาง ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้หญิงที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพื่อสื่อให้เห็นถึงการเชื่อมโยงประสานงานในภาคส่วนต่างๆ ทางสังคม
การจัดสัปดาห์นมแม่โลกในปีนี้ เพื่อให้ความสำคัญกับแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และทำหน้าที่เป็นเพื่อนดูแลให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาแก่แม่คนอื่นๆ ในลักษณะเพื่อนช่วยเพื่อน ขยายโปรแกรมการสร้างกลุ่มให้คำปรึกษา รวมถึงส่งเสริมผู้ที่สนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ด้วยการจัดการอบรมเพื่อให้เกิดความก้าวหน้า พร้อมกับสร้างการสนับสนุนและความช่วยเหลือจากภาคส่วนต่างๆ ในการให้คำปรึกษา แก้ปัญหาให้กับแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในช่วงหลังคลอด และเรียกร้องให้รัฐบาลและระบบบริหารสาธารณสุขตามโรงพยาบาลต่างๆ ให้บริการตามหลักการปฏิบัติตามบันได 10 ขั้นของการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างจริงจัง