Toggle navigation
วันจันทร์ ที่ 9 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
สุขภาพ & ความงาม
"แสงแดด-ยาคุม"ตัวเร่ง "กระ-ฝ้า"
"แสงแดด-ยาคุม"ตัวเร่ง "กระ-ฝ้า"
วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556
Tweet
ด้วยปัญหาหน้าหมองคล้ำเต็มไปด้วยกระ ฝ้า ยังคงเป็นปัญหาที่กวนใจของหนุ่มๆ สาวๆ พ.ญ.ฐิติกาญจน์ ธีระพันธ์เจริญ ดอกเตอร์กาญจน์ คลินิก เปิดเผยว่า เห็นได้จากคนไข้ที่เข้ามาทำการรักษาที่มีมากถึง 70% แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าใบหน้าของเราเป็นฝ้า กระ หรือไม่ให้สังเกตบริเวณที่พบการเกิดกระ ฝ้า ได้บ่อย นั่นคือ โหนกแก้มทั้ง 2 ข้าง จมูก หนวด หรือทั้งใบหน้า
สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของการสร้างเม็ดสี หรือที่เรียกว่าเมลานินมากกว่าปกติ ส่วนลักษณะของกระ จะมีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาล มีขนาดเล็กกว่า 0.5 เซนติเมตร กระจายอยู่บริเวณใบหน้า หรือผิวหนังที่ถูกแสงแดดเป็นประจำ แต่ทั้งนี้อาจจะมีสาเหตุมาจากพันธุกรรมร่วมด้วย
วิธีที่จะป้องกันไม่ให้ใบหน้าเกิดกระ ฝ้า ต้องเริ่มตั้งแต่การหลีกเลี่ยงแสงแดด ใช้ครีมกันแดดที่มี เอสพีเอฟ 50 ขึ้นไป ทาให้ทั่วใบหน้า และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาฮอร์โมนอย่างยาคุมกำเนิด แต่ถ้าหากยังเกิดกระและฝ้าอีก ก็ควรจะต้องเริ่มการรักษา ซึ่งมีหลายวิธีการ ขึ้นอยู่กับชนิดของฝ้า ความลึกของเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวหนัง โดยการรักษามีตั้งแต่ใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง การทายา และการใช้เทคโนโลยีเครื่องมือต่างๆ เข้าช่วย
พ.ญ.ฐิติกาญจน์ บอกว่า การรักษาโดยใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง สามารถทำให้กระ ฝ้า จางลงได้ ด้วยการใช้กรดผลไม้ และกรดวิตามินเอ มาช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังกำพร้า ทำให้เม็ดสีเมลานินถูกกำจัดออกให้เร็วยิ่งขึ้น และยังมีกลุ่มที่ลดการสร้างเม็ดสี อาทิ โคจิค เอซิด และวิตามินซี อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการใช้ยาทา ซึ่งจะมีส่วนผสมของ Hydroquinone ซึ่งจะช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน แต่ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือนถึงจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลง แต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยเฉพาะ เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น อาการแสบแดง ระคายเคือง อาจทำให้คล้ำมากกว่าเดิม หรือกลายเป็นด่างขาวได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง หรือการใช้ยาทา จะเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นกระ ฝ้า ที่เม็ดสีเมลานินอยู่สะสมในชั้นผิวหนังกำพร้า
อย่างไรก็ตาม การรักษากระ ฝ้า ยังมีข้อจำกัดอยู่มาก เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดที่แน่ชัด ทำให้การรักษาในปัจจุบันยังเป็นการรักษาที่ปลายเหตุ และการรักษาแต่ละชนิดยังสามารถเกิดผลข้างเคียงได้ จึงควรเลือกวิธีการรักษาด้วยความรอบคอบ และควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพื่อความปลอดภัย และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษา
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ