ในปัจจุบันวิถีชีวิตของผู้คน ต่างเร่งรีบมากยิ่งขึ้น เวลาเป็นสิ่งที่มีค่าที่จะต้องใช้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด ดังนั้นในเรื่องวิถีการรับประทานอาหารก็ต้องสะดวก สบาย รวดเร็ว ตามไปด้วย จึงทำให้คนในสังคมปัจจุบันนี้นิยมซื้ออาหารที่บรรจุอยู่ในโฟม หรือกล่องพลาสติกมารับประทานมากขึ้น เพราะถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนในยุคปัจจุบัน
แต่ใครจะตระหนักบ้างว่าวิถีความสะดวกสบายในการเลือกรับประทานอาหารจากบรรจุภัณฑ์เหล่านั้น จะมีสารบางอย่างที่มีอันตรายปนเปื้อนมาร่วมกับอาหารที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละวัน ที่อาจจะส่งผลอันตรายถึงชีวิตได้ ถ้าได้รับสารเหล่านั้นไปเป็นเวลานาน
ดังนั้น ท่านๆ ทั้งหลายรู้หรือไม่ว่าภาชนะใส่อาหารที่ใช้แล้วทิ้ง หรือใช้สำหรับห่ออาหารกลับไปรับประทานที่บ้านนั้นที่เรารู้จักกันว่า กล่องโฟม หรือกล่องพลาสติก นั้น โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นภาชนะที่ทำมาจากของเหลือที่ออกจากการกลั่นน้ำมัน หรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ปิโตรเลียมเบส ซึ่งภาชนะเหล่านี้นั้น จะมีสารเคมีอันตรายปนเปื้อนออกมากับอาหาร เช่น สารสไตรีน ในโฟม สารโพลีไวนิลคลอไรด์ และไดออกซิน ที่ออกมาจากพลาสติก สารเคมีเหล่านี้ล้วนเป็นสารที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ถ้ามีการรับเข้าไปในร่างกายอย่างต่อเนื่อง และถ้าเราไม่ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ภาชนะนั้นเราจะมีโอกาสรับสารเหล่านี้เข้าไปในร่างกายโดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดโรคมะเร็งมากกว่าปกติหลายเท่าตัว
น.พ.วีรฉัตร กิตติรัตนไพบูลย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านบรรจุภัณฑ์ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) ภายใต้แบรนด์ "เกรซ" ให้ข้อมูลว่า สารสไตรีน, สารโพลีไวนิลคลอไรด์ และไดออกซิน นั้นได้ถือว่าเป็นสารอันตรายที่ทางสหรัฐฯ และองค์การอนามัยโลกได้ประกาศขึ้นว่าเป็นสารก่อมะเร็ง เพราะได้มีการวิจัยออกมาแล้วว่าคนที่รับประทานอาหารกล่องโฟมทุกวัน วันละอย่างน้อย 1 มื้อ ติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งสูงกว่าคนปกติถึง 6 เท่า โดยมะเร็งที่เสี่ยงเป็นมากที่สุดคือ มะเร็งตับซึ่งมีโอกาสเป็นได้มากกว่าคนที่ชอบรับประทานสุราเป็นประจำอีกด้วย อีกทั้งสารดังกล่าวจะออกฤทธิ์ทำให้สมองมึนงง สมองเสื่อมง่ายหงุดหงิดง่าย ระบบเลือด ประสาท มีปัญหาได้ และมีผลต่อฮอร์โมนเพศหญิงทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ อาจจะทำให้เป็นมะเร็งเต้านมได้ ส่วนผู้ชายถ้าได้รับปริมาณมากๆ มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากเช่นกัน นอกจากนี้ ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ รับประทานอาหารบรรจุในกล่องโฟมเป็นประจำ มีโอกาสที่ลูกในท้องจะสมองเสื่อมเป็นเอ๋อ อวัยวะบางส่วนพิการได้
ทั้งนี้ สาเหตุที่ผู้บริโภคมีโอกาสได้รับสารสไตรีนในกล่องโฟมหรือกล่องพลาสติกได้ง่ายนั้นมาจาก 1.อุณหภูมิที่ร้อนขึ้นหรือเย็นลง ทำให้สไตรีนซึมเข้าสู่อาหารได้สูง 2.ถ้าปรุงอาหารโดยใส่น้ำมัน น้ำส้มสายชูแอลกอฮอล์ จะดูดสารสไตรีนจากกล่องโฟมได้มากกว่าปกติ 3.ถ้าซื้ออาหารใส่กล่องทิ้งไว้นานๆ ไม่ได้รับประทาน อาหารจะดูดสารสไตรีนได้มาก 4.ถ้านำอาหารที่บรรจุโฟมเข้าไมโครเวฟ สไตรีนจะไหลออกมาในปริมาณมาก และ 5.ถ้าอาหารสัมผัสพื้นที่ผิวกล่องโฟมมากๆ รวมถึงร้านไหนตัดถุงพลาสติกใสรองอาหาร ขอบอกว่าได้รับสารก่อมะเร็ง 2 เด้ง ทั้งสไตรีนและไดออกซินจากถุงพลาสติกเลยทีเดียว
ทั้งนี้ น.พ.วีรฉัตร ได้บอกเพิ่มเติมว่า ในฐานะที่ตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จึงได้คิดค้นนวัตกรรม กล่องไบโอชานอ้อย หรือ "ภาชีวะเกรซ" เป็นภาชนะที่ผลิตจากเยื่อพืชธรรมชาติบริสุทธิ์ 100% มีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ดีกว่าภาชนะและบรรจุภัณฑ์ทั่วไป คือ ทนน้ำและน้ำมันร้อนได้ ทนความเย็นได้ บรรจุอาหารเข้าไมโครเวฟและเตาอบได้อย่างปลอดภัยไม่มีสารก่อมะเร็ง และสารเคมีที่เป็นอันตรายปนเปื้อนในอาหาร และยังสามารถย่อยสลายได้ 100% ภายใน 6 สัปดาห์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นภาชนะและบรรจุภัณฑ์ที่ดีกับสุขภาพ และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
"นวัตกรรม กล่องไบโอชานอ้อย หรือภาชีวะเกรซ นี้ คือ ภาชนะเพื่อชีวิตที่ยืนยาว ผลิตจากเยื่อพืชธรรมชาติบริสุทธิ์ผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย ผ่านการรับรองด้วยมาตรฐานระดับนานาชาติถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้สำหรับผู้บริโภคที่ยังต้องใช้ชีวิตประจำวันอย่างเร่งรีบ แต่ยังคงรักสุขภาพ อยากมีสุขภาพร่างกายที่ดีได้เลือกใช้กันเพื่อความปลอดภัยในตัวของคุณและคนที่คุณห่วงใยให้มีสุขภาพที่ดีและมีชีวิตที่ยืนยาว พร้อมกับยังช่วยลดภาวะโลกร้อน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่จะยิ่งทำให้โลกของเราน่าอยู่ยิ่งขึ้น"