ปัจจุบันไม่ว่าใครต่างก็ต้องการมีสุขภาพดี ซึ่งทำให้หลายคนสรรหาอาหารเสริมและยาทั้งสมุนไพรและยาสังเคราะห์มารับประทาน แต่แท้จริงแล้วจิตใจนั้นเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบของสุขภาพที่ดี
มีผู้กล่าวว่า สุขภาพดีไม่ใช่เรื่องยาก แต่จุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพดีประการสำคัญจะต้องเริ่มต้นมาจากใจ แรงจูงใจในการอยากมีสุขภาพดี จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตนเอง การปลุกพลังบวกทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่อยู่ภายใต้จิตใจ ทัศนคติในทางบวกที่อยากจะมีสุขภาพดี เริ่มต้นจากใจตนเองและจากใจคนรอบข้าง
น.พ.วิโรจน์ ตระการวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลนครธน ได้ให้แนวคิดและแรงจูงใจสำคัญในการนำพาไปสู่การมีสุขภาพดี
น.พ.วิโรจน์ กล่าวว่า ควรเริ่มปรับแนวคิดตั้งแต่เริ่มต้น คือ การมีสุขภาพดีเพื่อที่จะไปช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อที่จะไม่เป็นภาระแก่ผู้อื่น แนวคิดเช่นนี้ จะทำให้มีพลังบวกในการอยากมีสุขภาพดีมากกว่าแนวคิดที่อยากจะมีสุขภาพดีเพียงแค่เพื่อตนเอง
การตั้งเป้าว่าเราจะมีสุขภาพดีเพื่อลูก เพื่อดูแลพ่อแม่ เพื่อดูแลลูกน้อง เพราะเราไม่ได้อยู่เพื่อตนเองเพียงอย่างเดียว แต่เราอยู่เพื่อคนอื่นด้วย รวมทั้งการได้รับแรงจูงใจจากผู้อื่น การคบ เพื่อนที่ดี มีกัลยาณมิตรที่ดี นำพากันไปสู่ทางที่ดี รับประทานอาหารดี ออกกำลังกายดี
กล่าวได้ว่าแรงจูงใจภายนอกนับว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลดีต่อการดูแลสุขภาพของตนเองทั้งทางร่างกายและจิตใจ
นอกจากนี้ ความตั้งใจที่จะค้นหาหนทางว่า ทำอย่างไรให้มีสุขภาพดี อาทิ การศึกษาค้นคว้า ขอคำแนะนำจากผู้รู้ หาความรู้ จากหนังสือ รับฟังเสวนา พูดคุยสอบถามแพทย์หรือเข้าคอร์สอบรม สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน เพราะเป็นการเรียนรู้วิธีการในการทำให้ถึงจุดมุ่งหมาย
แนวคิดต่างๆ นี้จะสำเร็จได้ต้องเริ่มจากใจเราเอง หากใจยังมีพลังบวกไม่เพียงพอ ให้ลองหาคนที่มีพลังบวก เพื่อส่งพลังบวกให้เรานำพาไปสู่ทางที่ดีหรือการหาพลังบวกจากธรรมชาติ ซึ่งก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีการในการชาร์จแบตเตอรี่ร่างกาย
การปลุกพลังบวกจะต้องเริ่มต้นมาจากใจ เริ่มต้นจากการมีทัศนคติที่ดีอยากมีสุขภาพที่ดี โดยคนที่มีสุขภาพจิตและใจที่ดีจะมีฮอร์โมนและภูมิต้านทานในการเสริมสร้างสุขภาพกายดี ทันทีที่เรามีสุขภาพจิตดี จิตจะนำส่งไปที่สมองและสมองจะสร้างโปรตีนออกมาในการควบคุมการทำงานของร่างกายในรูปแบบฮอร์โมน ภูมิต้านทานและการเคลื่อนที่ของจักระประสาททั้งหมด
จะสังเกตได้ว่า คนที่มีสุขภาพจิตที่ดี อารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ฝึกจิตฝึกสมาธิเป็นประจำ คนกลุ่มนี้จะมีสุขภาพกายที่ดี ในขณะที่คนโกรธง่าย หงุดหงิด ฉุนเฉียว กลุ่มคนเหล่านี้จะมีสุขภาพแย่ลง เจ็บป่วยง่ายและนาน
โดยมีข้อพิสูจน์ออกมาว่า โรคที่น่ากลัวและส่งผลโดยตรงที่สุดคือโรคมะเร็ง โดยปกติในร่างกายจะมีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา สำหรับคนที่มีสุขภาพจิตดี ร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานไปกินเซลล์มะเร็ง ในทางตรงกันข้ามในกลุ่มคนที่มีความเครียด กดดัน อึดอัด กลุ้มใจ นอนไม่หลับ ภูมิต้านทานก็จะตกลงทำให้มีโอกาสในการเกิดมะเร็ง
นอกจากนี้ น.พ.วิโรจน์ ยังได้ให้เคล็ดลับการมีสุขภาพดี 6 ประการสำคัญที่ช่วยให้สามารถดูแลตัวเองได้ง่ายๆ ดังต่อไปนี้
1.การเลือกรับประทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ เลือกอาหารที่ครบหมวดหมู่ ถูกสุขลักษณะ ผักสด ผลไม้สด ธัญพืชที่ไม่ผ่านการฟอกสี ลดแป้ง น้ำตาล ไขมัน เค็ม หวาน
2.การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
3.การพักผ่อนให้เพียงพอ นอนวันละ 7-8 ชั่วโมง เข้านอนเร็ว ตื่นเช้า โดยพบว่าคนที่นอนน้อยมีโอกาสอ้วนได้ง่ายกว่าคนที่นอนในปริมาณที่เพียงพอ นอกจากการนอนน้อยจะทำให้สุขภาพไม่ดีแล้ว การนอนน้อยยังทำให้อ้วนได้ง่าย เพราะมีการหลั่งฮอร์โมนเจริญอาหารออกมาอีกด้วย
4.การฝึกจิตใจให้ดี ไม่เครียด ค้นหาตนเองให้เจอถึงสาเหตุความเครียดว่าเกิดจากสิ่งใด หากิจกรรมทำให้คลายเครียด อาทิ อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นดนตรี ออกกำลังกาย เล่นโยคะ สวดมนต์ไหว้พระ ท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งพูดคุยกับคนที่ชอบพอ
5.การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีและถูกต้อง ไม่มีมลภาวะ ในที่นี้รวมถึง คน ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
6.การแพทย์ ไม่จำเป็นต้องรอให้เจ็บป่วยก่อนจึงพบแพทย์ แต่การพบแพทย์ควรเริ่มต้นตั้งแต่การตรวจสุขภาพ การปรึกษาถึงแนวทางและวิธีการที่จะทำให้เรามีสุขภาพดี
"ง่ายๆ เพียงเท่านี้ เราก็สามารถมีสุขภาพกายและใจที่ดี มีความสุข สุขภาพดีเริ่มต้นที่ใจ สุขภาพดีหาซื้อไม่ได้ แต่ต้องเริ่มต้นจากใจตนเอง" น.พ.วิโรจน์ กล่าวทิ้งท้าย