ใครที่กำลังป่วยหนักท้อแท้ใจอยากจะให้อ่านเรื่องราวของ “ดี ศิวัตรา สิงห์ทอง” อดีตผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์บ้านเมือง ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะ 4 ที่สร้างกำลังใจให้กับผู้ป่วยด้วยกันจนเป็นที่เลื่องลือ เพราะดีเป็นผู้ป่วยที่เลิศมาก ไม่ว่าอาการโรคจะเลวร้ายแค่ไหนก็สวยไว้ก่อน ผมร่วงก็ใส่วิกสู้ตาย แต่งหน้าทาปากไปคีโม ทำเอาผู้ป่วยรายอื่นๆ ต้องมองเหลียวหลังในความ ความเข้มแข็ง เพราะป่วยมะเร็งขั้น 4 นี่ก็เท่ากับยืนปากเหวแล้ว วันนี้ดียินดีจะเปิดเผยเรื่องราวของตัวเองให้ฟัง ขั้นตอนการรักษา และทางรอดมะเร็งของดีบอกเลยว่าไม่ธรรมดา งานมูเตลูต้องมา

“เราตรวจเจอมะเร็งเต้านมเพราะเพื่อนชวนไปตรวจสุขภาพโปรแกรมวันแม่ ตรวจมะเร็งเต้านมกับมะเร็งมดลูก พยาบาลกับคุณหมอที่ตรวจก็สีหน้าไม่ค่อยดี เขาก็มีการบอกกันว่าเจอก้อนลักษณะที่น่ากังวลที่เต้านมข้างซ้ายค่ะ คุณหมอเจาะก้อนเนื้อปรากฎว่าเป็นเนื้อร้าย แต่เป็นระยะศูนย์ ไปโรงพยาบาลไหนทุกโรงพยาบาลก็ขอผลตรวจจากโรงพยาบาลเดิม แล้วก็ถามเราว่าคิดมาหรือยังว่าจะตัดแบบไหน เราก็คิดว่า เฮ้ย มันเพิ่งระยะศูนย์เองมันน่าจะทำอะไรได้มากกว่าตัดทั้งเต้าและเลาะต่อมน้ำเหลืองทั้งหมดนะ ตอนนั้นไปที่ไหนก็จะตัดหมด เราเลยไม่รักษา”

“ผ่านไปหลายปีก็ไม่มีอาการอะไร แต่พอเราไปออกกำลังกาย กลายเป็นว่าเจ้าก้อนนี้มันก็เลยขยายและเริ่มปวดแขน คุณหมอบอกว่ามันไปเกาะกล้ามเนื้อ เลยทำให้เราปวด ก้อนเนื้อมันใหญ่ ประมาณ 10 ซม. คราวนี้ก็เลยเข้าสู่กระบวนการรักษา”

“ช่วงที่คีโมตอนแรกๆ เราก็ลั้ลลาไม่ค่อยมีเอฟเฟคเท่าไหร่ ใครบอกให้กินอาหารอะไรก็ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าตัวเองแข็งแรง แต่พอเข็มหลังๆ มันเริ่มเหนื่อย ทำอะไรก็ไม่ได้ ขึ้นบันไดทีก็ต้องขึ้นทีละขั้นมันจะเหนื่อย นอนก็นอนไม่ได้หายใจไม่ออก อาหารไม่ย่อยและมีลมในท้องเยอะ”

“ตอน 4 เข็มแรกเป็นยาสูตรน้ำแดงก็จะทำให้คลื่นไส้อาเจียนผมล่วง พอ 4 เข็มหลังจะเป็นอีกสูตรจะทำให้ปวดเมื่อยกระดูกปวดตามข้อ หลังจากทำมาก็ทำให้เดินไม่ได้ เดินแล้วปวดตามข้อปวดส้นเท้า นั่งแล้วจะลุกไม่ได้ นอนแล้วก็จะลุกไม่ได้ ถ้าจะลุกขึ้นมาก็ต้องหยุดพักนึงเหมือนคนกระดูกหักเหมือนคนแก่ เดินแล้วก็ต้องหยุด จะปวดตามข้อนิ้วอะไรปวดหมดเลย หมอให้ยาแก้ปวดมาแต่พอกินแล้วมันอาเจียนๆ กินอะไรก็อาเจียน จนเป็นลมในห้องน้ำกลับน็อกเข้าโรงพยาบาล สรุปคือยาแก้ปวดกระดูกที่โรงพยาบาลให้มาทำให้เราคลื่นไส้อาเจียน ก็เลยต้องหยุดกินยาแก้ปวด ก็เลยกินอะไรที่แก้ปวดไม่ได้เลย”

แต่ไม่ว่าจะป่วยซักแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถทำร้ายความงามของดีได้ ทุกครั้งที่ไปโรงพยาบาลเพื่อทำคีโม ดีจะบรรจงแต่งหน้าแต่งตัว ทำเอาหมอพยาบาลคนป่วยอื่นๆ ตะลึงไปเลยทีเดียว

“ถ้าใครเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือกำลังใจ ก่อนที่จะได้กำลังใจจากคนอื่นเราต้องให้กำลังใจตัวเองก่อน ช่วงที่ไปฉายแสงเราก็จะแต่งตัวสวยทุกวัน จะรู้สึกว่าทำไมฉันป่วยแล้วฉันจะต้องโทรมเหรอ จะต้องหมดอาลัยตายอยากเหรอ ก็จะจ้องแต่ว่าใส่วิกแต่งหน้า แต่งตัวไปทุกวัน ผู้ป่วยคนอื่นๆ เขาก็มอง เข้ามาขอถ่ายรูป เข้ามาพูดคุย ถามว่าป่วยจริงๆ เหรอ ขั้น 4 แล้วเหรอ ทำไมไม่โทรม ผิวพรรณก็ดูดีมาก เขาประทับใจเขาชื่นชมเรา เราก็มีความสุข และเขาเองก็ได้กำลังใจจากเรา ได้ไปสร้างกำลังใจให้ตัวเอง พลังตรงนี้มันกลับมาหาเราด้วยนะ เรารู้สึกดีมากๆ ที่เราเองได้เป็นพลังเป็นกำลังใจให้คนๆ หนึ่งได้มองโลกอีกมุมและลุกขึ้นมาสู้”

เผยเคล็ดลับสู้มะเร็ง รับมือผลข้างเคียงจากคีโม

“สิ่งสำคัญคือเราต้องเตรียมความพร้อมให้กับร่างกายตัวเอง เราคิดว่าเราแข็งแรงแต่จริงๆ แล้วพอโดนคีโมเข้าไปนี่มันไปทำลายร่างกายไปทำลายเซลส์ดีๆ ไปหมด มันทำให้เราอ่อนแอ เราต้องบำรุงร่างายให้ดี ช่วงนั้นนะที่ไหนว่าดี ที่ไหนว่าศักดิ์สิทธิ์เราก็ไปตะเวรไหว้หมด หมอดูที่ว่าแม่นๆ ก็ไปหมด เขาก็บอกว่า มันไม่เป็นอะไรมากยังไงก็หาย”

“แล้วมันเป็นความโชคดีมากๆ ที่พอดีมีน้องที่เป็นนักข่าวมาเยี่ยมเขาก็ลองเอาเสริมอาหารพูลคาวมาให้กินของอาจารย์นิติกฤตย์ กิตติศรีวรนันท์ BLS365 แล้วน้องก็พาเราไปทานข้าว ซึ่งปกติเวลาเรากินข้าวจะกินอะไรไม่ได้ท้องอืดหายใจไม่ออก แต่วันนั้นก่อนออกไปกินอาหารน้องบอกให้กินก่อนไปกินอาหาร 2 เม็ด เราก็กินไป 2 เม็ด พอกลับมาจากทานอาหารปรากฏว่า ท้องอืดมันหาย ไอ้ที่เป็นแก๊สในท้องมันหาย จากที่เราต้องเดินขึ้นบันไดก้าวหนึ่งแล้วพัก ก็กลายเป็นว่าเดินขึ้นไปถึงข้างบนโดยไม่เหนื่อย”

 “จากที่เคยนั่งแล้วลุกไม่ได้เพราะปวดกระดูก นอนก็ลุกเดินไม่ได้เลย ต้องซักพักนึงค่อยๆ เดินเหมือนคนกระดูกหัก แต่พอกินอันนี้ไปมันเดินได้เหมือนเราไม่ได้เป็นอะไร มันเหลือเชื่อมากพึ่งกินไปแค่ 2 เม็ด มันดีขึ้นคือหายเหนื่อยไปเลย แข็งแรงขึ้น กินข้าวก็ท้องไม่อืด และไม่ปวดกระดูกแล้ว”

“พอไม่ได้กิน พอหมดปุ๊บอาการมันกลับมาหมดเลย จากที่เราไม่เหนื่อยก็กลายเป็นเหนื่อยเหมือนเดิม จากที่ท้องไม่อืดก็ก็กลับมาท้องอืดอีกแล้ว จากที่เคยเดินได้แต่นี่พอนั่งแล้วแบบ...ใครอย่าเรียกนะ พอนั่งแล้วจะลุกไม่ได้ อย่างพอลงจากรถแล้วจะเดินไม่ได้ต้องยืนอยู่ข้างรถขาเหมือนคนขาหัก อาบน้ำก็เหนื่อย เหมือนมันไปฟื้นฟูส่วนที่ถูกคีโมทำลายไป”

มหัศจรรย์บทสวดสอนเจ้ากรรมนายเวรชุบชีวิต

“อาจารย์นิติกฤตย์ก็ได้ฝากบทสวดสอนเจ้ากรรมนายเวรมาให้สวดทุกวัน เราก็สวดทุกวัน มันเห็นผลมีแต่เรื่องโชคดีเข้ามาคนนั้นคนนี้ก็ให้ความช่วยเหลือ มีพี่คนหนึ่งก็พาเราไปรักษาแพทย์ทางเลือกที่เชียงรายโดยการออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ เพื่อนก็เอาของมาไลฟ์สดหาเงินช่วยเราเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปหาหมอ”

“ตอนที่เราคีโมร่างกายของเราไม่ไหว เราตั้งใจจะบอกหมอว่า เราไม่ทำต่อได้ไหม แต่หมออีกคนก็บอกว่า การจะทำคีโมคือโอกาสบางคนไม่ทำแล้วหนีไปเลยทิ้งโอกาส เราก็เปลี่ยนใจยอมทำให้ครบ พอเราสวดมนต์และวันรุ่งขึ้นไปหาหมอ เราก็เล่าให้หมอฟังว่า เราอาการไม่ค่อยดีนะ อยู่ดีๆ หมอก็พูดว่า ถ้างั้นก็ไม่ต้องทำต่อแล้ว ทำแค่นี้พอแล้วไม่ต้องทำแล้ว เราก็แบบมันเป็นอย่างใจเราเลยเราไม่อยากทำ มันมีอะไรดีๆ เข้ามาหลังสวดมนต์”

“จากการผ่าชิ้นเนื้อออกมาแล้ว หมอตัดต่อมน้ำเหลืองทั้งหมด 30 ต่อม เนื้อก้อนใหญ่ 10 เซนติเมตร ซึ่งตอนไปตรวจหมอทุกคนจะสีหน้าไม่ค่อยดี พอเราถามว่าเป็นระยะไหนก็แบบ น่าจะ 4 แล้วล่ะ อย่างน้อยๆ ก็ต้อง 4 คือมัน 10 เซ็นมันน่าจะกระจายไปแล้วทั่วตัว อย่างบางคนเป็นแค่เซ็นเดียวก็ไปปอดไปต่อมน้ำเหลืองแล้ว บางคนแค่เดือนเดียวจากเซ็นเดียวกลายเป็นเซ็นครึ่ง”

“ส่วนของเราจาก 10 เซ็นคีโมไปแล้วเหลือ 5 เซ็น ซึ่งหมอก็ยังไม่วางใจ ก็เลยคิดว่าคิดว่า มันต้องไปเยอะแล้วล่ะ หมอก็เลยตัดต่อมน้ำเหลืองไป 30 ต่อม แต่ต่อมน้ำเหลืองที่ตัดไป 30 ต่อม ตรวจดูแล้วไม่มีมะเร็งแพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองเลยแม้แต่อันเดียว”