Toggle navigation
วันจันทร์ ที่ 9 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
สุขภาพ & ความงาม
"ไข้เลือดออก" ป้องกันได้ลดอัตราเสี่ยงด้วยตัวเอง
"ไข้เลือดออก" ป้องกันได้ลดอัตราเสี่ยงด้วยตัวเอง
วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556
Tweet
จากสถานการณ์การระบาดของยุงและโรคไข้เลือดออกในประเทศไทยที่มีความรุนแรงมากขึ้นในปีนี้ โดยข้อมูลจากกรมควบคุม โรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ระบุถึง ตัวเลขผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกจนถึง วันที่ 2 ก.ค.56 มีสถิติผู้ป่วยสะสม รวมกว่า 59,318 ราย คิดเป็นอัตรา เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2555 ถึงร้อยละ 219.4 หรือมีผู้ป่วยมากกว่าปีที่แล้วถึง 3.2 เท่า อีกทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ก.ค. นี้ เนื่องจากมีปริมาณยุงลาย ซึ่งเป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออกแพร่พันธุ์เป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสเสี่ยงต่อการถูกยุงกัดและเป็นโรคไข้เลือดออกเพิ่มมากขึ้นด้วย
นายแพทย์สมชาย แก้วเขียว รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ด้านปฐมภูมิ โรงพยาบาลพุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา ได้บอกว่า ไข้เลือดออกจัดเป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต และปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันได้ เมื่อเป็นแล้วต้องรีบเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที เพราะถ้าปล่อยไว้ผู้ป่วยอาจมีอาการ เลือดออกภายในและเสียชีวิตได้ ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ค่อนข้างสูง
"ไข้เลือดออก เป็นโรคที่เกิดจากยุงซึ่งเป็นพาหะของโรค และมักพบบ่อยใน เด็กต่ำกว่า 15 ปี โดยเฉพาะช่วงอายุ 2-8 ปี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ใหญ่จะไม่มีโอกาสเป็นโรคไข้เลือดออกได้ โดยเฉพาะต้องอาศัยอยู่ในแหล่งที่ชุกชุมไปด้วยยุงตัวร้าย โดยอาการของไข้เลือดออกในเด็กอาจจะมีเพียงอาการไข้และผื่น ในผู้ใหญ่ที่เป็นไข้เลือดออก อาจจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดตามตัว ปวดกระบอก ตา ปวดกล้ามเนื้อ หากไม่คิดว่าเป็นโรค ไข้เลือดออก อาจจะทำให้การรักษาช้า ผู้ ป่วยอาจจะเสียชีวิตได้ ดังนั้น การป้องกัน ตนเองไม่ให้ถูกยุงกัดจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ผู้บริโภคปลอดภัยจากโรคไข้เลือดออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
ดังนั้น ซอฟเฟล ในฐานะผู้ผลิตสเปรย์และโลชั่นทากันยุง อันดับหนึ่งในเมืองไทย และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการแพร่ระบาดของยุงและโรคไข้เลือดออกดังกล่าว จึงได้จัดแคมเปญ "วันปลอดภัยจากยุง" ซึ่งเป็นแคมเปญซีเอสอาร์ครั้งใหญ่ที่จัดขึ้นในประเทศไทย เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครง การรณรงค์ป้องกันการระบาดของยุงและโรคไข้เลือดออก ตลอดจนส่งเสริมการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับการป้องกันตน เองจากยุงซึ่งเป็นพาหนะนำโรคร้ายแรง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่มีการระบาดของ ยุงลายและไข้เลือดออกอย่างหนักในหลาย พื้นที่ของประเทศ
โดย นางสาวแครอล ลาย ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ประจำภูมิภาค กลุ่มบริษัท เอเนซีส กรุ๊ป ผู้ผลิตสเปรย์และโลชั่นทากันยุงซอฟเฟล กล่าวว่า บริษัทได้ดำเนินการจัดกิจกรรมต่างๆ ภายใต้แคมเปญดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ 1.การมอบผลิต ภัณฑ์โลชั่นทากันยุงซอฟเฟล จำนวน 2 ล้านซอง รวมมูลค่า 10 ล้านบาท และโปส เตอร์รณรงค์ป้องกันลูกน้ำยุงลาย จำนวน 50,000 แผ่น ให้แก่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงคป้องกันการระบาดของยุงและโรคไข้เลือดออกในช่วงฤดูฝน 2.การแจกผลิตภัณฑ์กันยุงกว่า 200,000 ชิ้น ให้กับผู้บริโภค โดยผู้สนใจสามารถติดต่อขอรับได้ที่โรงพยาบาล 20 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้-วันที่ 15 ส.ค.นี้ หรือจนกว่าของจะหมด 3.การจัดกิจกรรม "วันปลอดภัยจากยุง" ที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง โดยรณรงค์ให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันตนเองจากยุงและไข้เลือดออก พร้อมมอบผลิตภัณฑ์โลชั่นทากันยุงซอฟเฟล จำนวน 50,000 ซอง สำหรับให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวได้ใช้เป็นเวลา 1 เดือน และการบริจาคผลิตภัณฑ์ซอฟเฟล ให้กับหน่วยงานต่างๆ อาทิ โรงพยาบาลสงขลา หน่วยทหารชายแดนในพื้นที่จังหวัด ตาก การบริจาคให้กับผู้ป่วยเอชไอวีและศูนย์ บริการสาธารณสุข คลองเตย เป็นต้น
"สำหรับในช่วงหน้าฝนนี้ จะมีการระบาดของยุงลายและไข้เลือดออกอย่างหนักในหลายพื้นที่ ส่งผลทำให้ตลาด ยากันยุงจะมีการเติบโตสูงกว่าช่วงปกติถึง 30% และบริษัทก็มียอดขายเติบโตมากขึ้นถึง 30% เช่นกัน จากตลาดรวมผลิตภัณฑ์ยากันยุงในประเทศไทยในปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 4-5% จาก ปีที่แล้วที่มีมูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มสเปรย์ฆ่ายุง 55% กลุ่มยา จุดกันยุง 30% กลุ่มสเปรย์และโลชั่นทา กันยุง 15% ซึ่งในช่วงปี 2552-2555 ใน กลุ่มสเปรย์และโลชั่นทากันยุงจะมีการเติบโตสะสมถึง 63% และแนวโน้มในปีนี้คาดว่าจะมีเติบโตถึง 10% จากปีที่แล้ว ที่มีมูลค่า 600 ล้านบาท"
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ