Toggle navigation
วันจันทร์ ที่ 9 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
สุขภาพ & ความงาม
รับมือ 6 โรคร้าย หน้าฝน สไตล์อายุรวัฒน์
รับมือ 6 โรคร้าย หน้าฝน สไตล์อายุรวัฒน์
วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556
Tweet
สำหรับประเทศไทยตั้งแต่เดือน ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไปจนถึงประมาณเดือนตุลาคม นับเป็นฤดูฝน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่กล่าวได้ว่า มีโรคภัยไข้เจ็บชุกชุมมากช่วงหนึ่งของปี ซึ่งเป็นผลมาจากทั้งสภาพอากาศที่เย็นและเปียกชื้น รวมถึงแมลงที่เพิ่มมากขึ้น
น.พ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการ ศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ กล่าวว่า น้ำฝนนอกจากจะนำความชุ่มฉ่ำ สดชื่น มาให้ แต่ก็สามารถนำสารปนเปื้อนและเชื้อโรคนานาประการมาให้เช่นเดียวกัน
โดยโรคที่มักพบได้ในหน้าฝนจะมีด้วยกัน 6 โรค ได้แก่ โรคจากไวรัส ซึ่งไวรัสที่สำคัญคือ ไรโนไวรัส ทำให้เกิดหวัดคัดจมูกและเกิดอาการไข้ได้ นอกจากนี้ ยังมีไวรัสอาร์เอสวี ที่มักเจาะกลุ่มทารกทำให้เจ็บป่วยไม่สบายถึงขั้นหลอดลมฝอยอักเสบและยังมีไวรัสไข้หวัดใหญ่ รวมถึงไข้เลือดออกและอื่นๆ
คอติดเชื้อ โรคยอดนิยมที่พบมากในฤดูฝน ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บคอเป็นหลัก มีไข้ปวดเมื่อยตามตัว และในบางรายจะมีน้ำมูกร่วมด้วย เกิดได้จากอากาศที่เย็นชื้นจนเป็นที่ชื่นชอบของไวรัส และเกิดได้จากการเผลอกลืนน้ำฝนปนเปื้อนลงคอไปจนทำให้คออักเสบ
ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ เป็นอีกเรื่องที่พบบ่อย ในฤดูฝนน้ำที่ปนเปื้อนอาจพบเชื้ออีโคไล ซึ่งเป็นเชื้อที่ทำให้ลำไส้อักเสบติดเชื้อได้ ในบรรดาอาหารที่เข้าข่ายเสี่ยงมักเป็นของสดอย่างผักผลไม้ตามตลาดสดที่เฉอะแฉะ น้ำที่กระเซ็นใส่เสี่ยงมีเชื้ออีโคไลได้สูง
ผิวหนังอักเสบ น้ำฝนที่ขังตามพื้นถนนจนเน่าเหม็นทำให้เกิดการติดเชื้อได้หากสัมผัสโดน อย่างไรก็ตาม หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องหมั่นล้างมือล้างเท้าให้บ่อยขึ้นในฤดูฝนนี้ เพราะน้ำที่สกปรกจะทำให้เกิดผิวหนังติดเชื้อ, แผลเบาหวานเรื้อรัง, เชื้อรา, หนังศีรษะอักเสบคัน จนถึงทำให้เกิดตุ่มหนอง และฝีได้ตามผิวเด็กอ่อนๆ
โรคฉี่หนู ถนนไหนมีน้ำขังผสมปนเปกับท่อระบายน้ำที่นั่นก็จะเป็นแหล่งแพร่เชื้อฉี่หนูหรือเล็พโตสไปโรซิสได้ แม้ในรายที่รื้อบ้านแล้วมีมูลหนูปนออกมาจนเผลอไปเหยียบเข้าผ่านจากผิวหนังที่เป็นแผลก็จะทำให้ป่วยด้วยโรคนี้ได้ ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ปวดตามตัวโดยเฉพาะน่อง เบื่ออาหาร
ไข้เลือดออก ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อโรคนี้ทั้งสิ้น หากมีอาการไข้สูงไม่ลดสักทีบวกกับมีเบื่ออาหาร เกิดอาการอ่อนเพลียเซื่องซึม ขอให้นึกไว้ก่อนว่าอาจจะเป็นไข้เลือดออกให้รีบไปพบแพทย์
น.พ.กฤษดา กล่าวว่า เพื่อเป็นการป้องกัน ควรเลี่ยงความเปียกชื้น พยายามอาบน้ำสระผมและเช็ดตัวให้แห้งอยู่เสมอและหากกำลังมองหาอาหารที่เหมาะกับฤดูฝน ก็ขอแนะนำเป็นผัดผักบุ้ง, แกงส้มมะละกอและน้ำเสาวรสจะช่วยปรับสมดุลสุขภาพได้ง่ายๆ สไตล์อายุรวัฒน์
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ