เปลี่ยนพฤติกรรม.. รักษาความดันโลหิตสูง

วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เปลี่ยนพฤติกรรม.. รักษาความดันโลหิตสูง


จากการสำรวจพบประชาชนกว่าร้อยละ 60 ไม่รู้ตัวว่าเป็นความดันโลหิตสูง ส่งผลให้อาการทวีความรุนแรงขึ้นเพราะไม่ได้รับการรักษา
นายแพทย์ศรายุธ อุตตมางคพงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 อุบลราชธานี กล่าวว่า โรคความดันโลหิตสูงเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร เนื่องจากเป็นโรคที่ไม่ค่อยปรากฏอาการที่ชัดเจนในช่วงแรก แต่เมื่อปล่อยนานไปโดยไม่ได้รับการดูแลรักษาแรงดันในหลอดเลือดที่สูงจะไปทำลายผนังหลอดเลือดและอวัยวะที่สำคัญทั่วร่างกาย จึงเรียกโรคนี้กันว่า "เพชฌฆาตเงียบ"
ในแต่ละปีประชากรวัยผู้ใหญ่ทั่วโลกเสียชีวิตจากโรคนี้เกือบ 8 ล้านคน ส่วนประชากรในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้เสียชีวิตจากโรคความดันโลหิตสูงประมาณ 1.5 ล้านคน ซึ่งโรคความดันโลหิตสูงนี้ ยังเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตเกือบร้อยละ 50 ด้วยโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตและโรคหัวใจ
ในจำนวนผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ร้อยละ 60 ไม่รู้ตัวว่าเป็นความดันโลหิตสูง ส่งผลให้อาการทวีความรุนแรงขึ้นเพราะไม่ได้รับการรักษาและในกลุ่มของผู้ป่วย 1 ใน 4 ไม่สามารถควบคุมความดันโลหิตได้ตามเกณฑ์ World Hypertension League
จึงได้มีการกำหนด วันความดันโลหิตสูงโลก เป็นวันที่ 17 พฤษภาคม ของทุกปี เพื่อจะสื่อสารสร้างกระแสให้ประชาชนตื่นตัวต่อโรคความดันโลหิตสูง โดย เน้นการป้องกันโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคหัวใจ โรคไตที่มีสาเหตุจากโรคความ ดันโลหิตสูงและเพื่อการส่งข้อมูล การป้องกัน การคัดกรอง และการดูแล รักษา ไปสู่สาธารณชน
โดยมีคำขวัญวันรณรงค์ความดันโลหิตสูง ประจำปีพุทธศักราช 2556 คือ "Healthy Blood Pressure Healthy Heart Beat" หรือ "ความดันโลหิตดี หัวใจเต้นดี" เน้นการรักษาโรคความดันโลหิตสูง ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
สำหรับวิธีการรักษาโรคความดันโลหิตสูง นอกเหนือจากการใช้ยาแล้ว ยังสามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ตามแนวทางการรักษาโรคความดันโลหิตสูงในเวชปฏิบัติทั่วไป พ.ศ.2555 ดังนี้
1.การลดน้ำหนัก โดยให้ดัชนีมวลกาย เท่ากับ 18.5 ถึง 23 กิโลกรัมต่อตารางเมตร {lt}br{gt} 2.การรับประทานอาหารประเภท ผัก ผลไม้ ให้มาก ลดปริมาณไขมันในอาหาร โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว {lt}br{gt} 3.การจำกัดเกลือในอาหาร โดยให้รับประทานเกลือโซเดียม ให้น้อยกว่า 6 กรัมต่อวัน {lt}br{gt} 4.การออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดินเร็วๆ อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน และเกือบทุกวัน {lt}br{gt} 5.การลดการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่
นายแพทย์ศรายุธ กล่าวต่อว่า ความดันเลือดสูงเป็นโรคที่ไม่ค่อยมีอาการ คนส่วนน้อยอาจปวดหัวบริเวณท้ายทอยได้บ้าง คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่า ความดันเลือด 140/90 มม.ปรอท เป็นค่าปกติ แต่ที่จริงคือ เป็นค่าที่ "ต้องรักษา" แล้ว
ดังนั้น การตรวจหาความดันเลือดสูงเป็นประจำ มีส่วนช่วยให้พบโรคได้ตั้งแต่แรก ซึ่งถ้าเราได้มีการปรับเปลี่ยนแบบแผนในการใช้ชีวิต เช่น นอนให้พอ ลดเค็ม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ฯลฯ จะช่วยป้องกันโรคที่ยังไม่เกิดให้เกิดช้าลง หรือบรรเทาเบาบางลง โอกาสหรือความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมองแตก-ตีบ-ตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต หัวใจเสื่อม-หัวใจวาย ไตเสื่อม-ไตวายก็จะลดลงได้



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ