Toggle navigation
วันจันทร์ ที่ 9 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
สุขภาพ & ความงาม
ระวัง..เตรียมตัวไข้หวัดนกในจีนสู่การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
ระวัง..เตรียมตัวไข้หวัดนกในจีนสู่การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
Tweet
จากสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดนก H7N9 ใน 11 พื้นที่ของประเทศจีนประกอบไปด้วย ฝูเจี้ยน เจียงซี หูหนาน เซี่ยงไฮ้ เจียงซู เจ้อเจียง อันฮุย เหอหนาน ปักกิ่ง ซานตงและไต้หวัน ในขณะนี้ถึงแม้ว่าไวรัสตัวนี้จะทำให้มีผู้ติดเชื้อ 126 รายและเสียชีวิตแล้ว 24 รายก็ตาม แต่หากดูจากระยะ เวลาหลังจากการพบผู้ป่วยคนแรกเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรที่หนาแน่นในจีน (ประเทศจีนทั้งประเทศมีประชากร 1,300 ล้านคน มากกว่า 400 ล้านคนอยู่ในบริเวณที่มีการระบาด) สามารถบ่งชี้ได้ว่าทางการจีนสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างดีเยี่ยม
โดย พ.ญ.เลลานี ไพฑูรย์พงษ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคติดเชื้อ ร.พ.จุฬาลงกรณ์ และแพทย์จากราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไข้หวัดนกเกิดจากการที่เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในสัตว์ปีก ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นในสัตว์ปีกมานานแล้ว เกิดการถ่ายทอดเข้ามาสู่คน เช่น การแพร่ระบาดของ H5N1 ในบ้านเราเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และ H7N9 ที่เพิ่งมีการค้นพบ ตัวเชื้อไข้มีการวิวัฒนาการของมันเรื่อยๆ ไข้หวัดใหญ่จึงเป็นโรคที่ไม่เคยหายไป แม้ว่าข่าวคราวจะเงียบหายไปพักใหญ่ก็ตาม ซึ่งความน่ากลัวของ H7N9 อยู่ที่สัตว์ปีกที่ติดเชื้อจะไม่แสดงอาการรุนแรง คราว H5N1 เราสามารถประกาศเตือนได้ว่า ห้ามอยู่ใกล้สัตว์ปีกที่ตายแล้ว แต่เชื้อตัวใหม่นี้ ไม่พบว่ามีการเสียชีวิต ในสัตว์ปีกนำมาก่อน นอกจากนี้ จากการศึกษาทางพันธุกรรมยังพบว่า สายพันธุ์ H7N9 น่าจะเข้าสู่เซลล์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้ง่ายกว่า H5N1
"ผู้ที่มีการติดเชื้อไวรัส H7N9 ส่วนใหญ่เป็นคนที่คลุกคลีหรือสัมผัสกับสัตว์ปีกโดยตรง แม้จะมีบางรายที่ไม่ทราบประวัติการสัมผัสชัดเจนและมีผู้ป่วยที่สงสัยว่าอาจจะติดจากคนในครอบครัวก็ตาม ไข้หวัดนก H7N9 ก็ยังเป็นไข้หวัดนกที่สามารถแพร่มาสู่คนเป็นบางครั้ง เช่นเดียวกับไข้หวัดนก H5N1 ยังไม่ได้กลายเป็นไข้หวัดคนเต็มขั้นแบบ ไข้หวัดใหญ่ 2009 และยังไม่พบการติดต่อจากคนสู่คนในวงกว้าง"
สำหรับเชื้อ H7N9 อยู่ในตระกูลเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ดังนั้น อาการเบื้องต้นของผู้ติดเชื้อก็จะเหมือนกับอาการของไข้หวัดใหญ่ทั่วไป โดยเมื่อร่างกายได้รับเชื้อเข้ามาประมาณ 3-8 วัน ก็จะเริ่มมีไข้ อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 38 องศา ปวดเมื่อยตามตัว มีน้ำมูก ไอ ถ้าอาการรุนแรงก็จะเหนื่อยหอบ เจ็บหน้าอก ปอดอักเสบ และอาจเกิดภาวะการหายใจล้มเหลว ทำให้เสียชีวิตได้ ดังนั้น หากเพิ่งสัมผัสกับสัตว์ปีกมาไม่เกินหนึ่งสัปดาห์แล้วเกิดเจ็บป่วย มีอาการคล้ายไข้หวัด ควรรีบไปพบแพทย์ แจ้งประวัติว่ามีการคลุกคลีใกล้ชิดกับสัตว์ปีก รวมทั้งประวัติการเดินทางไปบริเวณที่มีการระบาด
แพทย์หญิง กล่าวต่อว่า หากท่านใดต้องเดินทางไปเที่ยวหรือทำธุรกิจที่ประเทศจีนก็ยังทำได้อยู่ เพียงแต่ต้องหลีกเลี่ยงบางพื้นที่ เช่น ตลาดค้าสัตว์ปีกเป็นๆ แม้ขณะนี้ตลาดนี้จะถูกปิดไปแล้ว ก็ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าใกล้รวมถึงงดเดินทางไปในบริเวณที่มีสัตว์ปีกด้วย ที่สำคัญควรระวังในเรื่องอาหารที่ทำจากสัตว์ปีกทุกชนิดว่าจะต้องผ่านการทำให้สุกด้วยความร้อนเสียก่อน รักษาสุขอนามัย โดยล้างมือบ่อยๆ ทั้งก่อนและหลังทานอาหาร โดยเฉพาะหลังจากเพิ่งสัมผัสกับสัตว์ปีกมา
"ส่วนโอกาสในการแพร่กระจายมาไทย นั้นเราต้องติดตามข่าวเป็นระยะๆ อย่างไรก็ตามหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข หรือกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งดูแลการติดเชื้อในสัตว์ปีกนั้น มีมาตรการเฝ้าระวังเป็นระยะๆ อยู่แล้ว"
ทั้งนี้ โรคที่ควรระวังในขณะนี้ คือ โรคไข้หวัดใหญ่คนซึ่งพบเป็นประจำ สำหรับพื้นที่ของประเทศไทยนั้นมีอัตราการพบผู้ป่วยและผู้ป่วยมีโอกาสเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ยังมากกว่าไข้หวัดนก ดังนั้น จึงไม่ควรมองข้ามไข้หวัด ทั้งที่จริงๆ แล้วแม้โรคนี้ติดต่อได้ง่ายแค่ไอหรือจามรดกัน สัมผัสเสมหะผู้ป่วย หรือสัมผัสทางมือที่ปนเปื้อนเชื้อโรค แต่ก็ป้องกันได้ไม่ยาก แค่รักษาร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ล้างมือบ่อยๆ และควรฉีดวัคซีนป้องกันกระตุ้นร่างกายให้มีการสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสทุกปี เพราะสายพันธุ์ของไวรัสมีการปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ แค่มันเปลี่ยนหน้าตาไปนิดหน่อย ร่างกายเราก็จำไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคตับ โรคไต และหญิงกำลังตั้งครรภ์หากเป็นโรคไข้หวัดใหญ่แล้วอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ