TCEB หนุน 1 Market 3 Destination บูมนักเดินทางคุณภาพสูง จัดกิจกรรม CVTEC MICE BUSINESS ROADSHOW 2024 เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวเส้นทางเรือเชื่อมโยง ตราด - สีหนุวิว - ฟูก๊วก พร้อมกระตุ้นตลาดไมซ์ภาคตะวันออก เชิญภาครัฐและเอกชนจาก 3 ประเทศ ร่วมสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวตราด โชว์จุดขายพร้อมสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ ตั้งเป้าเม็ดเงินสะพัดจังหวัดตราด 3 พันล้านบาทต่อปี ปั้นยอดนักเดินทาง CVTEC กว่า 5 แสนคนในปี 2568
ทีเส็บ ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยพันธมิตรภาครัฐและเอกชนภายในจังหวัดตราด จัดกิจกรรม CVTEC MICE BUSINESS ROADSHOW 2024 เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวและการเดินทางรูปแบบใหม่ รวมทั้งการขยายตลาดไมซ์ในพื้นที่จังหวัดตราดเชื่อมโยงเส้นทาง CVTEC เมื่อวันที่ 5 – 8 มิถุนายน 2567 ณ จังหวัดตราด
กิจกรรมในครั้งนี้ ได้เชิญผู้ประกอบการจากกัมพูชาและเวียดนาม ร่วมเดินทางโดยเรือโดยสารจากท่าเรือสีหนุวิว – มายังท่าเทียบเรือคลองใหญ่ เพื่อประเดิมเส้นทางนำร่องสู่การเดินเรือเชื่อมโยงเส้นทางตราด - สีหนุวิว - ฟูก๊วก พร้อมสร้างเครือข่ายและเจรจาจับคู่ทางธุรกิจกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและไมซ์บนเกาะช้างและหมู่เกาะเชื่อมโยง เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการได้ทำตลาดร่วมกันในรูปแบบ 1 Marketing 3 Destination
นอกจากนี้ยังได้เชิญผู้บริหารระดับสูงหน่วยงานภาครัฐกัมพูชาและเวียดนาม เข้าร่วมประชุมนานาชาติ CVTEC ในการหารือขอตกลงร่วมในการเดินเรือเชื่อมโยงชายฝั่งทะเล 3 ประเทศ
ตั้งเป้าเส้นทาง CVTEC บูมนักท่องเที่ยว 5 แสนคน
นายภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ สสปน. หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า ทีเส็บได้เชิญ Potential Buyer จากกัมพูชาและเวียดนามที่มองเห็นโอกาสในการทำตลาดนักเดินทางคุณภาพและนักเดินทางไมซ์บนเส้นทางระเบียงชายฝั่งทะเล 3 ประเทศหรือ CVTEC กว่า 35 ราย ร่วมกิจกรรมเจรจาจับคู่ทางธุรกิจและสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและไมซ์บนเกาะช้างและหมู่เกาะเชื่อมโยง
นอกจากนี้กิจกรรมดังกล่าวยังเป็นเวทีการประชุมนานาชาติ CVTEC (Cambodia Vietnam Thailand Economic Corridor Cooperation Conference) เพื่อนำไปสู่ข้อตกลงร่วมในการเดินเรือเชื่อมโยงชายฝั่งทะเล 3 ประเทศ โดยมีผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องของภาครัฐจากกัมพูชาเวียดนาม เข้าร่วมงานประชุม
การจัดกิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยได้รับเกียรติในการเป็นเจ้าภาพ โดยมั่นใจว่าการประชุมครั้งนี้ จะนำไปสู่ข้อตกลงในการเดินเรือเชื่อมโยงร่วมกันได้สำเร็จอย่างแน่นอน ทั้งนี้ คาดว่าหากเกิดการเปิดเส้นทางเดินเรือดังกล่าวได้อย่างเต็มรูปแบบ จะมีรายได้เข้าจังหวัดตราดเพิ่มขึ้น ไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท / ปี
โดยในเบื้องต้น ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2567 เส้นทาง CVTEC จะกระตุ้นให้เกิดการเดินทางได้อย่างน้อย 10,000 คน และจะเพิ่มจำนวนเป็น 500,000 คนในปี 2568 โดยเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากทั้ง 3 ประเทศ รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่เดินทางเรือจากสิงคโปร์ ฮ่องกง ฯลฯ
เปิดประสบการณ์ใหม่ 1 วัน เที่ยว 3 ประเทศ
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เส้นทางท่องเที่ยวทางเรือถือเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ และเชื่อมันว่าหากเส้นทางนี้เปิด จะได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม
“ปัจจุบันเรามีท่าเทียบเรือคลองใหญ่ที่สร้างเสร็จมานาน หากเรานำท่าเรือตรงนี้มาต่อยอดทางการท่องเที่ยวก่อนในเบื้องต้น ถือเป็นเรื่องดีและควรเร่งดำเนินการ ในอนาคตเราอาจได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ 3 ประเทศในหนึ่งวัน เช่น ทานอาหารเช้าดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ตราด ทานกลางวันที่สีหนุวิว และมื้อเย็นดูพระอาทิตย์ตกดินที่ฟูก๊วก”นายชำนาญกล่าว
เที่ยวตราดคึกคัก หวังรายได้เติบโต 30%
ด้านนายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า จังหวัดตราดถือเป็นจังหวัดที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอันดับต้น ๆ ของไทย
การที่จังหวัดยกระดับการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชื่อมโยงหมู่เกาะช้างกับจังหวัดสีหนุวิวและฟูก๊วก ผ่านเส้นทางเดินเรือเส้นทาง CVTEC นั้นถือเป็นโอกาสในการเพิ่มยอดนักเดินทาง โดยคาดว่าหากการตกลงร่วมกันสำเร็จ และสามารถเปิดเส้นทางเชื่อมโยง 3 ประเทศได้ จะทำรายได้จากการท่องเที่ยวของจังหวัดตราดเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 30 %
กัมพูชา-เวียดนาม พร้อมผนึกความร่วมมืออย่างเต็มกำลัง
ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดพระสีหนุ ลอง ไดเมนเช่ กล่าวว่า จังหวัดพระสีหนุ เล็งเห็นโอกาสของการเดินเรือเพื่อการท่องเที่ยวคุณภาพสูงบนเส้นทางนี้มานานแล้ว และมีการหารือภายในร่วมกันมาโดยตลอด จึงมั่นใจว่าการประชุม CVTEC จะนำไปสู่ความเห็นร่วมกันเพื่อเกิดการเดินเรือรอบปฐมฤกษ์ได้สำเร็จอย่างแน่นอนในเร็ว ๆ นี้
ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาเมา เหวียน มิน ลูน กล่าวว่า กัมพูชาและเวียดนาม มีการเดินเรือเพื่อการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างกันอยู่แล้ว ดังนั้น หากการประชุมในครั้งนี้นำไปสู่ความสำเร็จ ก็จะเป็นโอกาสอันดีในการเชื่อมโยงให้นักเดินทางคุณภาพชาวกัมพูชา เวียดนาม รวมถึงนักเดินทางคุณภาพจากต่างประเทศ ได้มีโอกาสเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์การเดินทางทางทะเลมายังประเทศไทย เกิดเป็นการเดินทางเชื่อมเส้นทาง 3 ประเทศที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับกิจกรรม CVTEC MICE BUSINESS ROADSHOW 2024 จัดขึ้นเป็นระยะเวลา 3 คืน 4 วัน ณ จังหวัดตราด โดยได้เดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของจังหวัดในมิติที่หลากหลาย โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดเส้นทางดังต่อไปนี้
Day1 อ.คลองใหญ่ จ.ตราด
วันแรกของการเดินทาง ตัวแทนจากภาครัฐและเอกชนจากไทย เวียดนาม และกัมพูชา รวมทั้งสื่อมวลชน ได้เข้าสักการะขอพร “ศาลเจ้าแม่ทับทิม” อ.คลองใหญ่ จ.ตราด
จากนั้นในช่วงเย็น คณะเดินทางได้เข้าสู่งานเลี้ยงรับรองที่ “บ้านทะเลภูรีสอร์ท” โดยมีนายพีระ เอี่ยมสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวต้อนรับ
Day2 เกาะกูด – เกาะหมาก - เกาะช้าง
เช้าของวันที่ 6 มิถุนายน ณ ท่าเรือเอนกประสงค์คลองใหญ่ คณะเดินทางได้ร่วมเปิดประสบการณ์การเดินทางโดยเรือ สู่เกาะกูด โดยได้เข้าแวะชมห้องประชุม และห้องพัก ณ เกาะกูด พาราไดซ์ บีช รีสอร์ท
จากนั้นได้เดินทางสู่เกาะหมาก ร่วมกิจกรรม Table Top Sale กับผู้ประกอบการบนเกาะหมาก โดยมี นายนล สุวัจนานนน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก ให้การต้อนรับ พร้อมรับประทานอาหารเที่ยง ณ โรงแรมเดอะหมาก รีสอร์ท
ในช่วงเย็นคณะเดินทางสู่เกาะช้าง ร่วมรับประทานอาหารเย็นที่ Siam Royal View และเข้าพักที่ โรงแรมอัยยะปุระ รีสอร์ท เกาะช้าง
Day3 เกาะช้าง - เมืองตราด
เช้าของวันที่ 7 มิถุนายน ณ ห้องประชุม โรงแรมอัยยะปุระ รีสอร์ท มีกิจกรรม Business Matching และการประชุมนานาชาติ CVTEC Conferrence 2024 โดย นายณัฐพงษ์ สงวนจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานและร่วมการประชุม
จากนั้นคณะสื่อมวลชนได้ออกเดินทางสู่หมู่บ้านสลักคอก เกาะช้าง เพื่อร่วมกิจกรรมนั่งเรือมาด ซึ่งเป็นเรือพื้นบ้านเพื่อการท่องเที่ยว นำชมความงดงามวิถีชุมชนบ้านสลักคอก
ช่วงบ่ายคณะเดินทางทั้งหมดเดินทางกลับตัวเมืองตราด แวะชมพิพิธภัณฑสถานเมืองตราด ร่วมกิจกรรม Business Matching และ Show Case ก่อนจะเข้าสู่งานเลี้ยงรับรองและรับประทานอาหารค่ำ ณ เข้าท่า เฮ้าส์
Day4 สวนผลไม้เมืองตราด
เช้าของวันที่ 4 คณะสื่อมวลชน เข้าเยี่ยมชมสวนผลไม้อำไพ อ.เขาสมิง จ.ตราด ชมสวนและชิมผลไม้ตามฤดูกาล อาทิ เงาะ มังคุด ลองกอง และทุเรียน จากนั้นแวะรับประทานอาหารเที่ยงที่ร้านแสงฟ้า ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ