ไม่ใช่แค่ด่านการค้าชายแดนที่ทำให้ผู้คนมุ่งหน้าไปสระแก้ว เพราะที่นี่คือดินแดนที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นแง่มุมด้านธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต แหล่งเรียนรู้ แหล่งช้อปปิ้ง รวมทั้งมุมมองเก๋ไก๋  จึงเป็นอีก “เมืองน่าเที่ยว” ที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึง

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ททท.สำนักงานนครนายก (นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว) นำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว เดินทางไปทดสอบสินค้าและบริการท่องเที่ยว จ.สระแก้ว เปิดมุมมองใหม่ ๆ รวมทั้งเผยโฉมไฮไลต์ที่ยังครองใจ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางเข้ามาเที่ยวชมด้วยตัวเอง

3 วัน 2 คืน คือ ระยะเวลาที่เหมาะเจาะสำหรับการมาเที่ยวสระแก้ว เมืองน่าเที่ยวซึ่งมีอะไรดี ๆ ที่น่าสนใจเต็มไปหมด และนี่คือ 9 จุดน่าชม ที่อยากจะแชร์กับทุกคน

1.Eco Printing ผ้าพิมพ์ลายใบไม้

หากเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 7.00 น. ราวสิบโมงก็จะไปถึง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว วันนี้เรามีนัดกับชุมชนบ้านหนองโกวิทย์ ซึ่งเป็นกลุ่มทอผ้าด้วยกี่โบราณ โดดเด่นด้วยผ้าขาวม้าซาวตม (ผ้าขาวม้าย้อมโคลน) นอกจากนั้นยังมีการทำของใช้จากเศษพลาสติก อาทิ โมบาย ไม้กวาด ฯลฯ

มาคราวนี้ได้เจอกิจกรรมใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ นั่นคือการทำผ้าพิมพ์ลายใบไม้  Eco Printing  ที่ดีต่อใจ ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก โดยการนำผ้าขาวแช่ในน้ำผสมสารส้มเพื่อช่วยให้ติดสี จากนั้นก็แช่น้ำละลายผงสนิมเหล็ก บิดผ้าแล้วนำไปปูบนพื้นราบ ถึงเวลาวางใบไม้ลงไปตามจินตนาการ  จากวัตถุดิบในพื้นที่ อาทิ ใบสัก ใบสาบเสือ ใบเพกา ใบสะเดา ฯลฯ

เสร็จแล้วคลุมด้วยพลาสติกใส มาถึงขั้นตอนสำคัญ ต้องช่วยกันจับเพื่อม้วนให้ตึงและแน่น รัดด้วยหนังยาง พันด้วยแรปอีกรอบ นำไปนึ่ง 1 ชั่วโมง เมื่อคลี่ออกจะได้ผ้าลวดลายใบไม้สีจากธรรมชาติ นำไปตากไว้ให้แห้ง แล้วนำมาใช้งานได้เลย

2.วิถีกินถิ่นสไตล์ บ้านหนองโกวิทย์

ชาวบ้านหนองโกวิทย์ส่วนใหญ่ อพยพมาจากภาคอีสาน วิถีการกินจึงมีความแซ่บฉบับบ้านเฮาอยู่มาก โดยเฉพาะขนมจีนที่ทำเส้นสดเอง กินกับน้ำยาป่า และน้ำยากะทิ วันนี้โชคดีเจอวัตถุดิบตามฤดูกาล นั่นคือ “เห็ดขม” ซึ่งจะออกในช่วงหน้าฝนเท่านั้น นำมาทำแกงหน่อไม้เห็ดขม ตอนแรกไม่กล้าชิมเพราะกลัวขมตามชื่อ แต่เสียงเชียร์จากแม่ ๆ ก็พาให้เราเข้าสู่รสธรรมชาติสรรสร้างได้อย่างน่าชื่นชม

วันนี้ยังมีเมนูหมูอบโอ่ง ส้มตำปลาร้า กินกับผักพื้นบ้านสารพัดอย่าง รวมทั้งหน่อไม้ต้ม มีขนมท้องถิ่น “ขนมดาด” มีส่วนผสมของแป้งและมะพร้าวอ่อน ลักษณะคล้ายบ้าบิ่น เดิมใช้วิธีดาดกับกระทะ แต่ปัจจุบันประยุกต์ใช้ถาดขนมครกญี่ปุ่นแทน น่ารักไปอีกแบบ

อิ่มแล้วแวะไปช้อปผลิตภัณฑ์จากผ้าขาวม้า และผ้าทอฝีมือวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผ้าทอมือบ้านหนองโกวิทย์ หลากสี หลากลาย เก๋ไก๋ไม่แพ้ที่ไหนเลย

วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผ้าทอมือบ้านหนองโกวิทย์

กิจกรรมต่าง ๆ กรุณาติดต่อล่วงหน้า

โทร. 084 467 4689

3.วิสาหกิจชุมชนอยู่เป็นสุข@เขาฉกรรจ์

แม้ว่าโกโก้จะเป็นพืชเศรษฐกิจที่ให้ราคาดี แต่มูลค่าเพิ่มสูงสุดอยู่ที่ช็อคโกแลต  ดังนั้นการบริหารจัดการโกโก้ทั้งระบบ คือทางเลือกที่ดีของเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ในปัจจุบัน

วิสาหกิจชุมชนอยู่เป็นสุข@เขาฉกรรจ์ ปลูกโกโก้และนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ภายใต้แบรนด์ “ไทยอวล” ที่นี่ยินดีต้อนรับผู้ที่อยากเรียนรู้การปลูกโกโก้และการแปรรูปที่ได้คุณภาพมาตรฐาน  วันนี้เราได้ทดลองชิม “โกโก้นิบส์” (Cacao Nibs) เป็นเมล็ดโกโก้ที่ผ่านการหมัก ตาก คั่ว จนเหลือเพียงกาก มีสีน้ำตาลเข้ม ขม มัน หอม เปรี้ยวเล็กน้อย แต่อัดแน่นด้วยประโยชน์ ส่วนตัวคิดว่าอร่อย เคี้ยวเพลินมาก ๆ

วันนี้ “คุณเก้ง ปวีร์มาศ ปรัชญ์ธนสิทธิ์” ประธานกลุ่มวิสาหกิจฯ ต้อนรับด้วย “ทาโก้ คาราเมล บาบาน่า” และเปิดให้ชิมช็อกโกแลตอีกหลากหลายแบบ โดดเด่นด้วยช็อคโกแลตที่ผสมความเป็นไทย  อาทิ ช็อคโกแลตอวลน้ำปลาหวาน แสร้งว่าปลา ไข่เสก ฯลฯ ก่อนกลับต้องช้อปผลิตภัณฑ์ดี ๆ จาก “ไทยอวล” ซึ่งปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียน อย. แล้ว 6 รายการ น่าชื่นชมสุด ๆ ไปเลย

สายกรีน สายเฮลท์ตี้  น่าจะชอบใจ “โฮมลอดจ์ไทยอวล” ซึ่งอยู่ในสวนโกโก้และพืชพรรณนานาชนิด มาพักผ่อนหย่อนใจ กินอยู่ในวิถีธรรมชาติเพื่อสุขภาพ อาทิ  สลัดผักออร์แกนิค และพิซซ่าหน้าคั่วกลิ้ง ที่ใช้เตาถ่านแบบโบราณ หากใครมาก็จะได้เจอกับเจ้าเตาเท่ ๆ ตัวนี้อยู่ในครัว

วิสาหกิจชุมชนอยู่เป็นสุข@เขาฉกรรจ์

อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว

โทร. 081 761 9224

4.ขอพรหลวงพ่อขาว วัดนครธรรม

หลวงพ่อขาว วัดนครธรรม เป็นพระพุทธรูปที่เคารพศรัทธาของชาวสระแก้วมานาน เมื่อไปถึงวัดนครธรรม อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว  เราจะพบกับวิหารไม้ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางลานวัด ภายในประดิษฐาน “หลวงพ่อขาว” หรือ “หลวงพ่อปูน” พระพุทธรูปโบราณอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี สร้างด้วยปูนขาว ปางสมาธิ มีความงดงามมาก

ภายในวิหารหลวงพ่อขาวยังประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองและพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจาก วัดปมะดุลลาราชะมหาวิหาร เมืองรัตนปุระ ประเทศศรีลังกา ชาวบ้านและสายมู นิยมมาขอพรกับหลวงพ่อขาว ใครที่บนไว้แล้วได้สมใจหวังก็ต้องกลับมาแก้บน

5.มูฉ่ำ ๆ ตามศรัทธา วัดแม่ย่าซอม  

เดินสายมูกันให้ฉ่ำที่ “วัดแม่ย่าซอม” อ.คลองหาด หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อเสียงของวัดแห่งนี้ จากบรรดาคนดังที่ปังเพราะมูมาแล้ว

ตามประวัติเล่าว่า แม่ย่าซอมเป็นเจ้าหญิงจากกัมพูชา ท่านมาแต่งงานกับคนไทยและลงหลักปักฐานบริเวณนี้ จนเป็นที่เคารพรักของชาวคลองหาด และขยายไปสู่คนโดยทั่วไป นอกจากวิหารแม่ย่าซอมแล้ว ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง อาทิ  พระพิฆเนศ พระพุทธเจ้าปางเปิดโลกเบิกทรัพย์องค์ใหญ่ พระราหูู ท้าวเวสสุวรรณ ฯลฯ ซึ่งมีองค์ขนาดใหญ่ สวยงามอลังการ ภายในยังมีร้านกาแฟและร้านอาหารให้บริการอีกด้วย

6.ดินแดนแห่งรอยยิ้ม บ้านทับทิมสยาม 05

บ้านทับทิมสยาม 05 อ.คลองหาด เป็นชุมชนที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร นอกจากสภาพพื้นที่รายล้อมไปด้วยภูเขาแล้ว ผังของหมู่บ้านยังมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย  เดิมที่นี่คือศูนย์อพยพผู้ลี้ภัยจากกัมพูชา แต่ละครอบครัวจะมีพื้นที่จัดสรรเพื่อการทำกินทางการเกษตร

ภายในชุมชนมีแหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง โครงการอ่างเก็บน้ำทับทิมสยาม 05 อันเนื่องมาจากพระราชดำริ  ส่งเสริมการทำเกษตรและปลูกและแปรรูปสมุนไพร  

ฤดูกาลท่องเที่ยวคือช่วงปลายปี-ต้นปี เนื่องจากจะมีการปลูกแปลงดอกไม้ตามจุดต่าง ๆ พร้อมสภาพอากาศที่เย็นสบาย แต่ก็สามารถเข้ามาเที่ยวชมได้ทั้งปี  ไปอุดหนุนผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว แวะไปจิบกาแฟที่ “สวนพระเมตตา” แปลงปลูกดอกกุหลาบสายพันธุ์ต่างประเทศ หรือจะเลือกมุมถ่ายรูปสวย ๆ ที่จุดชมวิว หรือโค้งมหัศจรรย์ เชื่อว่า สายชิลน่าจะชอบแน่นอน

7.อุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม

ยังคงงดงามมิเสื่อมคลาย ไม่ว่าจะมาเยือนครั้งใดก็ยังสัมผัสถึงมนต์ขลัง อีกทั้งการบริหารจัดการของอุทยานฯ ยังเป็นที่น่าชื่นชมมาก มีความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย สงบงามท่ามกลางธรรมชาติ

หลังจากเข้าชมนิทรรศการที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแล้ว สามารถเดินเท้าเข้าไปราว 300 เมตร เพื่อเข้าชมปราสาทสด๊กก๊อกธม โดย “สด๊กก๊อกธม” หมายถึงเมืองที่มีต้นตกขึ้นรกในหนองน้ำใหญ่ ปัจจุบันยังคงเห็นอดีตของหนองน้ำอยู่ใกล้ ๆ

เมื่อเข้าไปถึงจะมองเห็นองค์ปราสาท 3 หลัง  มีคูน้ำรายล้อม 4 ด้าน มีกำแพงแก้ว 2 ชั้น ทำด้วยศิลาแลงและหินทราย ทั้งหินเก่า และที่บูรณะขึ้นใหม่

โบราณสถานแห่งนี้ถูกค้นพบครั้งแรกโดยชาวต่างชาติเมื่อปี 2444 เดิมพื้นที่นี้มีต้นมะพร้าวมากมาย ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า “ปราสาทเมืองพร้าว” ต่อมามีการสำรวจพบจารึกสำคัญที่ได้ชื่อว่ามีความล้ำค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม  เป็นหลักฐานที่บ่งบอกถึงอายุุของปราสาทสด๊กก๊อกธม แสดงถึงความเชื่อตามศาสนาฮินดู  ปัจจุบันได้เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี

         

8.แวะทักทายคุณเผือก โรงเรียนกาสรกสิวิทย์

อีกแหล่งเรียนรู้ที่ฮีลใจได้ดีคือ “โรงเรียนกาสรกสิวิทย์” ​อ.เมืองสระแก้ว เป็นโรงเรียนที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดตั้งขึ้น เพื่อสอนเกี่ยวกับการทำกสิกรรมธรรมชาติโดยใช้กระบือ หรือ การทำนาด้วยควาย พร้อมถ่ายทอดความเป็นอยู่อย่างเรียบง่ายในวิถีพอเพียง

ปัจจุบันที่นี่มีกระบือทรงเลี้ยงอยู่ในโรงเรียน 27 ตัว รวมทั้ง “คุณเผือก” หรือ “คุณตะเพาแก้ว” กระบือทรงเลี้ยงรูปร่างสง่างาม สีเผือกอมชมพู เป็นขวัญใจของนักท่องเที่ยวมาเนิ่นนาน ไม่ว่าจะกอด จะขี่ ก็ไม่มีอิดออด แต่ปัจจุบันคุณเผือกอายุ 15 ปีแล้ว ถ้าเป็นคนก็ประมาณ 80 ปี ล่าสุดยังเจอควายบ้านหลุดเข้ามาขวิดจนเขาหัก ปัจจุบันต้องดามด้วยซิลิโคน มาครั้งนี้จึงต้องทนุถนอมคุณเขาให้มาก ๆ

มาเรียนรู้ความเป็นอยู่กับธรรมชาติแล้วแวะที่ “ร้านกาแฟควายคะนอง” มีทั้งกาแฟและเครื่องดื่ม  พร้อมซิกเนเจอร์ให้เลือกหลากหลาย รวมทั้งอาหารจากวัตถุดิบออร์แกนิค  มีมุมชิลริมน้ำให้เลือกนั่งพักผ่อนหย่อนใจกันเพลิน ๆ อิ่มอก อิ่มใจ อิ่มท้อง ไปตาม ๆ กัน

9.โดนใจสายเฟ่ Coffee Hills Café  

ปิดท้ายเอาใจสายคาเฟ่ด้วยร้านกาแฟที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ละมุนละไม ถูกใจทุกคน Coffee Hills Café เป็นทั้งร้านกาแฟและร้านอาหาร  ตัวร้านค่อนข้างกว้างขวาง มีเมนูให้เลือกเยอะมาก บอกได้เลยว่า เป็นคาเฟ่ที่ร่ำรวยเบเกอรี่จริง ๆ แถมยังรสชาติดีงาม ในราคาที่คบหาได้ไม่ยาก และยังมีของฝากให้เลือกซื้ออีกด้วย

Coffee Hills Café

(สาขาหน้าตลาดสดสระแก้ว)

อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว

สระแก้ว สระใจ ไปเมื่อไหร่ก็ได้เจอแง่มุมดี ๆ ท่ามกลางวิถีที่ยังเรียบง่าย สบาย ๆ ไม่พลุกพล่าน เป็น 3 วัน 2 คืน ที่จุใจ สมความหมาย “เมืองน่าเที่ยว”