จากมูลค่าตลาดรวมสกินแคร์ในประเทศไทยคาดว่ามีมูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท โดยตลาดสกินแคร์สำหรับผู้ชายมีสัดส่วนราว 20% และสกินแคร์สำหรับผู้หญิง 80% ของตลาดรวม ทั้งนี้ มีส่วนแบ่งตลาดผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งประมาณ 30% ประมาณ 20% เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับลดริ้วรอย และสัดส่วนที่เหลือเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มเบสิกหรือดูแลผิวประเภทต่างๆ โดยกลุ่มลดเรือนริ้วรอยมีอัตราการเติบโตมากถึง 10-12% จากตลาดรวม
โดย ภญ.กิตติวรรณ รัตนจันทร์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจยาและเวชสำอางเพื่อผิวพรรณ บริษัท อินวิดา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์และเวชสำอางชั้นนำของโลก กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าทำตลาดอยู่ในประเทศไทยด้วยกัน 4 แบรนด์ คือ พาพูเลส ผลิตภัณฑ์รักษาสิว, อะทอปิเคลียร์ ผลิตภัณฑ์แก้ผื่นแพ้, เดอร์เมทิก อัลตร้า ผลิตภัณฑ์ลบรอยแผลเป็น และไคเนเรส ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย
"เมื่อปีที่แล้วบริษัทได้เริ่มขยายกลุ่มสินค้ามาสู่กลุ่มเวชสำอาง ตามนโยบายของบริษัทแม่ที่เริ่มไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยล่าสุดที่บริษัทเพิ่งลอนช์ สินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอยระดับพรีเมี่ยมจากสหรัฐอเมริกาในตลาดเมืองไทย ภายใต้ชื่อแบรนด์ไคเนเรส ไปเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ผ่านคลินิกผิวพรรณและความงามขึ้น ซึ่งมีผลตอบรับในกลุ่มผู้ใช้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีจุดเด่นจากส่วนผสมสำคัญ คือ ไคเนติน ที่แพทย์ผิวหนังจากทั่วโลกให้การยอมรับ บริษัทจึงได้ตัดสินใจนำมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยโดยเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงไทยระดับบน หรือ B+ ขึ้นไป"
สำหรับแผนทำการตลาดแบรนด์ ไคเนเรส สู่ตลาดผู้บริโภคทั่วไปปีนี้นั้น หลังจากที่เริ่มทำตลาดกับกลุ่มหมอและคลินิกไปปีที่แล้ว ภายใต้งบประมาณราว 15-20 ล้านบาท โดยมุ่งทำตลาดใน 2 ทิศทางหลัก ได้แก่ การจำหน่ายผ่านการแนะนำของหมอไปพร้อมๆ กับการใช้กลยุทธ์บีโลว์ เดอะไลน์ ที่จะสร้างแบรนด์ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง ผ่านการโฆษณาประชาสัมพันธ์จากสื่อต่างๆ พร้อมทำการขายผ่าน 3 ช่องทางหลัก คือ 1.ผ่านคลินิกระดับบีบวกขึ้นไป ที่ขณะนี้มีการวางจำหน่ายแล้วประมาณ 30 แห่ง และตั้งเป้าจะขยายให้ครบ 100 แห่งภายในสิ้นปี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ร่วมกับคลินิกขึ้นชื่อ อาทิ ผิวดีคลินิก รมย์รวินท์คลินิก ต่างๆ โดยที่มีการวางจำหน่ายแล้วในเดอะคลินิก 5 สาขา ในปัจจุบัน 2.ผ่านร้านขายยา เช่น แล็บฟาร์มาซี ที่เริ่มขยายออกสู่ยูแคร์ และ 3.ผ่านโรงพยาบาลเอกชนแผนกสกินแคร์ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่ากลางปีนี้จะสรุปได้หลายแห่ง
"จากการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่ผ่านมาบริษัทยังคงมีรายได้หลักมาจากการทำตลาดในกลุ่มธุรกิจเดิมที่ทำตลาดมาเป็นระยะเวลานานแล้ว คือ กลุ่มยากว่า 90% ขณะที่กลุ่มเวชสำอางมีสัดส่วนเพียง 10% เท่านั้น และจากปีนี้ที่ได้รุกทำตลาดเวชสำอางมากขึ้นในแบรนด์ไคเนเรส ทำให้บริษัทตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ที่ 15-20 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 100 ล้านบาทในปี 2560 นอกจากนี้ ภาย ในในไตรมาสที่ 4 บริษัทเตรียมจะลอนช์เวชสำอางในกลุ่มของโลชั่นป้องกันแดดอีกหนึ่งตัว อีกทั้งปลายปีจะออกเวชสำอางอีกหนึ่งแบรนด์ที่เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มให้ความชุ่มชื่นผิว" ภญ.กิตติวรรณ กล่าวทิ้งท้าย