แนะนำ 5 เลเซอร์หน้าใสตัวฮิต มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้างที่ต้องรู้ก่อนทำ

วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568

แนะนำ 5 เลเซอร์หน้าใสตัวฮิต มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้างที่ต้องรู้ก่อนทำ


เทคโนโลยีเลเซอร์หน้าใส เป็นโปรแกรมที่ช่วยฟื้นฟูผิวจากปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างล้ำลึก ไม่ว่าจะเป็นปัญหารอยดำ รอยแดง ฝ้า กระ หรือแม้แต่หลุมสิวที่คอยกวนใจ อย่างไรก็ตาม การจะเลือกทำเลเซอร์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั้น เราจำเป็นต้องเข้าใจว่าเทคโนโลยีแต่ละชนิดมีจุดเด่นและข้อจำกัดอย่างไร เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปและปลอดภัย เหมาะกับปัญหาผิวหน้าของเรามากที่สุด วันนี้เราได้นำข้อมูลที่ The Loft Clinic เคยให้ข้อมูลเกี่ยวกับเลเซอร์หน้าใสไว้ มาเป็นข้อมูล เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจกัน

โปรแกรม Discovery Pico

โปรแกรม Discovery Pico คือเลเซอร์ในกลุ่ม Picosecond Laser ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อทำลายเม็ดสีโดยเฉพาะ โดยการปล่อยพลังงานเลเซอร์ด้วยความเร็วสูงถึงระดับ 1 ต่อล้านล้านวินาที ซึ่งเร็วกว่าเลเซอร์รุ่นเก่า ๆ พลังงานที่ส่งลงไปเข้าไปทำให้เม็ดสีที่ผิดปกติแตกตัวออกเป็นอณูขนาดเล็ก เพื่อให้ร่างกายสามารถกำจัดออกไปได้เองตามธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีโหมดการยิงที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ใต้ผิว ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและรูขุมขนกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ข้อดี

  • สามารถทำลายเม็ดสีให้กลายเป็นละอองฝุ่น ทำให้รอยดำ ฝ้า และกระ จางลงได้เร็วกว่าเลเซอร์ระบบเดิม

  • ฟื้นฟูผิวแบบ Multi-function ไม่เพียงแต่จัดการรอยดำ แต่ยังช่วยรักษาหลุมสิวตื้น ๆ กระชับรูขุมขน และปรับผิวให้กระจ่างใส

  • เจ็บน้อยเนื่องจากปล่อยพลังงานไวมาก ทำให้ความร้อนไม่สะสมใต้ผิวหนังนานเกินไป ลดความเสี่ยงต่อผิวไหม้

ข้อเสีย

  • ราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง ค่าบริการจึงมักจะสูงกว่าเลเซอร์ชนิดอื่น

  • ผลข้างเคียงหลังทำ อาจเกิดรอยแดงประมาณ 3-5 วัน ขึ้นอยู่กับค่าพลังงานที่ใช้

โปรแกรม Vbeam Perfecta

หากคุณมีปัญหาผิวหน้าที่เป็นรอยแดง โปรแกรม Vbeam Perfecta คือคำตอบที่ที่ช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างตรงจุด เพราะโปรแกรม Vbeam Perfecta จะปล่อยพลังงานแสงสีเหลืองที่ความยาวคลื่น 595 นาโนเมตร ซึ่งเป็นช่วงคลื่นที่มีความจำเพาะเจาะจงสูงในการจับกับเม็ดเลือดแดงในเส้นเลือด พลังงานจะเข้าไปทำลายเส้นเลือดที่ผิดปกติโดยไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง จึงเหมาะกับการรักษารอยแดงสิว ปานแดง และเส้นเลือดฝอยบนใบหน้า

ข้อดี

  • เป็นเลเซอร์ที่ที่เหมาะกับการรักษารอยแดงบนผิว

  • ลดอาการอักเสบของสิวได้ทันทีหลังทำ ทำให้สิวยุบตัวเร็วขึ้น

  • มีระบบทำความเย็น ตัวเครื่องมีระบบ Dynamic Cooling Device (DCD) พ่นสเปรย์ความเย็นปกป้องผิวชั้นบน ทำให้รู้สึกสบายผิวขณะทำและลดผลข้างเคียงหลังทำ

  • ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำผิวอาจจะดูชมพูขึ้นเล็กน้อยแต่สามารถใช้ชีวิตตามปกติหรือแต่งหน้าได้ทันที

ข้อเสีย

  • เน้นเฉพาะจุด ไม่ได้ช่วยเรื่องรอยดำหรือฝ้ากระที่เกิดจากเม็ดสีเมลานิน

  • ต้องทำต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาเส้นเลือดฝอยหรือปานแดงที่ชัดเจน อาจต้องทำซ้ำหลายครั้ง

โปรแกรม Fractional Microneedling RF

Fractional Microneedling RF คือเทคโนโลยีฟื้นฟูผิวที่ผสานพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (RF) เข้ากับหัวเข็มขนาดเล็กจำนวนมาก ส่งผ่านพลังงานความร้อนลงลึกสู่ชั้นหนังแท้อย่างแม่นยำ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ กระบวนการนี้ช่วยเติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้น กระชับรูขุมขน ลดเลือนริ้วรอย และยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย โดยไม่ทำลายผิวชั้นบนมากนัก จึงเกิดผลข้างเคียงน้อยและฟื้นตัวไวกว่าเลเซอร์แบบเดิม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวไม่เรียบเนียน ต้องการปรับผิวหน้าให้กระจ่างใสขึ้น

ข้อดี

  • ฟื้นฟูผิวชั้นลึก ถึงชั้นหนังแท้ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสติน

  • แก้ปัญหาได้ครอบคลุม ทั้งหลุมสิว รูขุมขนกว้าง ริ้วรอย และช่วยยกกระชับผิวในขั้นตอนเดียว

  • ผลข้างเคียงน้อย ทำลายผิวชั้นบนน้อยกว่าเลเซอร์ชนิดอื่น ลดความเสี่ยงการเกิดรอยดำหลังทำ

  • ครอบคลุมทุกสีผิว สามารถทำได้ปลอดภัยกับทุกระดับสีผิว ไม่เสี่ยงต่อการผิวไหม้

  • สามารถปรับความลึกของเข็มให้เหมาะสมกับปัญหาผิวแต่ละจุดได้

ข้อเสีย

  • อาจมีความรู้สึกเจ็บได้บ้างเนื่องจากการใช้เข็ม

  • อาจมีรอยแดงหรือสะเก็ดเล็ก ๆ หลังทำ ซึ่งต้องใช้เวลาพักฟื้นผิวประมาณ 3-5 วัน

  • มีค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับทรีตเมนต์ทั่วไป

โปรแกรม Q-switch Laser

Q-switch Laser เป็นโปรแกรมเลเซอร์หน้าใสที่มีมานานและยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ทำงานโดยการปล่อยพลังงานในช่วงสั้น ๆ ระดับนาโนวินาที เพื่อจับกับเม็ดสีในชั้นผิวให้แตกตัวออก มักมี 2 ช่วงความยาวคลื่น คือ 532 นาโนเมตร (ผิวชั้นตื้น) และ 1,064 นาโนเมตร (ผิวชั้นลึก) ทำให้สามารถปรับใช้ได้ครอบคลุมทั้งรอยดำ ฝ้า และการปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

ข้อดี

  • เป็นโปรแกรมเลเซอร์ที่มีให้บริการแพร่หลาย ทำให้มีราคาไม่สูงมาก

  • ปรับใช้ได้หลากหลาย แพทย์สามารถเลือกใช้ความยาวคลื่นที่เหมาะสมกับระดับความลึกของเม็ดสีแต่ละคนได้

  • หากใช้พลังงานในระดับที่เหมาะสม จะช่วยทำให้ผิวหน้าดูขาวสว่างและสีผิวสม่ำเสมอขึ้น

ข้อเสีย

  • หากใช้ค่าพลังงานไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดรอยดำหลังทำเลเซอร์ (PIH) หรือรอยด่างขาว (Hypopigmentation) ได้

  • ต้องทำหลายครั้ง เห็นผลค่อนข้างช้ากว่าโปรแกรม Pico Laser และอาจรู้สึกเจ็บเหมือนมีหนังยางดีดขณะทำ

โปรแกรม Red Touch Pro

โปรแกรม Red Touch Pro คือเทคโนโลยีเลเซอร์แสงสีแดงความยาวคลื่น 675 nm ที่จะเข้าไปจับกับคอลลาเจนใต้ผิวโดยตรง โดยไม่ผ่านน้ำในผิว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ โดยไม่ทำให้เกิดความร้อนสะสมที่ผิวชั้นบน ส่งผลให้ผิวกลับมาเรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอย รูขุมขน และรอยแผลเป็น อีกทั้งยังช่วยลดรอยแดงและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เป็นเลเซอร์หน้าใสที่ทั้งอ่อนโยน ไม่เจ็บ ไม่ทิ้งรอยแผล และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ

ข้อดี

  • ไม่เจ็บและไม่ต้องพักฟื้น และสามารถแต่งหน้าใช้ชีวิตต่อได้ทันที

  • เป็นเลเซอร์ชนิดเดียวที่ส่งพลังงานจับกับคอลลาเจนโดยตรง ช่วยให้ผิวแน่นฟูและยืดหยุ่นขึ้น

  • ช่วยลดเลือนริ้วรอย หลุมสิว พร้อมกับลดรอยแดง รอยดำ และฝ้ากระ

  • ปลอดภัยและเหมาะกับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวบอบบางแพ้ง่าย

  • ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง ไม่เสี่ยงต่อผิวไหม้หรือหน้าบางลง

ข้อเสีย

  • ไม่เหมาะกับการแก้ปัญหาหลุมสิวลึก เพราะอาจใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล หรือผลลัพธ์ไม่ชัดเจนเท่ากับเลเซอร์กลุ่มอื่น ๆ

  • ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและคงอยู่ยาวนาน

สรุปบทความ

การเลือกทำเลเซอร์หน้าใสให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ไม่ใช่เพียงแค่เลือกเครื่องที่แพงที่สุด แต่คือการเลือกเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของเราได้อย่างตรงจุด อยากรู้ว่าปัญหาผิวของคุณเหมาะกับเลเซอร์ตัวไหน? ลองทักมาปรึกษาคุณหมอที่ The Loft Clinic เพื่อประเมินผิวเบื้องต้นได้เลย

/////////////////////////////////////////////

ภาพประกอบ :  Content No.1




บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ