งดงามสมการรอคอยสำหรับคอลเลคชั่น Fall/Winter 2018 ของแบรนด์ Landmeé (แลนด์มี่) ที่ดีไซเนอร์สาวมากความสามารถ มี่-เนตรดาว วัฒนะสิมากร พาเราย้อนกลับไปสู่ยุควิคตอเรียนกับ ‘LOVE IS ALMOST EVERYTHING’ แฟชั่นโชว์เปิดตัวคอลเลคชั่นประจำฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว 2018 อันได้รับแรงบันดาลใจจากตัวละครหลักของนิยายรักโรแมนติกดรา ม่าเรื่อง Great Expectations ของนักเขียนคนดัง “ชาลส์ ดิกคินส์” มาแต่งแต้มนิยามสาววินเทจแบบแลนด์มี่เกิร์ล  จนก่อเกิดเป็นคอลเลคชั่นเสื้อผ้าที่นำเสนอเสน่ห์ของความเฟมินีนเฉกเช่นสาววิคตอเรียนผ่านโครงสร้างชุดในรูปแบบต่างๆ ที่ถูกนำกลับมาทำให้ทันสมัย

ภายในงานเนรมิตรันเวย์ให้งดงามราวกับป่าในเทพนิยาย เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความรัก ความหวัง การรอคอย ที่เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่น ‘LOVE IS ALMOST EVERYTHING’ ผ่านเซเลบริตี้คนดัง สรัย วัชรพล,       ต้าเหนิง-กัญญาวีร์ สองเมือง, เจด้า-จิดาริน ณ ลำเลียง, พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์, คิทตี้-ชิชา อมาตยกุล ที่พาเราย้อนอดีตไปสู่ยุควิคตอเรียนกับเรื่องราวและแรงบันดาลใจจากนิยายของนักเขียนชื่อดังชาวอังกฤษ ชาลส์ ดิกคินส์ (Charles Dickens) เรื่อง Great Expectations ที่ถูกดัดแปลงเป็น ภาพยนตร์ ละครเวที และซีรี่ส์ กว่า 250 ครั้งดำเนินเรื่องโดยตัวละครสำคัญคือ Havisham หญิงสาวที่ใส่ชุดแต่งงานสีขาวรอคอยคนรักของเธอในปราสาท การรอคอยที่มีเพียงความหวังแต่ไม่เคยเกิดขึ้นจริงส่งผลให้หลานสาวของ Havisham นามว่า Estella ถูกเลี้ยงดูและปลูกฝังไม่ให้เชื่อในเรื่องของความรัก เธอเติบโตขึ้นมาด้วยความรู้สึกต่อต้านความรัก และเชื่อว่าความรักไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้เด็กหนุ่มต่างชนชั้นที่หลงรัก Estella มาตั้งแต่เด็กต้องเพียรทำทุกอย่างเพื่อพิชิตใจของเธอ ท้ายที่สุดแล้วแม้มันไม่ใช่ความรักที่สุขสมหวังแต่มันคือความรักในอีกรูปแบบหนึ่ง

ชาลส์ ดิกคินส์ เซ็ตฉากของเรื่องไว้ในยุควิคตอเรียน ส่งผลให้รายละเอียดการออกแบบคอลเลคชั่นนี้มีเสน่ห์ของความ        เฟมินีนเฉกเช่นสาววิคตอเรียน อาทิเช่น puff sleeves และ baby doll ruffles ซึ่งล้วนแต่เป็นโครงเสื้อที่ใช้เทคนิคการสร้างแพทเทิร์นที่ซับซ้อน ตลอดจนการเล่นระบายบนตัวชุด ไปจนถึงลายปักที่เป็นประโยคสำคัญในเรื่องซึ่ง ชาลส์ ดิกคินส์ได้เขียนไว้อย่างสวยงาม ในอีกมุมหนึ่ง คุณกำลังเห็น Havisham รอคอยคนรักของเธอในชุดแต่งงานลูกไม้สีขาว คอลเลคชั่นนี้จึงดำเนินเรื่องด้วยสีขาวเป็นสีหลัก ตั้งแต่สีขาวบริสุทธิ์ไล่มาจนถึงสีขาวออฟไวท์ และที่สำคัญคงหนีไม่พ้นลูกไม้หลากหลายสีตั้งแต่ลูกไม้สีทอง สีเขียว สีดำหรือแม้แต่สีม่วง ซึ่งล้วนได้แรงบันดาลใจมาจากความโด่งดังของนิยายเรื่องนี้ รวมถึงสัญลักษณ์รูปหัวใจที่แทนความหมายของความรักของผู้หญิง Landmee ที่มีความเฟมินีนอ่อนหวานในเรื่องการแต่งตัวและการใช้ชีวิตแต่ในขณะเดียวกันก็มีหัวใจที่เข้มแข็ง เธอบูชาความรักแต่ก็มองว่าความรักไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งสร้างนิยามของสาว Landmeéสมกับชื่อคอลเลคชั่น Love Is Almost Everything ได้อย่างลงตัว