Toggle navigation
วันจันทร์ ที่ 9 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
สุขภาพ & ความงาม
รู้ทันฝ้า...หน้าผ่องใส
รู้ทันฝ้า...หน้าผ่องใส
วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556
Tweet
จากกรณีที่ผู้คนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะสุภาพสตรี ที่ต้องเผชิญปัญหาจากสภาพการใช้ชีวิตที่ต้องเผชิญกับมลภาวะทางอากาศ ทั้งฝุ่นควัน ท่อไอเสีย และแสงแดดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ส่งผลต่อสภาพผิวหน้าในหลายรูปแบบ ตั้งแต่ปัญหาสิว และฝ้า ซึ่งถือเป็นปรปักษ์ของสุภาพสตรีทุกวัย โดยเฉพาะเรื่องฝ้า ซึ่งทราบกันดีว่ารักษาได้ยาก
น.พ.ภูมิธร อรัญญาเกษมสุข แพทย์ด้านผิวหนังและศัลยกรรมเลเซอร์ โรงพยาบาลรามคำแหง กล่าวว่า การเกิดฝ้านั้นมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ โดยเม็ดสีของแต่ละเชื้อชาติก็จะมีความไวต่อแสงแดดแตกต่างกันออกไป อย่างคนเอเชียจะมีโอกาสเป็นฝ้าสูงกว่าคนยุโรป ต่อมาจะเป็นเรื่องของแสงแดด ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างมาก
ส่วนอีกสาเหตุหนึ่ง คือ ฮอร์โมนในร่างกาย โดยพบว่าผู้หญิงจะเป็นฝ้าได้ง่ายกว่าผู้ชายมาก หรืออาจเกิดจากโรคบางชนิด ที่ส่งผลให้ผิวหน้าเกิดรอยหมองคล้ำคล้ายฝ้าได้ เช่น โรคตับ ไต แต่จริงๆ แล้วฝ้าไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงใดๆ เพียงแต่สร้างความรำคาญใจ และบั่นทอนความมั่นใจ ทำให้ผู้หญิงส่วนใหญ่จะกลัวต่อการเกิดฝ้าบนใบหน้า ส่วนผู้ที่ประสบปัญหาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็พยายามหาวิธีการรักษาที่จะสามารถช่วยให้ฝ้าจางลง
สำหรับการดูแลรักษาฝ้าสามารถทำได้หลายวิธี แต่ที่นิยมที่สุด คือ การทายา หรือครีมรักษาฝ้า ซึ่งต้องระวังเป็นพิเศษ ควรทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ เพราะหากไม่ระวังอาจเกิดอาการแสบร้อน และส่งผลให้ผิวหน้าเกิดความเสียหายในที่สุด ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้ว การรักษาก็จะทำได้ยากขึ้นตามลำดับ
อีกวิธีหนึ่งที่มีการนำมาใช้กันมากขึ้นในปัจจุบัน คือ การรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์ ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่มีความทันสมัย และเห็นผลรวดเร็ว โดยเลเซอร์ที่นำมาใช้ในปัจจุบันมี 2 ประเภท คือ เลเซอร์แบบมีแผล และไม่มีแผล โดยเลเซอร์แบบมีแผล หลังจากเข้ารับการรักษาแล้ว ผู้ป่วยจำเป็นจะต้องพักหน้าไว้เป็นระยะเวลาหนึ่ง
ขณะที่เลเซอร์แบบไม่มีแผล คือ การใช้เลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดเม็ดสี สามารถเลือกใช้ความถี่ แสงที่เหมาะสมสำหรับริ้วรอยแต่ละประเภท เหมาะสำหรับปัญหาผิวหน้าและริ้วรอยที่มีความลึก โดยการรักษาด้วยเลเซอร์แบบไม่มีแผลนั้น ยังมีข้อดีอื่นๆ คือ ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องพักหน้า ทำให้สามารถดำเนินกิจวัตรประจำวันได้อย่างปกติ ไม่มีผลเสียต่อสภาพผิวหน้า
อย่างไรก็ตาม สำหรับสาวๆ ที่ต้องการจะดูแลรักษาผิวหน้าให้ห่างไกลฝ้า การป้องกันฝ้าถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่สุด โดยเฉพาะคนเอเชีย เพราะมีโอกาสเกิดฝ้าได้ง่าย การป้องกันที่สำคัญประการแรก คือ การเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ไม่ต่ำกว่า 30 และเน้นการพกพาอุปกรณ์จำพวก กันแสงแดดไว้ ได้แก่ หมวก ร่ม แต่ทั้งนี้ต้องพยายามหลบ เลี่ยงแสงแดดให้ได้มากที่สุด เพื่อชะลอปัญหาการมาเยือนของฝ้าให้ช้าลง
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ