"นครธน" ทุ่มกว่า 170 ล้าน เปิดตัวศูนย์แพทย์เฉพาะทาง เพิ่มศักยภาพด้านบุคลากร สถานที่ อุปกรณ์ทางการแพทย์ เตรียมพร้อมรับความต้องการเออีซี และการเป็นศูนย์กลางการแพทย์ของเอเชีย
นายแพทย์วิโรจน์ ตระการวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลนครธน เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลมีนโยบายเสริมสร้างให้ประเทศไทยเป็นศูนย์ กลางการแพทย์ของเอเชีย หรือ Medical Hub of Asia และการประชาสัมพันธ์สนับสนุนในรูปแบบต่างๆ ทำให้ชาวต่างชาติที่มาใช้บริการด้านสุขภาพในรูปแบบ Medical Tourism มีจำนวนมากขึ้น
ดังนั้น โรงพยาบาลเอกชนจึงต้องปรับตัวด้วยการยกระดับคุณภาพ และมาตรฐานการรักษาพยาบาล เพื่อให้ได้รับการยอมรับในระดับสากล และสามารถรอง รับผู้ป่วยได้มากขึ้น โดยปัจจุบันประเทศไทย มีโรงพยาบาลเอกชน 321 แห่ง รวม 32,828 เตียง เพื่อให้บริการแก่ผู้มาใช้บริการประมาณ 55 ล้านครั้งต่อปี โดยมีชาวต่างชาติ จากทั่วโลกมารับการรักษาถึง 1.5 ล้านครั้ง สร้างรายได้รวมกว่า 150,000 ล้านบาทต่อปี
ในส่วนของโรงพยาบาลนครธน ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย แต่คาดว่าหลังจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเริ่มมีผลในปี 2558 จะมีชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการมากขึ้น ทางโรงพยาบาลจึงมีการกำหนดนโยบายพัฒนาบุคลากร เตรียมความพร้อมด้านสถานที่และอุปกรณ์ โดยจะใช้งบประมาณในส่วนนี้กว่า 140 ล้านบาท
ทั้งนี้ ได้มีการสรรหาบุคลากรทาง การแพทย์ในสาขาต่างๆ เข้ามาเสริมทัพอย่างต่อเนื่อง ตั้งทีมงานพัฒนาธุรกิจ และ ทีมงานลูกค้าสัมพันธ์สำหรับลูกค้าต่างชาติโดยเฉพาะ กำหนดให้ความสามารถทางภาษาเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณารับ พนักงาน ส่งเสริมให้พนักงานมีโอกาสในการศึกษาต่อด้านภาษา และจัดให้มีชมรมพัฒนาความสามารถด้านภาษา ซึ่งขณะนี้มีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน
ส่วนด้านอาคารสถานที่และอุปกรณ์ เป็นการปรับปรุงสถานที่ให้สามารถรอง รับผู้ใช้บริการได้มากขึ้น และมีความสะดวก สบายมากขึ้น ตลอดจนปรับปรุง และจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์เพิ่มเติม
สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง โรงพยาบาลจะมุ่งเน้นการเปิดให้บริการศูนย์แพทย์เฉพาะทาง ได้แก่ ศูนย์หัวใจครบวงจรและห้องสวนหัวใจที่ลงทุนไปกว่า 30 ล้านบาท ในการปรับปรุงศูนย์หัวใจเดิมให้มีความพร้อมมากขึ้น ทั้งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ครบครัน และมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ยังมีรถ Mobile CCU ที่พร้อมให้การรักษาพยาบาลตั้งแต่ที่รถไปถึงบ้านผู้ป่วย อีกทั้งยังมีศูนย์ที่ประมาณการว่าจะเปิดต้นปีหน้า คือ ศูนย์สุขภาพ อายุวัฒนา เพื่อการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมและการป้องกันโรค โดยจะให้บริการที่ออกแบบให้เหมาะสมกับผู้ใช้บริการแต่ละราย หรือ Personalised Medicine
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้โรงพยาบาลตั้งเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับ ปีที่ผ่านมา คิดเป็นรายได้รวม 1,250 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากผู้มาใช้บริการทั่วไป 72% ผู้ใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพต่างๆ 24% ลูกค้าภาครัฐและอื่นๆ 4%