“ณรวีคลินิก” เปิดโฉม “ทีมผู้บริหารเจน 2” นำทัพปรับแบรนด์ สู้ศึกตลาดความงาม

วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

“ณรวีคลินิก”  เปิดโฉม  “ทีมผู้บริหารเจน 2”  นำทัพปรับแบรนด์  สู้ศึกตลาดความงาม


ตลาดคลินิคความงามมูลค่าเฉลี่ย 2-3 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ธุรกิจเสริมความงามแข่งขันกันอย่างรุนแรง และมีการเปิดคลีนิคความงามเพิ่มมากขึ้น ณรวีคลินิก นำทีมผู้บริหารรุ่นใหม่ Gen Y” ศุภกร โคมทอง ,รวิ โคมทองและนางสาวชนัดดา หยิบเจริญพร ” ผลึกกำลัง รีแบรนด์ครั้งใหญ่ ฉลองครบรอบ 30 ปี เพื่อตอกย้ำจุดยืน มุ่งสร้างแบรนด์และภาพลักษณ์ที่ดี และที่เน้นสำคัญที่สุดคือ ต้องมีความปลอดภัย คุณภาพ และราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ ภายใต้สโลแกน “เพราะเราให้คุณมากกว่าความสวย หรือ More than beauty is Trust ตั้งเป้ายอดขายในปี 2561 เพิ่มขึ้น 10-20% พร้อมขยายฐานกลุ่มลูกค้าออกสู่ประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV

นายศุภกร โคมทอง ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารงาน และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรม เทคโนโลยี และ สารสนเทศ ผู้บริหารทายาทรุ่น 2 ภายใต้ชื่อ ณรวีคลีนิค เปิดเผยว่า ตลาดคลีนิคเสริมความงามในประเทศไทยมีมูลค่า 2-3 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มขยายขึ้นทุกปี จึงทำให้มีคลีนิคใหม่ๆเกิดขึ้นอย่างมากมายและมีการแข่งขันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมา ธุรกิจคลีนิคเสริมความงามมีกำไรลดลงจาก 11 % เหลือ 3 % ส่งผลให้ธุรกิจเสริมความงาม หันมาเจาะตลาดกลุ่มนิสซ์มาร์เก็ต ( Niche Market ) เพิ่มมากขึ้น

ดังนั้นกลยุทธ์หลักที่คลีนิคนำมาสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า คือ ดูแลใส่ใจลูกค้าทุกขั้นตอน โดยยึดหลักคุณธรรมและจริยธรรมของวิชาชีพอย่างเข้มข้น ภายใต้สโลแกน เพราะเราให้คุณมากกว่าความสวย หรือ More than beauty is Trust ตั้งแต่การให้คำแนะนำที่ถูกต้อง คัดเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ติดตามผลหลังการทำศัลยกรรมอย่างใกล้ชิด และรับประกันผลงานยาวนาน 6 เดือน พร้อมทั้งมีระบบ CRM หรือ Customer Relationship Management คอยตอบคำถามอย่างใกล้ชิด และใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน

ส่วนการทำตลาดจะเน้นในเรื่องความปลอดภัย คุณภาพ และราคาที่ทุกคนเข้าถึง ได้เป็นหลัก โดยในปี 2561 จะเน้นทำตลาดขยายฐานลูกค้าไปในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน CLMV ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม และตั้งเป้าหมายยอดขายตลาดต่างประเทศ โตเพิ่มขึ้น 10-20% พร้อมทั้งมีการประสานกลยุทธ์ด้านการพัฒนาสินค้า (Finish Good )เพื่อใช้ดูแลผิวพรรณ และขยายตลาดกลุ่มศัลยกรรมไปในต่างประเทศให้สอดคล้องกัน ทั้งนี้เราเน้นความเชื่อใจ ความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ

นายรวิ โคมทอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป ผู้บริหารทายาทรุ่น 2 กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าของเราแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ คนไทย และ ต่างประเทศ โดยลูกค้าคนไทยจะเป็นกลุ่มนักเรียนนักศึกษา พนักงานออฟฟิต และกลุ่มแม่บ้าน ช่วงอายุระหว่าง 18-45 ปี ส่วนลูกค้าต่างประเทศ จะเป็นกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน CLMV และโซนเอเชีย อาทิ จีน ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง อินโดนีเชีย ช่วงอายุระหว่าง 25-60 ปี เป็นต้น ซึ่งมีการแบ่งสัดส่วนลูกค้าออกเป็นคนไทย 60% และต่างประเทศ 40 % ส่วนในเรื่องของสัดส่วนรายได้จะมีรายได้หลัก มาจากการทำศัลยกรรม 90 % และกลุ่มประเภท (Skin) ผิวพรรณ 10% คาดว่าตลอดปี 2560 ธุรกิจเติบโต 5-10% ตามผลมาจากเทรนด์การทำศัลยกรรมเพิ่มมากขึ้น และตลาดยอมรับการทำศัลยกรรม และตั้งเป้าปี 2561 ธุรกิจจะเติบโต 10-20% พร้อมทั้งมีแผนแตกไลน์สินค้าในกลุ่มความงามและผิวพรรณ (Finishing Product)ในรูปบริษัทในเครือ เพื่อเพิ่มยอดขายอย่างเต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ การเข้ามาใช้บริการของลูกค้าจะพิจารณาจาก 3 เรื่องหลัก คือ ผลการรักษา ราคา และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เป็นต้น โดยผู้ใช้บริการจะเน้นมาใช้บริการ 5 กลุ่มหัตถการหลัก คือ ศัลยกรรมเสริมจมูก ดูดไขมัน ศัลยกรรมตา เสริมคาง-ปากกระจับ และศัลยกรรมเพิ่มขนาดหน้าอก ส่วนแนวโน้มที่ผู้ใช้บริการจะหันมาใช้บริการเพิ่มขึ้น และหันมาใช้บริการเทรนด์ใหม่ๆ คือ การตกแต่งเสริมจมูก ไม่ว่าจะเป็นการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน การตกแต่งจมูก การเสริมจมูกด้วยเทคนิคต่างๆ อาทิ กระดูกอ่อนหลังใบหู เนื้อก้นกบ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการเสริมจมูกแบบเปิดจมูก (open nose ) การดูดไขมันด้วยเทคนิค Vaser Liposuction 4 D และการฉีดไขมันเข้าร่างกายในส่วนต่างๆ เป็นต้น

ด้าน  นางสาวชนัดดา หยิบเจริญพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายขายและการตลาด ผู้บริหารทายาทรุ่น 2 กล่าวว่า การทำตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ จะยึดหลักเดียวกัน คือ ความเชื่อใจ ความพึงพอใจ และราคาที่ทุกคนเข้าถึง ภายใต้สโลแกน “More than Beauty is trust เพราะเราให้มากกว่าความสวย แต่ภายในประเทศไทย ตลาดมีความอ่อนไหวทางอารมณ์ (Emotional Marketing )กิจกรรมที่จัดขึ้นจะเน้นเรื่องการสร้างแบรนด์เป็นหลัก โดยยึดจุดยืนของแบรนด์และเปิดเกมส์รุกอย่างเต็มรูปแบบโดยทีมผู้บริหารรุ่นใหม่ จะกลับมาเน้นเรื่องภาพลักษณ์ และการสร้างแบรนด์ให้เข้มแข็งรู้จักในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งจะยึดถือเรื่องคุณภาพ การให้บริการก่อนและหลังการทำศัลยกรรมเป็นสำคัญ ตามที่ได้ยึดถือมาตลอด 30 ปี ในรูปแบบเชิงสร้างสรรค์ สะท้อนสังคม และกิจกรรมเพื่อสังคม เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้ใกล้ชิดแบรนด์มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในวาระครบรอบ 30 ปีของณรวีคลินิค มีแผนการที่จะสร้างแบรนด์อย่างเข้มข้น โดยเน้นกลยุทธ์ คือ สร้างความสัมพันธ์อันดีต่อลูกค้า คู่ค้า พนักงาน ชุมชน และสังคม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยจะมีการคลอดแคมเปญแรกออกมา เพื่อตอกย้ำจุดยืน และภาพลักษณ์ของแบรนด์ ภายใต้แคมเปญ “ The Legend of Naravee เพราะ 30 ปี คือ ตำนาน” เป็นการตอกย้ำในเรื่องคุณภาพ ใส่ใจในการบริการ และการให้คำปรึกษาก่อนและหลังบริการศัลยกรรม ซึ่งจะมีกิจกรรมเพื่อสังคม “ถ้าคุณสวยแล้ว คุณจะส่งต่ออะไรให้สังคม”

 

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ