บลจ.ไทยพาณิชย์จ่ายปันผลLTF3กองรวดมูลค่ารวม1,186ล้านบาท

วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2561

บลจ.ไทยพาณิชย์จ่ายปันผลLTF3กองรวดมูลค่ารวม1,186ล้านบาท


นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า          บลจ.ไทยพาณิชย์ เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) จำนวน 3 กองทุน สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวัน ที่ 1 กรกฎาคม 2560 - วันที่ 31  ธันวาคม 2560  ประกอบด้วย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยา วทาร์เก็ต (SCBLTT) ในอัตรา 0.6500 บาทต่อหน่วย กอง ทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปั นผล 70/30 (SCBLT1) ในอัตรา 0.6 00 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระย ะยาวอินเตอร์ (SCBLT4) อัตรา 0.5000 บาทต่ อหน่วย รวมมูลค่าประมาณ 1,186 ล้านบาท โดยจะจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหน่วยในวันที่ 19 มกราคม 256 1 นี้

สำหรับกองทุน ​LTF ทั้ง 3 กองทุ นดังกล่าวสามารถสร้างผลการดำเนิ นงานอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยกองทุนที่มีผลงานที่โดดเด่น คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยา วทาร์เก็ต (SCBLTT) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 17.16% และย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 20.59% สามารถเอาชนะเกณ ฑ์มาตรฐานดัชนี SET TRI ซึ่งผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดื อนอยู่ที่ 12.66% และย้อนหลัง 1 ปี  อยู่ที่17.30 % (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ธ.ค.60) ซึ่งการจ่ายปันผลครั้งนี้นับเป็ นครั้งที่ 16 รวมเป็นเงินปันผลจำ นวน 3.9600 บาทต่อหน่วย เน้นลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบี ยนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีพื้นฐาน ดี มั่นคง และมีแนวโน้มเจริญเติบโตสูง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่า ทรัพย์สินของกองทุนรวม

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยา วอินเตอร์ (SCBLT4) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 6  เดือน อยู่ที่ 15.53% และย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 18.65% สามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐานดัชนี  SET TRI ที่มีผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 12.66% และย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 17.30% (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ธ.ค.60) โดยการจ่ายปั นผลครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 13  รวมเป็นเงินปันผลจำนวน 2.9200 บ าทต่อหน่วย เน้นลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบี ยนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีพื้นฐาน ดี มั่นคง และมีแนวโน้มเจริญเติบโตสูง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 65  ของมูลค่ าทรัพย์สินของกองทุนรวม และมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ ไม่เกินกว่าร้อยละ 35 ของมูลค่า ทรัพย์สินของกองทุนรวม

และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระย ะยาวปันผล 70/30 (SCBLT1)  มีผล ตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่12.97% และย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 15.47% เปรียบเทียบกับเ กณฑ์มาตรฐานดัชนี SET TRI ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน อ ยู่ที่ 12.66% และย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 17.30% (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ธ.ค.60)  โดยการจ่ ายปันผลครั้งนี้นับเป็นครั้งที่  21 รวมเป็นเงินปันผลจำนวน 4.87 50 บาทต่อหน่วย เน้นลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในต ลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ มีนโยบายหรือมีการจ่ายปั นผลอยางสม่ำเสมอ เฉลี่ยในปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อย ละ 65 และไม่เกินร้อยละ 70  ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนรวม

นายสมิทธ์ กล่าวว่า บลจ.ไทยพาณิชย์ มองว่าภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้น ไทยในปี 2561 ยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้ นอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยบวกทั้ งจากภายนอกและภายในประเทศ   โดย เศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มมี การฟื้นตัวอย่างชัดเจน   เป็ นไปในทิศทางเดียวกับเศรษฐกิ จโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่ อเนื่องเช่นกัน  ซึ่งจะส่งผลให้ ตัวเลขการส่งออกและตัวเลขนักท่ องเที่ยวยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น   ประกอบกับการบริโภคภาคเอกชนที่ จะได้ปัจจัยบวกจากนโยบายภาครั ฐที่ช่วยสนับสนุนผู้มีรายได้น้ อย    และการฟื้นตั วภาคเอกชนจากนโยบายภาครั ฐในการสนับสนุนระเบียงเศรษฐกิ จตะวันออก (EEC) ในธุรกิจใหม่ๆ อย่างจริงจัง เหล่านี้จะช่วยให้ เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างยั่งยื น นอกจากนี้ เม็ดเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐา นก็จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐ กิจในช่วง 2 - 3 ปีข้างหน้าอีกทางหนึ่ง   โดยคาด ว่าหุ้นไทยในปี 2561 มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปอยู่ระดับ 1,830-1,900 จุด

สำหรับปัจจัยที่จำเป็นต้องติดตา มส่วนใหญ่จะเป็นปัจจัยภายนอกประ เทศ ทั้งอัตราและจังหวะเวลาการขึ้นด อกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอเมริ กา  การเร่งตัวของการลดงบดุลของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ และยุโรป  และเศรษฐกิจจีนว่าจะยั งมีแนวโน้มเติบโตสูงอย่างต่อเนื่ องได้ดังคาดหรือไม่   โดยปัจจุบันความเสี่ยงดังกล่าว เป็นที่รับรู้ไปมากแล้ว   จึงจั ดเป็นระดับความเสี่ยงที่ไม่สู งนัก   หุ้นจึงยังคงเป็นสินทรั พย์ที่น่าลงทุนอยู่ต่อไป    แต่ อย่างไรก็ตามอาจมีความเสี่ยงที่ สร้างความผันผวนได้เป็นระยะสั้ นๆ บ้าง เช่น ปัญหาการเมืองและความไม่สงบในตะ วันออกกลาง   ปัญหาความขัดแย้งเ รื่องอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเ หนือ เป็นต้น

 “เนื่องจากหุ้นไทยได้ปรับตัวขึ้ นอย่างรวดเร็วตามความคาดหวังที่ เศรษฐกิจไทยจะมีการเติบโตในระดั บค่อนข้างสูงไปในระดับหนึ่งแล้ว   จึงมีโอกาสที่หุ้นไทยจะมีการพั กตัวบ้างเป็นระยะสั้นๆ   หรื อในบางช่วงอาจมีจังหวะที่หุ้นไท ยปรับตัวลงเป็นจากข้อมูลที่ออกม าต่ำกว่าคาด   แนะนำให้ใช้จั งหวะพักตัวนี้สะสมหุ้นเพิ่มเติ ม” นายสมิทธ์ กล่าว



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ