บริษัท เมย์เอเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตเครื่องสำอาง ปั้น “แบรนด์ เมย์เอเวอร์ ไทยแลนด์” เวชสำอางนวัตกรรมสกัดเอนไซม์จากผลไม้เกรดพรีเมี่ยมมะละกอ, ชานอ้อยและ เปลือกมังคุด เพื่อส่งเสริมการต่อยอดงานวิจัย นวัตกรรมกับสินค้าเกษตร วางหมากรุกทำตลาดในไทย พร้อมเล็งประเดิมตลาดประเทศจีนที่แรก เตรียมอัดงบทำหนังโฆษณา 3 เรื่อง ประเดิมต้นปี เน้นทำตลาดช่องทางจำหน่ายออนไลน์ มั่นใจเข้าถึงผู้บริโภคสร้างรายได้ปีแรกตามเป้า
นภัทร ภัทรเดชากูล, คุณวิภาวี เสนอศักดิ์ และ แพทย์หญิงสุขุมาลย์ สว่างวารี สามผู้บริหารผู้ก่อตั้ง เมย์เอเวอร์ ไทยแลนด์ (MAYEVER THAILAND) เจ้าของแนวคิด ผู้จุดกระแสการสกัดเอนไซม์จากผลไม้เป็นเครื่องสำอาง เผยว่า
“จุดเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวภายใต้แบรนด์เมย์เอเวอร์ ไทยแลนด์ เกิดจากการที่ทุกคนที่บ้านใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลผิวซึ่งก็มีหลายชิ้นที่ผลิตจากต่างประเทศและมีราคาสูงและบางชนิดก็มีสารเคมีเป็นส่วนประกอบ เมื่อใช้ไปสักระยะหนึ่งรู้สึกว่าผิวหยาบกร้านขึ้น จึงคุยกันว่าอยากจะมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถดูแลสุขภาพผิวที่อ่อนโยนต่อผิว และมีสารสกัดที่ดีจากธรรมชาติ เริ่มที่จะมองหาสารสกัดจากธรรมชาติจากงานวิจัยของคนไทย จึงเจอสารสกัดจากผลิตผลทางการเกษตรของไทยซึ่งหลายๆ ท่านอาจจะมองข้าม ทางบริษัทได้ทำงานร่วมกับฝ่ายผลิตในการนำสารสกัดที่ผ่านเทคโนโลยีขั้นสูงมาพัฒนาจนเป็นนวัตกรรมสำหรับการดูแลผิวพรรณ เรียกได้ว่าเราได้พัฒนาผลิตภัณฑ์จากไร่สู่ใบหน้า”
ขณะนี้บริษัทเรามีผลิตภัณฑ์ด้วยกันสามกลุ่ม คือ MayeverAcNev Serum ( ซีรั่มเพื่อหน้าอ่อนใส ไร้สิวจากเอนไซม์ เปลือกมังคุด) Mayever White Ever Serum ( ซีรั่มบำรุงผิวหน้าเพื่อหน้าไร้ริ้วรอย อ่อนเยาว์ สูตรเข้มข้น สกัดจากยีสต์หมักจาก ชานอ้อย) และ Mayever Absolute Deeper Cleanser (สัมผัสประสบการณ์ใหม่แห่งการทำความสะอาด สะอาดหมดจด เจลล้างหน้าผสมของสารสกัดจาก ผลมะละกอ)
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวออกสู่ตลาดจำนวนมากและมีการแข่งขันค่อนข้างสูงจากสถิติของปีปัจจุบัน (2017) ตลาดดูแลผิวพรรณเติบโต 6.1% โดยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าเป็นตลาดที่ใหญ่ด้วยสัดส่วนมากกว่า 3 ใน 4 ของตลาดรวมทั้งหมดโดยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นถึง 70,000 ล้านบาทและ แนวโน้มผู้บริโภคที่ใช้เครื่องสำอางจะเด็กลงเรื่อยๆ โดยเริ่มตั้งแต่อายุ 12-14 ปี ซึ่งมีแนวโน้มในทางบวก ทั้งนี้ สำหรับผลิตภัณฑ์ของเรา เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เรามั่นใจว่าผลตอบรับน่าจะไปในทิศทางทีดี จากการสำรวจตลาด คนจีนมีความชื่นชอบผลิตภัณฑ์ของคนไทยมาก รัฐบาลยังมีนโยบายเดินหน้าผลักดันให้มีการผลิตสินค้าเกษตรนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น การส่งเสริมการเพาะปลูกสินค้าเกษตรอินทรีย์ ส่งเสริมการต่อยอดงานวิจัย นวัตกรรมกับสินค้าเกษตร เพื่อให้เกิดสร้างความหลากหลายและมูลค่าเพิ่ม และจัดหาช่องทางจำหน่ายสินค้าเกษตรนวัตกรรมทั้งในและต่างประเทศ ทางบริษัทจึงเห็นว่าช่องทางในการจัดจำหน่ายยังมีอยู่อีกมาก”
“นอกจากนั้นทางบริษัทมีเป้าหมายที่จะนำผลิตภัณฑ์เมย์เอเวอร์ไปจำหน่ายยังประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีความชื่นชอบผลิตภัณฑ์ของไทยเป็นอย่างมาก การผลิตที่มีคุณภาพนอกจากจะทำให้ผลิตภัณฑ์ของไทยเป็นที่รู้จักแล้วยังสามารถนำรายได้เข้าสู่ประเทศสามารถสร้างรายได้ให้กับคนไทยได้ เพราะกระบวนการวิจัย ผลิต บรรจุและการขนส่งทำโดยคนไทยทั้งหมด”
ทีมผู้บริหาร กล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นบริษัทฯ จะเน้นทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เพราะกำลังเป็นที่นิยมเนื่องจากเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและช่วยให้ผู้บริโภคที่ไม่มีเวลาในการเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้า สามารถสั่งซื้อได้ ในปัจจุบัน บริษัทเมย์เอเวอร์ อินเตอร์แนชั่นแนล จำกัด ได้เปิดช่องทางการสั่งสินค้าได้ที่ www.mayeverthailand.com Facebook Fanpage MayeverThailandLazada และ Shopee อีกทั้ง ในอนาคตคาดว่าบริษัทจะขยายช่องทางจำหน่ายผ่าน Modern Trade มากขึ้น และนักท่องเที่ยวก็สามารถซื้อได้ทั้งในส่วนของร้านสะดวกซื้อและ Mayever มีแผนที่จะนำสินค้าของเราที่มีในปัจจุบันและที่จะเกิดเพิ่มเข้าสู่ King Power เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถซื้อได้สะดวกยิ่งขึ้น
“ ปัจจุบัน บริษัทฯ กำลังเพิ่มช่องทางการรับรู้ โดยล่าสุดได้ผลิตหนังโฆษณาจำนวน 3 เรื่องสำหรับ 3 ผลิตภัณฑ์แรก เพื่อลงสู่สื่อออนไลน์ และคาดว่าภายในไตรมาสแรกของปี 2018 เราจะขยายช่องทางการรับรู้สู่สื่อวิทยุและโทรทัศน์มากขึ้น”