“มาลี” ไล่ทุ่มงบฮุบกิจการ ตป.เดินสู่เป้าผู้ผลิตอาหาร เครื่องดื่มระดับโลก

วันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

 “มาลี” ไล่ทุ่มงบฮุบกิจการ ตป.เดินสู่เป้าผู้ผลิตอาหาร เครื่องดื่มระดับโลก


นายโอภาส โลพันธ์ศรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศ บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  ล่าสุดบริษัทได้เข้าซื้อกิจการบริษัทร่วมทุน ลอง ควน เซฟ ฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่มในเวียดนามด้วยสัดส่วน 65% หรือคิดเป็นมูลค่า 330 ล้านบาท เพื่อในการช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตเครื่องดื่มของบริษัทเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มผู้มีรายได้ระดับปานกลางจนถึงระดับทั่วไปในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ที่เป็นรูปธรรมในการรุกตลาดระหว่างประเทศ เพื่อให้มาลีกรุ๊ปขึ้นแท่นสู่เป้าหมายการเป็นผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มสุขภาพระดับโลกในปี 2564

สำหรับมาลีกรุ๊ป บริษัทร่วมทุน ลอง ควน เซฟ ฟู้ด จำกัด ในประเทศเวียดนามมีศักยภาพที่แข็งแกร่งในการที่จะมาเติมเต็มธุรกิจทั้งในส่วนของ1.ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ สำหรับกลุ่มผู้บริโภคชาวเวียดนาม 2.สายการผลิตครบวงจรที่มีกำลังการผลิต 300 ล้านลิตรต่อปี มีคุณภาพการผลิตสูงและสามารถบริหารต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มได้หลากหลายชนิด 3.ความได้เปรียบในเรื่องการแข่งขันด้านราคา ในการเจาะตลาดในวงกว้างในภูมิภาคอาเซียน และ 4.ช่องทางการจัดจำหน่ายครอบคลุมในประเทศเวียดนาม

เราได้วางแผนดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศกว่า 3 ปีที่ผ่านมา เป็นการเข้าถึงการเติบโตของตลาดเครื่องดื่มอย่างมีศักยภาพในระดับภูมิภาค และสำหรับตลาดประเทศเกิดใหม่ในอาเซียน ในปัจจุบันเราได้ทำการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในประเทศฟิลิปปินส์กับบริษัท มอนเด นิชชิน คอร์ปอเรชั่น และในประเทศอินโดนีเซียกับบริษัท พีที คีโน่ อินโดนีเซีย และล่าสุดกับการเข้าซื้อบริษัทร่วมทุน ลอง ควน เซฟ ฟู้ด จำกัด โดยการร่วมทุนเป็นการทำกลยุทธ์แบบสร้างเครือข่ายในระดับภูมิภาคด้วยการนำเอาจุดแข็งของพันธมิตรในแต่ละประเทศมาเสริมแกร่งซึ่งกันและกัน ”

ผู้บริหารหนุ่ม กล่าวต่อว่า  สำหรับภาพรวมตลาดน้ำผลไม้ในประเทศไทยนั้นในปี 2560 ตลาดติดลบ 8% มีมูลประมาณ 12,500 ล้านบาท โดยกลุ่มพรีเมี่ยมติดลบ 7% มีมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งมองว่าในปีนี้ตลาดน่าจะดีขึ้น หรือพ้นจากภาวะติบลบได้  ซึ่งปีนี้ บริษัทได้เตรียมงบลงทุนสำหรับทำตลาดภายในประเทศ 500 ล้านบาท  ในการปรับปรุงเครื่องจักรให้มีประสิทธิในการผลิตมากขึ้น พร้อมตั้งเป้าหมายใน 3 ปีนี้(61-63) จะมียอดขายรวมเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยในปี 2561 ตั้งเป้ามียอดขายรวมเติบโตเพิ่มขึ้น 30% หรือมีมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท มากกว่าปกติที่โตปีละ 10-20% และในปี 2562 จะมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 10% จากปกติ 6-8% ส่วนในปีนี้ กำไรยังไม่ถึง 10% โดยจะมาจากการเติบโตของยอดขายต่างประเทศมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในอาเซียน

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ