บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดแผนปี 61 มุ่งเป้าเป็นบลจ.ที่ 1 ในใจลูกค้าเน้นนวัตกรรมลงทุนรูปแบบใหม่

วันพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดแผนปี 61 มุ่งเป้าเป็นบลจ.ที่ 1 ในใจลูกค้าเน้นนวัตกรรมลงทุนรูปแบบใหม่


บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดแผนปี 61 มุ่งเป้าเป็นบลจ.ที่ 1 ในใจลูกค้า เน้นนวัตกรรมลงทุนรูปแบบใหม่ พร้อมพัฒนา Digital Platform รองรับทำธุรกรรมยุคดิจิ ทัล

นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี  2561 ว่า บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมา ยการเป็นบลจ.ที่ 1 ในใจลูกค้า หรือ The Most Admired Asset Management โดยการออกผลิตภัณฑ์ที่ หลากหลายและทันสมัยตอบสนองความต้ องการของลูกค้า ทั้งกองทุนประเภทกลุ่ม Income ที่สร้างรายได้ระหว่างทาง รวมถึงรูปแบบการลงทุนต่างประเทศ ที่ครบวงจร โดยจะเป็นการนำเสนอกองทุนหุ้นต่ างประเทศที่บริหารจัดการแบบ Act ive อาทิ สหรัฐอเมริกา ยุโรป อินเดีย ญี่ปุ่น เป็นต้น เพื่อเป็นทางเลือกเสริมจากกองทุ นปัจจุบันที่บริหารจัดการแบบ Pa ssive  

บริษัทฯ ยังเน้นการรักษาระดับผลตอบแทนจา กการลงทุนถึงลูกค้าให้อยู่ ในระดับที่ดีและมุ่งเน้นที่จะพั ฒนาให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมามีกองทุนที่ประ สบความสำเร็จหลายกองทุน อาทิ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนปัน ผล (SCBDV) มีผลตอบแทนปี 2560 อ ยู่ที่ 23.20% และกองทุนเปิดไทย พาณิชย์หุ้นทุน Mid/Small Cap (SCBMSE) ที่มีผลตอบแทนในปี  2560  อยู่ที่ 21.50% ส่วนกองทุ นต่างประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้ นโกลบอลเฮลธ์แคร์  (SCBGHC) มีผ ลตอบแทนในปี 2560  อยู่ที่ 18.2 7% กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลสตราทีจิก อินเวสเมนท์ (SCBGSIF) มีผลตอบแ ทนปี 2560 อยู่ที่ 4.69% (ที่มา : SCBAM ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2560) 

“นอกจากนี้ยังมี กองทุนหุ้นไทยและต่างประเทศที่มี ผลงานโดดเด่นจนได้รับการจัดอันดั บ 5 ดาวจาก Morning Star ในปีที่ผ่านมา คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนปัน ผล (SCBDV) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ซี เล็คท์ อิควิตี้ (SCBSE) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นเกาหลี (SCBKEQTG) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นยูเอส (SCBS&P500) และ กองทุนเปิดไทยพ าณิชย์หุ้นทุน Mid/Small Cap  (SCBMSE) รวมทั้งยังประสบความสำเร็จจากกอ งทุนที่เกี่ยวกับการพัฒนาด้านเท คโนโลยีหรือดิจิทัล อาทิ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลบอลดิจิ ตอล (SCBDIGI)  กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลโรโบติกส์ (SCBROBO) ที่มีผลการดำเนินงานที่ดี และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์  Machine Learning ที่ใช้ Machine เข้ามาบริหารกองทุนแทนคนเป็นกอง แรกของประเทศ จึงมีกระแสการตอบรับจากนักลงทุน อย่างมาก” นายสมิทธ์กล่าว

สำหรับนโยบายด้านการให้บริการใน ปี 2561 นี้ จะเน้นการพัฒนา Digital Platform และเทคโนโลยีรองรับการ ทำธุรกรรมในยุคดิจิทัล เพื่อตอบสนองนักลงทุนที่นิยมใช้ เทคโนโลยีในการรับข้อมูลข่าวสาร และการทำธุรกรรม ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ที่มุ่งไปสู่การที่จะเป็นกลุ่มส ถาบันการเงินที่ถูกขับเคลื่อนด้ วยเทคโนโลยีและข้อมูลเป็นหลัก อาทิ มีการให้ข้อมูลข่าวสารผ่าน Soci al Media Platform ทั้ง SCBAM Website, Investment Guru ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งจะมีการให้เปิดบัญชีซื้อ ขายกองทุนครั้งแรกด้วย SCB EASY Application (online account)  และการให้บริการ Inve stment Advisory ผ่านมือถือ  รวมทั้งการให้บริการ SCB Connect (Chatbot) และการเปิดตัว SCBAM Line@ เพื่อเป็นช่องทางรับข้อมู ลข่าวสารการลงทุน สภาวะตลาด ข้อมูลกองทุน และการจัดสรรสัดส่วนการลงทุน รวมถึงสาระการลงทุนที่น่าสนใจแล ะน่าติดตาม ซึ่งจะทำให้เรื่องการลงทุนเป็นเ รื่องง่ายเข้าถึงผู้ลงทุนได้ทุก กลุ่ม โดยเฉพาะผู้ลงทุนยุคดิจิทัล ตลอดจนการปรับปรุงระบบสนับสนุนก ารลงทุนต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพและมีความทันสมั ยมากขึ้น

ทั้งนี้ ในปี 2560  บลจ.ไทยพาณิชย์มีมูลค่าทรัพย์สิ นสุทธิภายใต้การจัดการ (AUM)  ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2560 รวม 1,374,936 ล้านบาท เป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรม ด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงสุดที่ 19.8% เติบโตจากปี 2559 คิดเป็นอัตรา 5.2% ที่มี AUM รวม 1,307,408 ล้านบาท  กองทุนของบลจ.ไทยพาณิช ย์ มีการเติบโตมากที่สุดในกลุ่มธุร กิจกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) โดยมี AUM ณ สิ้นปี 2560 สูงถึง 364,376 ล้านบาท เติบโต 12.1% จากสิ้นปี 2559 ทำให้บริษัทมีส่ วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 43.3% และยังครองอันดับ 1 อย่างต่อเนื่องจากปี  2557

ส่วนธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) มี AUM ณ สิ้นปี 2560 อยู่ที่ 113,319 ล้านบาท  และธุรกิจกองทุนรวม (Mutual Fund)  มี AUM ณ สิ้นปี 2560 อยู่ที่ 879,241 ล้านบาท ซึ่งรวมกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐ าน (Infrastructure Fund) มูลค่ารวม 89,920 ล้านบาท และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) 55,463 ล้านบาท (ที่มา : สมาคมบริษัทจัดการลงทุน ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2560)

ด้านนายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าห น้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับความคิดสร้าง สรรค์หรือนวัตกรรมการลงทุนใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิ จที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรู ปแบบการลงทุนใหม่ๆ หรือ การลงทุนแบบ Thematic Investment ซึ่งแตกต่างจากการลงทุนทั่วไป คือจะวิเคราะห์แนวโน้มที่เกิดขึ้นในอนาคต เช่น Theme การลงทุนจากการเปลี่ยนแปลงของโค รงสร้างประชากรโลก (Global Demographics)  ซึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในอี ก 50 ปี ข้างหน้าซึ่งทำให้ธุรกิจที่เกี่ ยวกับสาธารณูปโภค สินค้าอุปโภคบริโภค และอุตสาหกรรมการแพทย์มีแนวโน้ม การเติบโตในอนาคต Theme การลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้ องกับหุ่นยนต์ (Robotics) ที่ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ นำมาใช้ทดแทนปัญหาการขาดแคลนแรง งาน  และ Theme การลงทุนที่กำลังได้รับความนิยม เป็นอย่างมากคือการเติบโตของการ ใช้งานเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบา ทในวิถีการใช้ชีวิตของคน  

สำหรับการลงทุนในปี 2561 บลจ.ไท ยพาณิชย์มองว่า การขยายตัวของเศ รษฐกิจประเทศหลักทั้งสหรัฐฯ ยูโรโซน และ ญี่ปุ่น จะได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักมาจา กตลาดแรงงาน และการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้น ตัวแข็งแกร่ง รวมถึงการฟื้นตัวของการค้าโลกใน ภาพรวม อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจที่ขยายตัวแข็งแกร่งเริ่มกดดันให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสู งขึ้น ทำให้ธนาคารกลาง เช่น สหรัฐฯ และจีน เริ่มส่งสัญญาณการดำเนินนโยบายก ารเงินแบบตึงตัวมากขึ้นตามลำดับ โดยจะเห็นได้จากการเริ่มปรับตัว ขึ้นของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น และการส่งสัญญาณการปรับลดขนาดงบ ดุลของธนาคารกลางสหรัฐฯ  (FED) นอกจากนี้ ความเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังในปี นี้คือ การดำเนินนโยบายกีดกันการค้าของ สหรัฐฯ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ลด QE และการเมืองในยุโรป และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างสหรั ฐฯ และเกาหลีเหนือ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวอาจส่ง ผลกระทบเชิงลบต่อความเชื่อมั่นผู้ บริโภค และการลงทุน รวมถึงอาจสร้างความผันผวนให้กับ ตลาดเงินระหว่างประเทศได้ในระยะ ต่อไป

“เรามีมุมมองที่เป็นบวกต่อการลง ทุนในตลาดหุ้นจากเศรษฐกิจโลกที่ ขยายตัวดีขึ้น สนับสนุนผลประกอบการบริษัทจดทะเ บียน อย่างไรก็ตาม แนะนำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการล งทุนในตราสารหนี้ระยะยาวเนื่องจ ากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น อาจทำให้ FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยเ ร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์  ส่วนตล าดหุ้นไทย ได้รับปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจและ สภาพคล่อง เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ ไทยมีการกระจายตัวดีขึ้นเมื่อเที ยบกับปี 2560 ที่การขยายตัวทางเ ศรษฐกิจส่วนใหญ่กระจุกตัวในกลุ่ มที่ได้ประโยชน์จากอุปสงค์ ภายนอกผ่านการค้าระหว่างประเทศแ ละการท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยในปี 2561 คาดว่าการปรับตัวเ พิ่มขึ้นของเม็ดเงินลงทุนโครงกา รโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนในภาคเอกชนจะเป็นปัจ จัยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักล งทุน  ขณะที่ต้นทุนทางการเงิน (อัตราดอกเบี้ย) ยังอยู่ในระดับต่ำตามอัตราดอกเบี้ ยนโยบาย ตลอดจนมูลค่าพื้นฐานตลาดหุ้นไทย (Valuation) เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นภูมิภาคยั งไม่สูง  ซึ่งคาดว่าการลงทุนในโ ครงสร้างพื้นฐานจะช่วยหนุน SET Index ให้ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเที ยบกับตลาดหุ้นอื่น ๆ” นายณรงค์ศักดิ์กล่าว



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ