เวทีประกวดนางงามนับเป็นความใฝ่ฝันของผู้หญิงหลายๆคน ซึ่งจากเด็กสาวบ้านๆที่ไม่คิดไม่คิดฝันว่าจะได้ก้าวเข้าสู่เวทีนางงามในระดับโลก ก็ได้สานฝันของตัวเองจนได้รับคัดเลือกเป็นสาวงามตัวแทนประเทศไทย “มาดามออร่า” หรือกุ้ง – ปวีณา บำรุงรส ปัจจุบันประธานบริหาร บริษัท มิสออร่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(MAI) ผู้ดำเนินธุรกิจการจัดเวทีการประกวดนางงาม นางแบบนายแบบ ทั้งในไทยและระดับนานาชาติ พร้อมยังเป็นผู้ถือลิขสิทธ์ ERM Thailand เวทีประกวดนางงามกว่า 18 เวทีระดับโลก
ปวีณา บำรุงรส เผยถึงความรู้สึกว่า ตลอดระยะเวลากว่า 14 ปีที่ผ่านมาจากเด็กที่ถูกทาบทามชักจูงให้เข้าบนเส้นทางเวทีประกวดนางงามประกวดสู่ผู้จัดเวทีประกวดนางงามผลักดันประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการจัดเวทีประกวดนางงามในระดับโลก
“แน่นอนว่าเป้าหมายในชีวิต การเริ่มต้นไม่ใช่เรื่องที่ง่าย สำหรับดิฉันก็เช่นเดียวกันเด็กสาวที่มีความฝันไม่ต่างกับเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ โดยเริ่มจากเส้นทางการก้าวสู่เวทีประกวดนางงามช่วงอายุ 24 ปี ได้รับโอกาสร่วมเวทีประกวด มิส อินเตอร์เนชั่นเนล ที่ประเทศญี่ปุ่น”
ซึ่งนับเป็นการเริ่มต้นที่ดีกับการได้รับเลือกเป็น 12 นางงามตัวท็อปบนเวทีระดับโลก ต่อมาปี 2004 เธอก็ได้รับการติดต่อให้เป็นตัวแทนประเทศไทยขึ้นเวทีประกวดมิสทัวร์ ลิซึม ควีน อินเตอร์เนชั่นเนล ที่ประเทศจีน
เธอ เล่าต่อว่า ตอนนั้นตลอดการประกวดดิฉันได้มากกว่าประสบการณ์ที่ดี และได้มิตรภาพกับเพื่อนนางงามนานาประเทศ ทำให้ตลอดระยะเวลาการเก็บตัว และประกวดเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ทำให้ดิฉันได้ฉายาจากเพื่อนๆ และกองประกวดว่า“สาวยิ้มสวย Sweetie” จนทำให้ปีนั้นฉันได้คว้ารางวัลรองอันดับ 4 และรองอันดับ 3 รางวัลพิเศษในชามมิ่ง (นางงามมีเสน่ห์) ในชุด Best in กี่เพ้า และยังได้สัมผัสสถานที่สำคัญต่างๆ ในเมือง เช่น ถ่ายภาพกับกำแพงเมืองจีน ซึ่งได้รับการต้อนรับจากรัฐบาลจีนเป็นอย่างดี
“ ในปีนี้ได้ทำเวทีประกวด Miss Tourism Queen International 2018เป็นเวทีที่หมุนเวียนการเป็นเจ้าภาพแต่ละประเทศ มาเกิดอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งปี 2004 ณ ประเทศจีน ถือเป็นหนึ่งในเวทีที่ฉันได้ร่วมมีประสบการณ์ที่ดี นับเป็นเวทีที่ฉันประทับใจมาก เพราะฉันมองว่าเป็นเวทีที่เฟ้นหามากกว่าการโชว์ความสวย ความฉลาดของสาวงาม แต่เป็นเวทีที่ชูนางงามเป็นทูตแห่งการท่องเที่ยวแต่ละประเทศที่ครั้งนี้ประเทศได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดเวทีประกวด Miss Tourism Queen International ระดับโลก ซึ่งรวมสาวงามกว่า 60 ประเทศทั่วโลก”
สำหรับนางงามที่ผ่านเวทีประกวดระดับโลกมาหลายคนอาจมองว่าประสบการณ์ที่ได้รับจากเวทีประกวดนางงามในแต่ละปีจะเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตนางงาม ซึ่งแท้จริงแล้วเธอไม่อยากใช้คำว่าเปลี่ยน เพราะกลับมาจากการประกวดแล้ว เรายังเป็นตัวเรา เพียงแค่ประสบการณ์หลายๆ อย่าง เหมือนเป็นบทเรียนของชีวิต ซึ่งบางเรื่องอาจทำให้เรามีแนวคิดใหม่ๆ หรือเริ่มเปลี่ยนทัศนคติต่อเรื่องต่างๆ ซึ่งทุกครั้งที่เราถูกทาบทามจากผู้ใหญ่ที่มองเห็นถึงศักยภาพของเรา นับว่าเป็นสิ่งที่เราภูมิใจและอยากทำมันให้ดีที่สุด
ทั้งนี้ หากมองถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ของการเป็นผู้จัดเวทีประกวดนางงามนั้นต้องมีความรู้ที่เกี่ยวข้องกับนางงามเพราะโดยสายเลือดกุ้งเองก็มีแม่เคยเป็นอดีตนางงามมาก่อน และประสบการณ์เบื้องหลังการทำงานจัดประกวดเวทีนางงามระดับนานาชาติต่างๆ ก็ทำให้เรามีองค์ความรอบรู้ ประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจนางงาม ที่กุ้งเองก็พร้อมให้คำแนะนำได้ทุกสถานการณ์