ยังจำกันได้หรือไม่เมื่อไม่นานมานี้ “ทางทีมงานสยามธุรกิจ” ได้เคยลงไปดูพื้นที่ พร้อมได้ไปพูดคุยกับ คุณป้า ไพเราะ ศิริการ เจ้าของสวนทุเรียน ต.ตะป้อนน้อย อ.ขลุง จ.จันทบุรี ที่ได้มาเล่าเรื่องราวของกลวิธี และ เทคนิคในการปลูกทุเรียนสวนของตนอย่างไร ให้ได้ผลผลิตที่ดี รสชาติ หวาน อร่อย แถมปลอดสารพิษ ที่ทำให้ส่งขายได้กำไรงาม

ทั้งนี้  จากกระแสข่าวที่ฮือฮากันไปเมื่อไม่นานมานี้หลังจากที่เวปไซต์อาลีบาบา ประเทศจีนได้เปิดขายทุเรียนจากไทย แค่หนื่งนาทีมีจอดสั่งซื้อถึง 80,000 ลูก นั้น  ล่าสุด สวนทุเรียน ป้าไพเราะ แห่งจันทบุรี ที่ได้ถูกรับเลือกให้เป็นสวนแรกที่ ประเดิม ออเดอร์ ล็อตแรกของการส่งทุเรียนจำนวน 1 แสน 3 หมื่นลูก ที่ถูกสั่งจกเวปไซต์อาลีบาบา ส่งไปยังประเทศจีน และ จากที่เราเคยได้ไปบุกเยี่ยมชม ชิม ทุเรียนสวนของป้าไพเราะกันมาครั้งนั้น  ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทุเรียนจากสวนป้าไพเราะ จึงได้รับเลือกนำทุเรียนส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศจีน ผ่านเวปไซต์ดังกล่าว  เพราะด้วยผลที่สวยงาม รสชาติ หวาน อร่อย แถมยังเป็นทุเรียนที่ปลูกด้วยปุ๋ยอินทรีย์ปลอดสารเคมี ทำให้มั่นใจได้ว่านำไปรับประทานปลอดภัยต่อสุขภาพ

จากประเด็นดังกล่าว ทางทีมงานสยามธุรกิจ จึงได้ลงพื้นที่ไปแสดงความยินดีกับสวนทุเรียนป้าไพเราะพร้อมได้ไปคุยกับป้ากันอีกครั้ง  ซึ่งครั้งนี้  “ป้าไพเราะ”ได้พูดคุยกับเราด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ว่า  ปัจจุบันที่สวนมีต้นทุเรียนประมาณ 100 กว่าต้น และได้ทำการเซ็นสัญญากับทางอาลีบาบา (Alibaba) ในการซื้อ-ขายทุเรียนแล้ว เนื่องจากทุเรียนมีรูปทรงที่สวยงาม พลูสวย เนื้ออร่อย ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดมาก โดยปี 2561 นี้ สามารถเก็บผลผลิตได้ประมาณ 10 กว่าตัน ราคาประมาณ 110 บาท/กิโลกรัม

“จากจุดเริ่มต้นการทำสวนทุเรียนนั้น เริ่มจากยุคคุณพ่อ-แม่ และได้สืบทอดมาถึงยุคตัวเอง โดยปัจจุบันตัวเองมีอายุ 74 ปีแล้ว และได้สืบทอดสู่รุ่นลูกต่อไป แต่ก็ยังคอยดูแลช่วยลูกอยู่ เพราะบางอย่างก็ยังต้องใช้ประสบการณ์ในการดูแลสวน”

ทั้งนี้ การดูแลสวนทุเรียนนั้น ต้องใส่ใจในทุกรายละเอียด เพราะทุเรียนมีศัตรูพืชค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นราสีชมพู ซึ่งเป็นปัญหามาก หนอนเจาะเมล็ดทุเรียน เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยแป้ง หนอนเจาะผล มอดเจาะลำต้น หนอนด้วงปีกแข็งกินรากทุเรียน และไรแดงแอฟริกัน เป็นต้น ดังนั้น จึงจำเป็นต้องดูแลให้ดี

“จากอดีตนั้น ถ้าเจอปัญหากลุ่มศัตรูพืชทุเรียน จะจัดการด้วยสารเคมี ซึ่งไม่เป็นผลดีทั้งตัวเองและผู้บริโภค จึงต้องการหันไปใช้ปุ๋ยอินทรีย์ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดไหนถึงจะเหมาะสม แต่เมื่อมีผู้บริหารของสยามธุรกิจมีเชิญให้ไปร่วมรับฟังการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ จึงร่วมเดินทางไปฟังด้วย เมื่อมีการบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญแล้วได้ความรู้มากขึ้น จึงได้ทำการสั่งปุ๋ยอินทรีย์ของสยามธุรกิจ ทั้งโชบุ พลัส และอาหารเสริมพืชฉีดพ้นทางใบ ซุปเปอร์ริชชี่โกรว์ และซุปเปอร์ริชชี่เพาเวอร์ ทั้งๆ ที่ไม่มีเงินติดตัวไปสักบาท”

ป้าไพเราะ เล่าต่อว่า  หลังจากนั้นก็ได้เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. 2560 เป็นต้นมา ซึ่งผลที่ได้รับนั้น ออกมาแตกต่างจากการใช้ปุ๋ยเคมีอย่างเห็นได้ชัด ใบทุเรียนออกมาสวย ต้นสมบูรณ์ รากเรื่อยได้ดี เกศรมองเห็นชัดเจนขึ้น ที่สำคัญช่วงเวลาออกลูกมาแล้ว ลูกทรงสวยมาก ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด จนได้รับการเซ็นสัญญาจากอาลีบาบา

“ช่วงที่มีการเชิญไปรับฟัง ตอนแรกนึกว่ามีการประชุมผู้สูงอายุ ก็เลยไปร่วมประชุมแบบตัวเปล่าๆ ไม่มีเงินติดตัวไปสักบาทเดียว แต่เมื่อได้ฟังการบรรยายก็น่าสนใจดี พอบรรยายจบก็สั่งของเลยแบบไม่มีตังสักบาท และก็เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. 2560 เป็นต้นมา และไม่น่าเชื่อได้ผลดีเกินคาด ที่สำคัญไม่เป็นพิษต่อตัวเองและผู้บริโภคเลย จึงรู้สึกภูมิใจที่สามารถผลิตทุเรียนปลอดสารพิษให้ผู้บริโภคได้ทาน”

นอกจากนี้ ยังได้นำปุ๋ยอินทรีย์ของสยามธุรกิจไปใช้กับสวนมังคุดด้วย และก็ได้ผลดีเช่นเดียวกัน ซึ่งมังคุดของสวนเรานี้ จะลูกโตมาก สามารถช่างได้ 6 ลูก เท่ากับ 1 กิโลกรัมกว่าเลยทีเดียว และขายได้กิโลกรัมละ 235 บาท จากตลาดทั่วไปมีราคา 170 บาท

“สาเหตุที่ผลไม้ที่สวนมีราคาที่สูง เพราะได้เปิดเพจเฟซบุ๊ก และมีการประมูลราคากันผ่านโซเชียล ซึ่งจะได้ราคาที่ดีมาก พอเปิดประมูลสินค้าก็หมดในเวลาที่รวดเร็วมาก จากสมัยก่อนที่ยังใช้ปุ๋ยเคมี แม้จะมีการประมูลก็ยังไม่ได้ราคาดี แต่เมื่อหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์แล้วราคาจะดีมาก เพราะใครๆ ก็ใส่ใจเรื่องสุขภาพ ที่สวนเราก็ตอบโจทย์ตรงนี้ด้วย ดังนั้นจึงอยากให้ชาวสวนลองหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ของสยามธุรกิจดู เชื่อว่าจะต้องประสบความสำเร็จแน่ เพราะเราได้ทำให้เห็นแล้วว่า ประสบความสำเร็จจริง”