ลาวัณย์ เวทประเสริฐวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป ประจำประเทศไทย เวียตนาม และกัมพูชา บริษัท เจอเนสส์ โกลบอล จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารใหม่ล่าสุดที่เข้ามารับตำแหน่งแทน คุณกันวาร์ เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพจึงลาออกไปเป็น คุณรอย ทรูแอ็ต เข้ามามาดูแลภาพรวมตลาดเอเชียแปซิฟิค แอฟริกา และอินเดีย แทนในขณะนี้ โดยนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทในครึ่งปีหลังของปีนี้ เราต้องการสร้างโครงข่ายของ product lover ให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นหลังจากได้ทำไปสักระยะหนึ่งแล้ว ได้ผลตอบรับที่ดีมาก เนื่องจากเราอยากให้คนรู้สึกรักในผลิตภัณฑ์ของเจอเนสส์มากกว่ามองด้านรายได้ และเราพยายามสร้างกลไกของคนที่จะใช้ซ้ำอยู่เรื่อยๆ เพราะเราเชื่อว่าวิธีนี้จะทำให้เจอเนสส์เติบโตอย่างยั่งยืน ตอนนี้เราจึงมีทีมสตาฟด้านที่ปรึกษาทางการแพทย์ที่จะเข้าไปช่วยโปรโมต และให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตามจังหวัดต่างๆ มากขึ้น
“ ตอนนี้กลุ่มผู้ใช้เพิ่มขึ้นจากกลยุทธ์ดังกล่าว โดยสังเกตจากการโพสต์หรือแชร์เฟสบุคด้วยส่วนหนึ่ง อย่างเช่น วิดาเซล ที่ได้รับสิทธบัตรจากประเทศฝรั่งเศส เกี่ยวกับการใช้จมูกข้าวในการทำอาหารเสริม ก็มีการแชร์กันในวงกว้าง และน่าจะส่งผลตอบรับที่ดีกลับมาให้เรา”
นอกจากนี้ เราพยายามทำให้ทุกคนเป็น product lover จึงจัดงาน empower ขึ้น เพื่อดึงศักยภาพในตัวของแต่ละคนออกมาได้อย่างสูงสุด เนื่องจากเราเติบโตแบบก้าวกระโดด จึงอาจเกิดปัญหาของการละเลยการให้ความรู้อย่างถูกต้องให้แก่สมาชิกไป หรืออาจดูแลไม่ทั่วถึง แต่ตอนนี้เราบังคับให้ทุกคนเข้ามาเรียนรู้การทำธุรกิจอย่างถูกต้อง ทั้งในเรื่องการขาย ผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะฐานของธุรกิจที่ต้องแข็งแรง และสามารถพัฒนาตัวเองไปได้
“ Empower เป็นการเรียนรู้เพื่อวางแผนการพัฒนาตัวเองไปสู่การทำธุรกิจ และหนึ่งในนั้นที่เราเตรียมไว้ให้กับตัวแทนทุกคนคือ J-Mobile ที่เป็นแอปพลิเคชันหลักของสมาชิกเจอเนสส์ทุกคน ที่จะมีข้อมูลและรายละเอียดสินค้า ช่วยให้การทำงานของเราง่ายขึ้น แต่ Empower จะช่วยในการเทรนนิ่งสมาชิก ในอนาคตเราจะพัฒนาระบบ AI ที่ไม่ใช่แค่ระบบอินเตอร์เน็ตทั่วไป แต่จะมีทุกอย่างที่เอื้อต่อการทำงานของเจอเนสส์ ทั้งโปรโมชั่น ข้อมูลสินค้า ตารางกิจกรรม ตารางเทรนนิ่ง และอื่นๆ ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาคาดว่าน่าจะเสร็จช่วงเดือนหน้า ซึ่งจะส่งผลดีต่อการทำงาน และสามารถวัดผล KPI รายบุคคลได้ด้วย ซึ่งเราวางแผนให้มีการจัดงาน empower ประมาณ 3 เดือน/ครั้ง ”
ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเรามีผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มหลักๆ ที่จำหน่ายในประเทศไทย คือ Skincare มีสัดส่วนยอดขาย50% อาหารเสริม ที่มี 3 กลุ่มย่อย คือ ให้พลังงาน, เสริมสร้างการทำงานของร่างกาย และชะลอวัย สัดส่วนอยู่ที่ 30% และกลุ่มบอดี้แคร์ ประมาณ 20% โดยผลิตภัณฑ์เด่นๆ ที่ขายดีที่สุดของเจอเนสส์ ไทย ในตอนนี้ ได้แก่ fibrotic ที่ผลิตในประเทศไทย,A4, รีเสิร์ฟ และเซรั่มที่เป็นตัวนำของเรามาตลอด และในครึ่งปีหลังเราจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ คือ Zen shape (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อการควบคุมน้ำหนัก)จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนกันยายนนี้ ในงาน expo ที่เราจะจัดขึ้น พร้อมกับเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม haircare และ ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มชะลอวัย เราพยายามจดทะเบียน อย. มากว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งน่าจะสำเร็จและวางจำหน่ายได้ในปีนี้
นอกจากนี้ ปีนี้เราจะจัดกิจกรรม Rewards ท่องเที่ยงให้แก่สมาชิก ซึ่งมองว่าจะส่งผลให้ยอดขายเรากระเตื้องขึ้น โดยเป็นโปรโมชั่นพิเศษที่เราซัพพอร์ตให้ทุกอย่างแบบเบ็ดเสร็จโดยปีนี้พาสมาชิกไปเที่ยวตุรกีช่วงสิ้นปี อีกทั้ง เรายังเป็นบริษัทที่จ่ายโบนัสโปรโมชั่นสูงที่สุดน่าจะสูงที่สุดในกลุ่มบริษัทเครือข่ายแล้ว เพื่อพยายามกระตุ้นให้คนใช้ผลิตภัณฑ์ของเรามากขึ้น ผ่านการจัดโปรโมชั่นต่างๆ ที่มีตลอดทั้งปี และปรับเปลี่ยนทุกเดือน ส่งผลให้ปีนี้เจอเนสส์ในประเทศไทยตั้งเป้าว่าน่ามีอัตราการเติบโตของรายได้ราว 10% จากปีก่อน
สำหรับภาพรวมธุรกิจขายตรงในไทยปีนี้ เราเห็นว่าจากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ยังอยู่ในระดับกลาง ๆ คือไม่ได้ดีขึ้นหรือแย่ลงอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น สำหรับธุรกิจขายตรงก็น่าจะเป็นช่องทางโอกาสในการทำเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งให้สำหรับคนไทย ซึ่งดูได้จากเจอเนสในไทยเป็นตลาดที่เติบโตอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ที่ปัจจุบันมีสมาชิก 2 แสนกว่าราย เพิ่มขึ้นประมาณ 20% ต่อปี ส่งผลให้ยอดรายได้รวม 9 ปีของเจอเนสส์ในตลาดภูมิภาคนี้มียอดขายสะสม 5 พันล้านUSD และเรามั่นใจว่าประเทศไทยจะเป็นส่วนสำคัญในการพาเจอเนสส์ทำรายได้เฉพาะปีนี้ 2018 ได้ตามเป้าที่วางไว้ที่ 2000 ล้าน พันล้าน USD จากยอดขายทั่วโลกปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 1.4 พันล้าน USD
ทั้งนี้ สำหรับยอดขายรวมทั่วโลกที่เติบโตขึ้นนั้นเนื่องมาจากขยายตลาดใหม่ๆ และการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดยุโรป บราซิล ซึ่งโตกว่าตลาดเอเชีย แต่ จีน ยังเป็นอันดับ 1 ของภาคพื้นเอเชียทั้งหมด และตอนนี้เรากำลังรุกตลาดอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดใหญ่มาก น่าจะเติบโตได้พอๆ กับจีน เพราะมีจำนวนประชากรหนาแน่น และคนอินเดียเข้าใจในการทำธุรกิจเครือข่ายอยู่แล้ว สำหรับตลาด เวียดนาม เป็นการทำตลาดในระบบ e-commerce แต่กลับมีการเติบโตสูงมากแม้ว่าเราไม่ได้มีการตั้งสำนักงานอย่างเป็นทางการ ปัจจุบันมีผู้นำระดับสูงแล้ว และ ในบางเดือนมียอดขายสูง และเวียดนามเป็นประเทศที่ได้โบนัสโปรโมชั่นสูงที่สุดของโลก รองลงมาคือไทย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของนักธุรกิจเจอเนสส์ที่เข้าไปทำธุรกิจ ในอนาคตคาดว่าน่าจะมีการเปิดสำนักงานแต่ต้องศึกษากฎและข้อบังคับของเวียดนามให้ดีก่อน และสุดท้ายในตลาดกัมพูชา มีศักยภาพสูงมาก ในอนาคตตลาดกัมพูชาอาจโตแซงหน้าไทยด้วยซ้ำ ซึ่งตอนนี้เจอเนสส์กำลังจะย้ายไปออฟฟิสใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม อยู่ในกรุงพนมเปญ เพราะมีสมาชิกเยอะขึ้นและเติบโตขึ้น
