เชื่อว่ากระแส “มะม่วง น้ำปลาหวาน” ตอนนี้คงเป็นเมนูที่มาแรงแซงโค้งมากในชั่วโมงนี้ จากความฮอตฮิตของละครบุพเพสันนิวาสที่เรทติ้งพุ่งกระฉูด โดยเฉพาะในฉากที่แม่การะเกดทำมะม่วง น้ำปลาหวานแซ่บรับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อย ส่งผลให้ตอนนี้มะม่วงคงขายดีเป็นเทน้ำเทท่ากันเลยทีเดียว  พ่อแม่ค้า โดยเฉพาะชาวสวนที่ปลูกมะม่วงคงยิ้มกันแก้มปริกันก็คราวนี้

สำหรับ “มะม่วง” เป็นพืชที่ปลูกเพื่อรับประทานผลที่กินได้ทั้งดิบและสุก อีกทั้ง ยังสามารถปลูกได้ดีในพื้นที่ทุกจังหวัด และทุกภาคของประเทศ แต่จะให้ผลแตกต่างกันไปตามสภาพของพื้นที่นั้น ๆ  อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้มะม่วงหลายพันธุ์ยังเป็นผลไม้ที่ตลาดต่างประเทศต้องการอีกด้วย  ซึ่งสำหรับชาวสวนเองทีต้องการปลูกมะม่วงเพื่อการค้าจำเป็นต้องศึกษาการปลูกในการเลือกพื้นที่ให้เหมาะสม  ปุ๋ยที่จะเลือกมาใช้เพาะปลูก เพื่อช่วยประหยัดต้นทุน ตลอดจนสามารถผลิตผลมะม่วงที่มีคุณภาพสามารถนำไปจำหน่ายสู่ตลาดได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ได้ในราคาที่ดี 

ดังนั้น ทางทีมงานสยามธุรกิจจึงได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับชาวสวนมะม่วง ที่มีความเชี่ยวชาญในการปลูกมะม่วงมานานถึง 20 ปี  เพื่อไปล่วงลับเทคนิคเคล็ดลับดีดีในการปลูกมะม่วงให้ได้ผลผลิตที่ดี ส่งขายได้กำไรงาม ๆ  ถึงจังหวัดอ่างทองกันเลย 

นายธวัชชัย มีฤกษ์ เจ้าของสวนมะม่วง ต.สาวร้องไห้ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง  เล่าให้ฟังว่า มะม่วงเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินเกือบทุกสภาพ แต่หากจะปลูกมะม่วงในเชิงพาณิชย์และเพื่อการส่งออกจะต้องเลือกพื้นที่ที่ค่อนข้างดอน น้ำไม่ท่วมขัง กรณีพื้นที่เป็นที่ลุ่มจะต้องยกร่องเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเพราะนิสัยของมะม่วงแม้จะทนต่อสภาพน้ำท่วมขังแต่หากน้ำท่วมนาน ๆ จะมีผลต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพของผลผลิต อีกประการที่สำคัญคือแปลงมะม่วงที่มีน้ำท่วมขังมักเกิดปัญหาโรคเข้าทำลายได้ง่ายกว่าแปลงปลูกที่มีการระบายน้ำดี

สำหรับศัตรูพืชที่สำคัญของมะม่วง คือ แมลง เช่น แมลงวันสีทอง ที่คอยทำลายดอกและช่อมะม่วง ส่วนหนอนจะคอยกินช่อมะม่วง รวมทั้งยังมีเพลี้ยไฟและเชื้อราด้วย ซึ่งศัตรูพืชนี้จะส่งผลกระทบต่อชาวเกษตรสวนมะม่วงมาก ดังนั้น จึงต้องหาวิธีกำจัด แต่ก็ต้องใช้สารเคมีซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพร่างกายเรา และคนบริโภค

“ด้วยประสบการณ์ที่ปลูกสวนมะม่วงมานานกว่า 20 ปี และมีพื้นที่ปลูก จำนวน 15 ไร่ จะได้ผลผลิตที่ดีแต่ลูกเล็กส่วนใหญ่จะเป็นเบอร์สอง ส่วนเบอร์หนึ่งจะน้อยมาก และมีแปลงใหม่อีก 2 แปลง จำนวน 8 ไร่ ซึ่งปลูกมาได้ 3 ปีแล้ว โดยจะใช้ผลิตภัณฑ์ของสยามธุรกิจทั้งหมด 100% เพราะเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายคนสวนและผู้บริโภค และเมื่อใช้แล้วเห็นผลดีต่อสวนมะม่วงเป็นอย่างมาก ศัตรูพืชลดลงแทบจะหายไปเลย ที่สำคัญผลผลิตออกมาดีมาก ช่อออกมาสวย ลูกโตเสมอกัน และเก็บผลผลิตไปแล้วชุดแรกได้ลูกเบอร์หนึ่งถึง 6 ลัง จากทั้งหมด 10 ลัง และมีกำไรแล้วตั้งแต่ชุดแรก เพราะลงทุนเรื่องปุ๋ยอินทรีย์สยามธุรกิจไปเพียง 2,000 บาทเท่านั้น จากอดีตที่เคยใช้ปุ๋ยเคมีจะมีต้นทุนมากถึงหนึ่งหมื่นบาททีเดียว”

สำหรับการเปิดใจมาใช้ผลิตภัณฑ์ของสยามธุรกิจนั้น เนื่องมาจากมีผู้อำนวยการ “จิรพันธ์ แก้วเชียว” เข้ามาหาที่บ้านและได้ทำการแนะนำผลิตภัณฑ์อินทรีย์ของสยามธุรกิจ จึงลองเปิดใจเข้าร่วมโครงการสยามธุรกิจ และเข้าไปฟังการบรรยายจากศูนย์ข่าวสยามธุรกิจ จึงเริ่มใช้มาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และเมื่อใช้แล้วได้ผลผลิตที่ตอบโจทย์ตามที่ฟังมาจริงๆ และมีความจริงใจที่จะให้คำแนะนำทุกอย่างจนส่งผลให้ศัตรูพืชหายไป ที่สำคัญลูกมะม่วงโตเสมอกันจนได้เบอร์หนึ่งมากขึ้นกว่าอดีตที่เคยทำมา และเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ให้กับสวนด้วยเพราะได้ผลผลิตที่ดีขึ้นหลายเท่า

“หลังจากเก็บชุดแรกไปแล้ว มีเพื่อนบ้านเข้ามาดูที่สวนและให้การยอมรับว่า มะม่วงที่สวนเราลูกใหญ่โตมาก และใหญ่โตกว่าสวนเพื่อนบ้านมาก และคนที่เข้ามาดูก็ต่างเปลี่ยนใจมาทดลองใช้ปุ๋ยอินทรีย์สยามธุรกิจตามเรา และในปีนี้คาดว่าสวนเราจะสามารถสร้างรายได้มากถึง 600,000 บาท สำหรับคนที่สนใจจะเข้ามาดูงานและศึกษางานสวนมะม่วงสามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ 08-9518-5309 ทางเราจะให้คำแนะนำทุกอย่างเพื่อให้ชาวเกษตรกรมีความยั่งยืนในอาชีพ”