อินทผลัม หรือที่หลายคนเรียก "อินทผาลัม" ซี่งมีลักษณะเป็นผลรี ๆ เล็ก ๆ แห้ง ๆ สีน้ำตาลเข้ม จัดเป็นพืชตระกูลปาล์มชนิดหนึ่ง มีหลากหลายสายพันธุ์ เป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดีในเขตที่มีอากาศร้อนและแห้งแล้งอย่างทะเลทราย โดยอินทผาลัมมีถิ่นกำเนิดในแถบตะวันออกกลาง ประเทศที่ผลิตอินทผาลัมรายใหญ่ได้แก่ อียิปต์ ซาอุดิอาระเบีย อิหร่าน อาหรับ แอลจีเรีย
ปัจจุบันการปลูก "อินทผาลัม" กำลังเป็นพืชเกษตรที่มาแรงน่าสนใจในการปลูกในประเทศไทยบ้านเรา เนื่องจากถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่คนทั่วโลกต้องการบริโภคโดยเฉพาะในประเทศไทย มีความต้องการไม่น้อยกว่าประเทศอื่น แต่ยังมีปัญหาเรื่องสายพันธุ์และวิธี เพาะพันธุ์ปลูกที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ
ดังนั้น ทางทีมงานสยามธุรกิจจึงได้ลงพื้นที่ ไปเยี่ยมชมพูดคุยกับเจ้าของสวนคนไทยที่ปลูกอินทผาลัม กันถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือกันเลย ซึ่งถือเป็นแถบจังหวัดที่เริ่มนิยมหันมาปลูกเจ้าอินทผาลัมกันเพิ่มมากขึ้น
โดย เราได้ไปพูดคุยกับ “คุณจิราภรณ์ แสงจันทร์” เจ้าของสวนอินทผลัม จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเธอเล่าว่า จากจุดเริ่มต้นการทำเกษตรนั้น ได้ทำการปลูกสวนอ้อย ซึ่งก็ได้ผลผลิตที่ดี แต่การปลูกอ้อยนั้น ต้องยอมรับว่า ส่งผลทำให้ดินเสื่อมโทรม จึงต้องมีการศึกษาและเรียนรู้ในเรื่องการดูแลรักษาดิน
“การปลูกพืชเชิงเดี่ยว เราก็จะได้พืชเพียงชนิดเดียวไว้ขาย เราจึงมีแนวคิดที่จะหาพืชชนิดอื่นมาปลูกในไร่ด้วย ดังนั้น จึงได้วางพื้นที่ไว้จำนวน 24 ไร่ เพื่อทำการปลูกต้นอินทผลัม จำนวน 500 กว่าต้น ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา แต่อายุของอินทผลันนั้น ต้องมีอายุประมาณ 4-6 ปี ถึงจะเก็บผลผลิตได้ ดังนั้น จึงต้องใช้เวลาในการปลูกนิดหน่อย”
อย่างไรก็ดี การปลูกอินทผลัมนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะพื้นดินที่ใช้ในการปลูกอินทผลัมเสื่อมโทรมมาก เนื่องจากได้ทำการปลูกอ้อยมาเป็นเวลานาน ตรงนี้ใครๆ ก็มองว่า ที่ดินผืนนี้ไม่น่าจะปลูกอะไรได้ ตนจึงเริ่มปรับปรุงพื้นดินด้วยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เข้ามาช่วย ซึ่งก็ได้ผลและสามารถปลูกอินทผลัมได้ผลดีด้วย
จิราภรณ์ กล่าวอีกว่า การที่จะปลูกอินทผลัมให้ได้ผลดีนั้น ก็ต้องมีปุ๋ยที่ดีด้วย แต่ปุ๋ยดีส่วนใหญ่จะเป็นปุ๋ยเคมี ซึ่งไม่ตอบโจทย์เรา เพราะสิ่งที่เราต้องการคือการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและผู้บริโภค ดังนั้น จึงได้มองหาปุ๋ยอินทรีย์ที่เป็นที่ยอมรับของตลาด ซึ่งก็ได้มาเจอปุ๋ยอินทรีย์สูตรของสยามธุรกิจ จึงได้ทดลองเปิดใจใช้ใช้ช่วงแรกเพียงแค่ครึ่งเดียว แต่ผลที่ตามมาคือผลผลิตที่ได้ดีเกินคาดหมาย เพราะส่งผลให้ลูกอินทผลัมดกมากอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญไม่มีศัตรูพืชเข้ามารบกวนด้วย
“ถือว่าโชคดีมากที่ได้ทดลองเปิดใจใช้ปุ๋ยอินทรีย์สูตรสยามธุรกิจ เพราะส่งผลให้พื้นดินปรับสภาพให้ดีขึ้น จากที่ใครๆ ก็คิดว่าที่ดินผืนนี้ไม่น่าจะปลูกอะไรได้อีกแล้ว ที่สำคัญที่สุดคือผลผลิตที่ออกมาดีมากๆ ลูกอินทผลัมออกมาดกมากยิ่งขึ้น รวมๆ แล้ว 1 ต้นมีลูกไม่ต่ำกว่า 300 กิโลกรัม โดยมีราคาขายอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 500 บาท รวมรายได้ต่อต้นก็จะมีมากขึ้น”
สำหรับรายได้ของปี 2561 นี้ ได้ตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 15 ล้านบาท เนื่องด้วยอายุของอินทผลัมยังไม่โตเต็มที่ และมีอายุยังไม่ถึง 3 ปีเต็ม จึงยังออกลูกยังไม่ครบทั้ง 500 ต้น จึงคาดว่าน่าจะมีรายได้ประมาณต้นละ 10,000-20,000 บาท รวมทั้งปีก็จะตกที่ประมาณ 15 ล้านบาท ตามที่ตั้งเป้าไว้
“ช่วงแรกยังออกลูกไม่ครบทั้ง 500 ต้น เพราะยังมีอายุที่น้อยอยู่ แต่ถึงแม้ว่าจะมีอายุที่น้อยแต่ก็ออกลูกได้ดกขนาดนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเกิดคาดมากๆ เพราะต่อต้นนั้น จะออกลูกต้นละประมาณ 7-8 พ่วง ขายได้พวงละประมาณ 5,000 บาท ก็จะสร้างรายได้ให้ครอบครัวได้เป็นอย่างดี”
และจากการที่สวนเราเป็นสวนอินทรีย์ จึงมีบริษัทเข้ามารับซื้อที่สวนแล้ว โดยปี 2561 นี้ยังสามารถขายหน้าสวนได้ แต่ถ้าผ่านไปปี 2562 แล้วจะไม่สามารถขายหน้าสวนได้ เพราะทางบริษัทจะรับซื้อทั้งหมด เพื่อนำไปแปรรูปและส่งขายตามห้างต่าง ๆ เพราะอินทผลัมถือเป็นพืชเกษตรอีกอย่างของประเทศไทยเลยทีเดียว
“การปลูกอินทผลัมทั้ง 24 ไร่ ใช้ปุ๋ยอินทรีย์สูตรสยามธุรกิจเพียงแค่ไม่กี่ตัน ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้ และสร้างเงินล้านให้เกษตรกรไทยได้จริง จึงมั่นใจปุ๋ยอินทรีย์สูตรสยามธุรกิจเต็ม 100% และได้นำมาใช้เต็มระบบแล้วใน และไม่คิดจะเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นแน่นอน อย่างไรก็ดี ถ้าหากใครอยากปรึกษา สามารถให้คำปรึกษาได้ทุกเมื่อ และสามารถเดินทางมาชมสวนได้ที่บ้านเลขที่ 250 หมู่ 11 บ้านแสงเดือน ตำบลคำใหญ่ อำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ ยิดดีแนะนำให้ทุกอย่างเลย”
