นายวิทวัส ตันติเวสส รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ด้านการตลาด บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ขณะนี้ภาพรวมตลาดไส้กรอกปีนี้คาดว่ามีมูลค่า 30,000 ล้านบาท เติบโต 1-2% จากอัตราการบริโภคของคนไทยเฉลี่ยที่คนละ 5 กก. ต่อปี ซึ่งยังมีโอกาสในการเติบโตได้อีก เพราะถือว่ายังน้อยหากเทียบการบริโภคของคนในยุโรป อย่างอเมริกา เยอรมนี ที่มีการบริโภคคนละ 20 กก.ต่อปี และจากผลสำรวจค่าใช้จ่ายของคนไทยในการดำรงชีวิตของยูโรมอนิเตอร์พบว่า ปีนี้มีการใช้จ่ายรวม 9.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 8.0 ล้านล้านบาทในปี60 โดยแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายด้านอาหารมากถึง 21.2% หรือประมาณ 1.8 ล้านล้านบาท เติบโต 4.6% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดอาหารและการบริโภคของคนไทยไม่ได้ลดลง ดังนั้นไส้กรอกจึงเป็นอาหารสแน็กประเภทหนึ่งที่โตตามไปด้วยเพราะหาซื้อง่ายและทานง่าย

ปัจจุบัน ไส้กรอกซีพีมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ไส้กรอกอย่างหลากหลาย อาทิ กลุ่มซีพีแฟรงค์, กลุ่มซีพีโบโลน่า, กลุ่มซีพีมินิคอกเทล โดยทีมวิจัยและพัฒนาอาหารจะศึกษาเทรนด์อาหารใหม่ๆ จากทั่วโลก เพื่อที่จะสร้างความแปลกใหม่ อันเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการรักษาฐานกลุ่มลูกค้าในปัจจุบัน และดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมโปรโมชั่นต่างๆอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการคัดเลือกพรีเซ็นเตอร์ที่โดนใจกลุ่มผู้บริโภค

ดังนั้น บริษัทจึงได้เลือก “แบมแบม GOT7” ศิลปินไทยที่โด่งดังในเกาหลี มาพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุด เนื่องจากจัดเป็นศิลปินคนไทยรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างชื่อเสียงโด่งดังในต่างประเทศ และมีคาแร็กเตอร์ที่สอดคล้องกับไส้กรอก ซีพี ดังกล่าว ตลอดจนตอกย้ำได้ว่า คนไทยมีความสามารถก้าวสู่ระดับโลก ส่งผลให้ช่วงที่ผ่านมาหลังจากใช้ แบมแบม เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับไส้กรอกแบรนด์ซีพีแฟรงค์ ทำให้เรามียอดขายเติบโตไปแล้ว 5% ซึ่งล่าสุดนี้ บริษัทจึงได้จัดแคมเปญ ไส้กรอกยังไงก็ต้องซีพี โดยจัดมีตติ้งให้กับแฟนคลับแบมแบมไปพร้อมๆ กันเพื่อกระตุ้นยอดขายต่อเนื่อง ดังเป้าหมายสิ้นปี61นี้ ยอดขายซีพีแฟรงค์เติบโตได้ถึง 10% และช่วยผลักดันให้บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมเพิ่มขึ้นอีก 2% หรือจากเดิม 19% เพิ่มเป็น 21%

“กิจกรรมดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การตลาดปีนี้ที่ใช้เงินลงทุนในกลุ่มไส้กรอกทั้งหมด 120 ล้านบาท ออกสินค้านวัตกรรมใหม่ เพิ่มความหลากหลายของสินค้าทั้งรูปแบบและรสชาติเพื่อกระตุ้นให้เกิดการทดลองซื้อต่อเนื่อง พร้อมมีโปรโมชั่น กิจกรรมส่งเสริมการขาย เน้นความปลอดภัยของอาหารที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ และรวมไปถึงการใช้พรีเซ็นเตอร์ทำให้ขยายสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ อย่างกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน”