นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีผู้ช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดทำร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน โดยน้อมนำศาสตร์พระราชาขับเคลื่อนกิจกรรมไปสู่เกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่ง ร่าง พ.ร.บ. ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน ผ่านการระดมความคิดเห็น และรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
มั่นใจนี่คือคำตอบสุดท้ายของการขับเคลื่อนภาคการเกษตรกรรมอย่างเป็นระบบที่สุดและยั่งยืนที่สุด แนวคิดและวิถีการทำเกษตรในระบบเกษตรกรรมยั่งยืนของประเทศไทยได้เกิดขึ้นเป็นเวลานานแล้ว ในรูปแบบต่างๆ ที่สอดคล้องและเป็นไปตามความเหมาะสมของแต่ภูมินิเวศของประเทศไทยรูปธรรมของการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในประเทศ ไทยเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นหลังจากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ระหว่างปี พ.ศ. 2526–2527 ซึ่งขณะนั้นเกษตรกรต้องประสบปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ ต้นทุนการผลิตสูง และขาดทุนจากการทำเกษตรเชิงเดี่ยว เกษตรกรบางกลุ่มเริ่มตระหนักและรวมตัวกันเพื่อหาทางออกจึงพัฒนารูปแบบการเกษตรสู่ระบบเกษตรกรรมยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง
ตลอดระยะเวลา 20 ปี ที่ผ่านมา หลายภาคส่วนมีความพยายามผลักดันให้เกิดกฎหมายที่กำกับดูแลการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนเป็นการเฉพาะ แต่ด้วยนโยบายการพัฒนาประเทศของรัฐบาลที่ผ่านมา ยังมุ่งเน้นการเกษตรเชิงพาณิชย์อยู่มาก ทำให้การผลักดันกฎหมายเกษตรกรรมยั่งยืนยังไม่เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม
แต่รัฐบาลชุดปัจจุบันเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน ที่จะเป็นหัวใจสำคัญในการแก้ไขปัญหาภาคการเกษตร ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่สะสมมาเป็นระยะเวลานาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และภาคีเครือข่ายจึงได้เร่งผลักดันให้เกิด พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน เพื่อเป็นกลไกและเครื่องมือในการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนที่ชัดเจน ทั้งการกำหนดนโยบาย กำกับดูแล รวมถึงการประสานและบูรณาการภารกิจระหว่างหน่วยงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ทั้งนี้ รัฐมนตรีผู้ช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เน้นย้ำว่า เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ โดยที่แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ มาตรา 73 มาตรา 75 ประกอบกับ มาตรา 65 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ยุทธศาสตร์ชาติและ แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติฉบับที่ 12 (2560-2564) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ขององค์การสหประชาชาติ หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) ที่ประเทศไทยมีข้อผูกพันประกอบกับระบบเกษตรกรรมยั่งยืนตามแนวของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นวิถีเกษตรกรรมที่เอื้ออำนวยต่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และดำรงรักษาไว้ซึ่งความสมดุลของระบบนิเวศและสภาพแวดล้อม ตลอดจนสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ให้กับเกษตรกรและสังคมไทย การพัฒนาและส่งเสริมระบบเกษตรกรรมยั่งยืนจำเป็นต้องอาศัยการทำงานในเชิงระบบเป็นองค์รวมและต่อเนื่อง
ตลอดจนต้องกำหนดนโยบายและแผนการพัฒนามาจากการมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างแท้จริงและเพื่อให้เกิดระบบ และกลไกที่มีประสิทธิภาพในการประสานการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานในทุกระดับ และทุกภาคส่วน ดังนั้นเพื่อให้มีกลไกที่เอื้อต่อการพัฒนาและส่งเสริมระบบเกษตรกรรมยั่งยืนและเพื่อแปลงนโยบายด้านเกษตรกรรมยั่งยืนไปสู่การปฏิบัติที่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และนิเวศของแต่ละชุมชนจึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน ซึ่งผมเชื่อว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ทำให้สามารถนำไปแก้ไขปัญหาการพัฒนาการเกษตรต่างๆ ได้อย่างยั่งยืนและแท้จริง