นางสาววัชรีภรณ์ พันธุ์ภูมิพฤกษ์ หมอพืช และผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืนธุรกิจ ประเทศไทย บริษัท ซินเจนทา ครอป โปรเทคชั่น จำกัด หรือ ซินเจนทา กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา ซินเจนทา ยึดหลักดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ด้วยจิตสำนึกรับผิดชอบ ตอบสนองความต้องการของเกษตรกร พัฒนาอย่างต่อ เนื่อง เพื่อให้เกิดความสมดุลกันระหว่างสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของเกษตรกรไทย โดยซินเจนทา ได้มอบหมายให้ หมอพืช เป็นผู้ที่คอยวิเคราะห์ ตรวจสอบ ให้ความรู้ ให้คำปรึกษา ช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถดูแล ป้องกัน และรักษาผลผลิต สร้างผลกำไร ลดผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
สำหรับ หมอพืช ซินเจนทา ถือกำเนิดขึ้นนานกว่า 30 ปีแล้ว ดำเนินงานใน 3 ด้าน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ได้แก่ 1. ด้านการเพาะปลูก อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการเพาะปลูก การสังเกตศัตรูพืช การเลือกใช้ปัจจัยการเกษตร ตามตารางการปฏิบัติทางเกษตรที่ดี หรือ GAP รวมถึงการดูแลสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อม 2.ด้านการเก็บเกี่ยว ให้คำแนะนำและปรึกษาเกษตรกรในเว้นระยะการเก็บเกี่ยวหลังจากการฉีดพ่นปัจจัยการเกษตรครั้งสุดท้าย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าไม่มีการปนเปื้อนและจัดการซากบรรจุภัณฑ์ที่ใช้หมดแล้วอย่างเหมาะสม 3.ด้านจัดจำหน่ายผลิตผลทางการเกษตร อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการรักษาผลผลิตหลังเก็บเกี่ยว เพื่อรักษาคุณภาพ ตลอดจนส่งเสริมให้จดบันทึกค่าใช้จ่ายและเรียนรู้ระบบการตลาด
โดยหนึ่งในแผนการดำเนินงานสำคัญ ภายใน 3 ปี พ.ศ.2561-2563 (ค.ศ.2018-2020) หมอพืช ซินเจนทา ได้กำหนดแผนอบรมผู้มีอาชีพรับจ้างฉีดพ่นสารเคมีทางการเกษตร ปัจจุบันมีประมาณ 100,000 ราย ให้มีความรู้และเข้าใจถึงความเสี่ยงและหยุดการฉีดพ่นที่ไม่ถูกต้อง การสลับกลุ่มสารเคมีให้เหมาะสมกับการเพาะปลูกแต่ละช่วง รวมถึงการจัดเก็บสารเคมี และทำลายซากบรรจุภัณฑ์ที่ใช้หมดแล้ว เมื่อเสร็จสิ้นโครงการ คาดว่า พื้นที่เกษตรกรรมไทยอย่างน้อย 50 ล้านไร่ หรือร้อยละ 33 จากพื้นที่เกษตรกรรมทั้งหมด 149 ล้านไร่
ทั้งนี้ จะเป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมต่อการเพาะปลูก ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ เกษตรกรมีสุขอนามัย ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ซินเจนทา มีแผนจัดทำศูนย์ข้อมูลผลิตภัณฑ์ และหมอพืชออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ www.syngenta.co.th เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลด้านพิษวิทยา สิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยได้อย่างถูกต้อง
