นายเชิดชัย พรหมแก้ว รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานปล่อยคาราวานเงาะโรงเรียนนาสาร ซึ่งเป็นเงาะจากพื้นทีเกษตรแปลงใหญ่ จำนวน 10 คันปริมาณ 28.3 ตัน เพื่อส่งไปยังจังหวัดต่าง ๆ ในภาคอีสาน และภาคเหนือ จำนวน 7 สหกรณ์ ได้แก่
ซึ่งเป็นการดำเนินโครงการกระจายผลไม้ผ่านขบวนการสหกรณ์ ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นการกระจายผลผลิตเงาะออกสู่ตลาดปลายทาง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรจากปัญหาราคาเงาะตกต่ำ โดยเฉพาะในช่วงเดือน ก.ค. - ก.ย. นี้ เนื่องจากผลผลิตออกพร้อมกันจำนวนมาก ซึ่งสหกรณ์การเกษตรเมืองสุราษฎร์ธานี จำกัด เป็นผู้รวบ รวมเงาะคุณภาพจากสหกรณ์ฯ และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพัฒนาไม้ผลเพิ่มพูลทรัพย์ ตำบลลาพูน อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อนำมาจัดส่งกระจายไปยังผู้บริโภคทั่วประเทศ
ด้าน นายธวัชชัย เทพเลื่อน ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเมืองสุราษฎร์ธานี จำกัด กล่าวว่า สหกรณ์ได้ปล่อยเงาะโรงเรียนออกสู่ตลาดและส่งจำหน่ายให้เครือข่ายสหกรณ์จังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศแล้วจำนวน 28.3 ตัน และยังได้รวบรวมเงาะคุณภาพส่งไปยังกทม.และปริมณฑล โดยส่งผ่านชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ซึ่งเงาะจะไปถึง กทม. เพื่อกระจายไปยังลูกค้าระดับกลางและระดับพรีเมี่ยม เพราะเงาะโรงเรียนเป็นผลผลิตขึ้นชื่อของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเชื่อว่าตลาดยังมีความต้องการบริโภคจำนวนมาก และชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยจำกัด จะช่วยกระจายสู่ตลาดภายในกทม. ได้ทุกวันๆ ละ 3 ตัน
สำหรับสถานการณ์ราคาเงาะโรงเรียนตอนนี้ขยับขึ้นอยู่ที่ 20 บาทต่อกิโลกรัม หลังจากที่ก่อนหน้านั้นราคาเงาะตกต่ำ แต่เมื่อมีการประสานเครือข่ายสหกรณ์ในจังหวัดต่างๆ ทำให้ปริมาณผลผลิตได้ระบายออกนอกพื้นที่ ไม่เกิดการกระจุกตัว ทำให้ราคาเงาะขยับสูงขึ้น ล่าสุดมีคำสั่งซื้อจากประเทศสิงคโปร์ จำนวน 6 ตันต่อวัน และยังมีพ่อค้าอีกหลายจังหวัดได้สั่งซื้อมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สหกรณ์เพิ่งจะรวบรวมผลผลิตเงาะเป็นปีแรก และเพิ่งจะเริ่มกระจายผลผลิตไปยังศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ทั้งหมด 125 ศูนย์ทั่วทุกภูมิภาค ตามนโยบายของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ที่ต้องการให้ทุกศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ได้ทำหน้าที่กระจายผลไม้ไปยังผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งในปีนี้ผลไม้เกือบทุกชนิดมีปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น ทั้งมังคุด เงาะ ลำไย
โดยสหกรณ์การเกษตรเมืองสุราษฎร์ธานี จำกัด ในฐานะศูนย์กระจายผลผลิตการเกษตรได้ส่งเงาะนาสารไปยังศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ในแต่ละภาค ได้รับซื้อเงาะคุณภาพจากสวนของเกษตรกรในราคา 21 บาท แต่สมาชิกอยากได้ 23 บาท สหกรณ์ก็จะรับซื้อในราคาที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้สมาชิกอยู่ได้ และขายผ่านเครือข่ายสหกรณ์ต่างๆ 28 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งรวมต้นทุนและค่าขนส่งแล้ว ซึ่งเป็นราคาที่สหกรณ์ไม่ได้กำไรมาก เป็นเพียงการเอาเครือข่ายสหกรณ์มาช่วยกระจายผลผลิตที่มีคุณภาพไปสู่มือผู้บริโภคโดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง และสหกรณ์จะต้องเร่งระบายเงาะออกสู่ตลาดให้ทันวันที่ 12 สค.นี้ ไม่เช่นนั้นอาจจะมีปัญหาเพราะจะเป็นช่วงพีค ซึ่งจะทำให้มีผลผลิตเงาะกระจุกตัวส่งผลต่อราคาที่อาจจะตกต่ำได้ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน และประสบภาวะขาดทุนจากการผลิต จึงต้องประสานความร่วมมือกับเครือข่ายสหกรณ์ต่างๆมาช่วยกันระบายผลผลิตเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร
“การสั่งเงาะจากสหกรณ์ต้องสั่งล้วงหน้า 1 วัน เพื่อที่ได้จะกระจายตะกร้าให้เกษตรกรไปเก็บเงาะและจะจดรายชื่อไว้ให้ลูกค้าปลายสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าเงาะตะกร้านั้นเป็นของเกษตรกรรายใด หากลูกค้าไม่พอใจ และจะได้รู้ว่าเงาะมาจากสวนใด สหกรณ์ก็จะไปแนะนำให้ไปปรับปรุงใหม่ และปีนี้คณะกรรมการสหกรณ์ได้ประชุมร่วมกันและลงความเห็นว่าควรจะหาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อสหกรณ์จะได้กระจายผลผลิตเองโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง เพราะมีเครือข่ายสหกรณ์ในจังหวัดต่าง ๆ จำนวนมากที่พร้อมจะให้ความร่วมมือ ซึ่งเชื่อว่าหากเงาะสามารถระบายออกสู่ผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่องจนหมดฤดูกาลในเดือนกันยายนนี้ ก็ไม่น่ากังวลเรื่องของราคา" ผู้จัดการสหกรณ์ฯ กล่าว