กรมส่งเสริมการเกษตรจัดให้มีพิธีเปิดสัมมนาสานพลังเครือข่ายสพป.แปลงใหญ่ Young Smart Farmer กลไกลสู่การปฏิบัติภาคเกษตรรวมพลังหาแนวทางรองรับการปฏิรูปภาคการเกษตรและเข้ารับรางวัลการประกวดแปลงใหญ่ดีเด่น ประจำปี 2561 โดยมีเกษตรกรเข้าร่วมในการสัมมนาในครั้งนี้กว่า 3,000 กว่าคน
นายสมชาย ชาญณรงค์กุลอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมส่งเสริมการเกษตรได้มีการสร้างเครือข่าย ศพก. เครือข่ายแปลงใหญ่และเครือข่าย Young Smart Farmer ทั้งในระดับจังหวัด เขต และประเทศเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนการปฏิรูปภาคการเกษตรโดยภาคประชาชน ซึ่งปัจจุบันสามารถดำเนินการแบ่งแปลงใหญ่ได้จำนวน 4,007 แปลง พื้นที่ 5,173,105.0 ไร่มีเกษตรกรเข้าร่วมจำนวน 320,453 คนและมีการเชื่อมโยงสินค้าแปลงใหญ่ที่ได้คุณภาพมาตรฐานกับตลาดที่แน่นอนด้วยการจับคู่ธุรกิจหลายกลุ่มสินค้า โดยเฉพาะในพืชเศรษฐกิจหลักสำคัญ ได้แก่ ข้าว พืชไร่ พืชผัก สมุนไพร ไม้ผลและประมง ปศุสัตว์ตามนโยบายตลาดนำการผลิต
นอกจากนี้ยังได้พัฒนาและสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer ซึ่งความสามารถของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หันมาทำการเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนอย่างที่ทำมากได้น้อยเป็นทำน้อยได้มาก สอดคล้องกับโมเดลไทยแลนด์ 4.0 เกิดการเปลี่ยนแปลงจากการเกษตรแบบดั้งเดิมไปสู่เกษตรสมัยใหม่เน้นการบริหารจัดการ และเทคโนโลยี Smart Farming และการเกษตรแม่นยำสูง Precision Farming และการพัฒนาเข้าสู่เปิดตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์
ในการรวมพลังครั้งนี้มีเกษตรกรแปลงใหญ่เกษตรกรผู้นำ ศพก. และเกษตรกรรุ่นใหม่ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์จะนำไปสู่การสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งในอนาคตต่อไป หลังจากนั้นเป็นการเปิดวีทีทัศน์ชมโครงการและทำสัญญาข้อตกลงของเกตรกรแปลงใหญ่กับผู้ประกอบการพร้อมพิธีมอบรางวัลการประกวดแปลงใหญ่ดีเด่น ประจำปี 2561 ตามลำดับและมา
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานในพิธีกล่าวเปิดงานว่ารัฐบาลมีนโยบายการปฏิรูปภาคการเกษตรโดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้นเกิดความภาคภูมิใจในอาชีพ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดนโยบายใช้ตลาดนำการผลิต และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตยึดศาสตร์พระราชาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักดำรงชีพ
นอกจากนี้ภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นยังจำเป็นที่จะต้องสร้างเกษตรกรผู้นำ เพื่อเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงภาคเกษตร กรรมของประเทศให้มีความเข้มแข็งสามารถแข่งขันและก้าวทันสถานการณ์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ขับเคลื่อนเรื่องนี้มาโดยตลอดและได้มีการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ศพก.จำนวน 882 จุด ทั่วประเทศเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน
โดยเน้นการเรียนรู้จากเกษตรกรต้นแบบที่ประสบความสำเร็จให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันเอง รวมทั้งมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คอยเป็นพี่เลี้ยงโดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องตลอดฤดูการผลิตเพื่อให้เกษตรกรที่มาเรียนรู้ เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถนำความรู้ที่ได้รับจาก ศพก.ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับไร่นาของตนเอง รวมทั้งส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ซึ่งสนับสนุนให้เกษตรกรรวมกลุ่มกัน ผลิต จำหน่ายและบริหารจัดการร่วมกันทั้งในรูปของกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจ ชุมชนสหกรณ์ เป็นการลดต้นทุนการผลิตเพื่อผลผลิตพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้ได้มาตรฐานตามความต้องการของตลาดเชื่อมโยงการตลาด และบริหารจัดการให้เกิดความสมดุลระหว่าง อุปทาน และอุปสงค์ของสินค้า