“บอย-ปกรณ์” ทุ่ม 40 ล. เปิดบริษัท ปั้น โบจิทีแคร์ ชิงเค้กตลาดสกินแคร์

วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

“บอย-ปกรณ์” ทุ่ม 40 ล. เปิดบริษัท ปั้น โบจิทีแคร์ ชิงเค้กตลาดสกินแคร์


พระเอกมาดเซอร์  “บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” เปิดบริษัท เจทีเอ็น 888 จำกัด จับธุรกิจทางด้านสกินแคร์ ครั้งแรก ประเดิมเทงบราว 40 ล้าน เปิดตัว แบรนด์  “โบจิ ทีแคร์ ครีมยอดใบชา” เจาะกลุ่มคนรักผิว อยากมีผิวอ่อนกว่าวัย ไร้สิว  เผย เน้นขายผ่านออนไลน์ 100% ขณะนี้มีตัวแทนกว่า 10,000 คน ทั่วประเทศ คาดสิ้นปีสร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาท แน่นอน

นาย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจทีเอ็น 888 จำกัด กล่าวว่า ได้ทุ่มงบประมาณ 40 ล้านบาท ในการดำเนินธุรกิจสกินแคร์ภายใต้แบรนด์ โบจิ ทีแคร์ ครีมยอดใบชา ซึ่งนำเข้าวัตถุดิบบางส่วนมาจากประเทศญี่ปุ่น เจาะกลุ่มเป้าหมาย วัยรุ่น - ทำงาน ราคาไม่สูงมาก เพียง 450 บาท/1ชิ้น โดยสาเหตุที่เข้ามาลงทุนธุรกิจสกินแคร์ เพราะว่ามองว่าตลาดความงามยังคงเติบโตต่อเนื่อง

โบจิ ทีแคร์ “ครีมยอดใบชา” เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ธุรกิจตัวใหม่ล่าสุด โดยเป็นการลงทุนของผมและครอบครัว คือผมเองก็ชอบทำธุรกิจและก็ได้ทำธุรกิจอื่นๆมาบ้างพอสมควร ตัวนี้ถือเป็นธุรกิจด้านสกินแคร์ครั้งแรกของผม ซึ่งสาเหตุที่ผมเลือกทำสกินแคร์เพราะผมเป็นคนที่ดูแลตัวเองในระดับนึง ไม่ว่าผมจะใช้อะไรผมต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด และอีกอย่างผมเองชอบไปเที่ยวญี่ปุ่น จะเห็นจากไอจีผมได้เลยว่าผมไปเที่ยวญี่ปุ่นบ่อยมาก แล้วไปเจอยอดอ่อนใบชาที่คนญี่ปุ่นบอกว่ามันมีสารสกัดที่ได้จากยอดใบชาที่ดีต่อผิวมาก เลยเลือกยอดใบชาเป็นสารสกัดหลักในผลิตภัณฑ์โบจิทีแคร์หลอดนี้”

บอย ปกรณ์ กล่าวต่อว่า แม้จะมองว่าปัจจุบันตลาดดังกล่าวจะมีการแข่งขันกันสูงมาก แต่ยังเชื่อมมั่นว่าแบรนด์โบจิ ทีแคร์ จะสามารถติดตลาดในเร็วๆ นี้ หลังจากการเปิดตัวสินค้าไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยช่องทางการจำหน่ายในปี2561 จะเน้นการตลาดผ่านออนไลน์ 100% ขณะนี้มีตัวแทนจำหน่ายกว่า 10,000 คน ทั่วประเทศ โดยคาดว่าเวลาที่เหลือจากนี้ไป จนถึงสิ้นปี 2561 จะมียอดสั่งซื้อประมาณ 3 แสนชิ้น สร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาท ภายใต้งบประมาณการทำการตลาดประมาณ 20 ล้านบาท

สำหรับในปี 2562 วางแผนว่าภายในไตรมาสที่1 ยอดขายจะเติบโตแบบก้าวกระโดดไปเป็น 500 ล้านบาท โดยจะเพิ่มช่องทางการขายผ่านออฟไลน์มากขึ้น โดยปีหน้าสัดส่วนการตลาดออนไลน์จะอยู่ที่60% และออฟไลน์อยู่ที่ 60% ซึ่งจะเน้นการนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในคีออส ในห้างสรรพสินค้า นอกจากนี้ปีหน้ายังจะเปิดตัวสินค้าใหม่เพิ่มอีก 1 ตัว คาดว่าจะประมาณกลางปี จะเห็นสินค้าออกสู่ตลาด

สำหรับตัวแทนจำหน่ายปีหน้า จะเพิ่มอีก 3,000 ราย กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ เพื่อโอกาสทางธุรกิจ รับการแข่งขัน ส่วนแผน การส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ กำลังศึกษาแนวทางการส่งออกไปยัง สปป.ลาว ปีหน้าคาดว่าจะเห็นแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนมากขึ้น สาเหตุที่จะส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายยัง สปป.ลาว เพราะว่า คนลาวชื่นชอบเครื่องสำองค์ไทย และภักดีต่อสินค้าไทย และยังชื่นชมดูละครไทยอีกด้วย จึงทำให้การทำการตลาดจะไม่ยาก

“จุดแข็งของแบรนด์ เราคือ คุณภาพดี ราคาไม่แพงมาก ซื่อสัตย์ จริงใจกับลูกค้า และทีมงาน ครีมที่ใช้ง่าย ซึมเร็ว ไม่เหนอะ หนะ เห็นผลทันที โรงงานได้มาตรฐานด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่ได้จากยอดอ่อนของใบชา3ใบแรก จะช่วยคืนสมดุลสู่ผิวหน้า ปรับสภาพผิวให้แข็งแรง ต่อต้านอนุมูลอิสระ ปรับผิวให้ขาวกระจ่างใสและลดการเกิดสิว พร้อมทั้งยังมีสารสกัดอื่นๆอีกมากมายที่จะทำงานร่วมกันเพื่อตรงเข้าซ่อมแซมผิวเสียกับมาสวยได้อีกครั้งอย่างอ่อนโยนและเป็นธรรมชาติ” นายปกรณ์ กล่าว



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ