“BenQ” แย้มแผนรองรับการขยายตลาดปีหน้า สร้างโซลูชั่นสู่ภาคธุรกิจและการศึกษา

วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

“BenQ” แย้มแผนรองรับการขยายตลาดปีหน้า สร้างโซลูชั่นสู่ภาคธุรกิจและการศึกษา


นาย ดูมัส เฉิน ผู้อำนวยการสายธุรกิจ บริษัท เบ็นคิวคอร์ปอเรชั่น ประจำภูมิภาค เอเซีย แปซิฟิก กล่าวว่า ในฐานะผู้นำตลาดโปรเจคเตอร์ชนิด DLP เพื่อการศึกษาด้วยส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกถึง 25% และการันตีคุณภาพการเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์กลุ่มโปรเจคเตอร์ 4K ด้วยยอดจำหน่ายสินค้าโปรเจคเตอร์ความละเอียด 4K ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออก กลาง ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 38% ครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งในปี 2018 ด้วยประสิทธิภาพด้านเทคโนโลยีการแสดงผลภาพและสีที่ได้สมจริงของโปรเจคเตอร์กลุ่ม 4K Home Cinema ให้ผู้ชมได้เพลิดเพลินและสร้างความรู้สึกเฉกเช่นเดียวกับการรับชมในโรงภาพยนตร์ และในปี 2019 เราได้เพิ่มช่องทางการขยายการตลาดโดยมุ่งเน้นในส่วนของการทำตลาดออนไลน์ ที่เพิ่มฟีตเจอร์ทั้ง B2B Website, Social Media, Media Pitch, SEO/SEM, Email Marketing ส่วนแผนการตลาดออฟไลน์จะเป็นการสร้าง Brand Awareness และสร้างการรับรู้ของแบรนด์ให้มากขึ้น โดยโซลูชั่นที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ เราได้ส่งต่อให้กับตลาดในประเทศไทยด้วย

ด้าน นางสาว ธัญรัก นาสมยนต์ ผู้จัดการใหญ่ เบ็นคิว ประจำประเทศไทย กล่าวต่อว่า สำหรับในปีนี้ เราประสบความสำเร็จอย่างมาก ด้วยแผนการตลาดของ BenQ ที่เน้นเจาะตลาดกลุ่มภาคธุรกิจ และภาคการศึกษา อีกทั้งการนำเสนอผลิต ภัณฑ์ BenQ ในรูปแบบโซลูชั่นที่สามารถเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจให้กับลูกค้า ตลอดจนยกระดับการสื่อสารขององค์ของผู้ใช้ให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับยุคดิจิตอลในปัจจุบัน นอกจากนี้ BenQ ยังมีอุปกรณ์เสริมที่ทันสมัยไม่ว่าจะเป็นจอ Smart Display และจอ Interactive Flat Panel เพื่อตอบสนองต่อตลาด และรองรับระบบห้องประชุมอัจฉริยะ Smart Meeting Room ซึ่งถือได้ว่าเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารได้สะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ”

ส่วนการตลาดแบบ B2C หรือลูกค้าบุคคล เราได้เจาะตลาดกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย และมีมุมผ่อนคลายด้วยการชมภาพยนตร์ในบ้าน BenQ จึงตอบทุกโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน ด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับ Home Cinema, Pro Cinema ซึ่งจะให้ภาพที่คมชัดสมจริงระดับ 4K นอกจากนี้ BenQ ยังตอบสนองตลาด E-sport ที่กำลังได้รับความนิยม ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับเกมเมอร์อย่าง Zowie และ Gaming gear ซึ่งส่งผลให้เบ็นคิว ประเทศไทย มียอดจำหน่ายสูงเป็นอันดับต้นของประเทศไทย”

สำหรับการเติบโตแบบก้าวกระโดด ทั้งด้านยอดขายและส่วนแบ่งตลาด ที่ผ่านมา เบ็นคิว ประเทศไทย มีวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ทางการตลาด การสร้างความแข็งแกร่งด้านช่องทางการจำหน่าย และนโยบายในการพัฒนาส่วนต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดเป้าหมายได้อย่างตรงจุด รวมไปถึงการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่กลุ่มลูกค้าในทุกภาคส่วน ส่งผลให้ยอดขายมวลรวมประมาณการของปี 2561 จะอยู่ที่ 280 ล้านบาท ซึ่งโตขึ้นกว่า 21.69% เมื่อเทียบกับในยอดขายมวลรวมของปี 2560 และคาดว่าจะขยายเป็น 30% ในปี 2562 จากทุกสายผลิตภัณฑ์

ทั้งนี้ แผนการตลาดสำหรับปี 2562 เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาทางด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาบูรณาการ BenQ จะมุ่งเน้นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์พร้อมโซลูชั่นที่เหมาะสมกับลูกค้าในแต่ละกลุ่ม รวมไปถึงการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ ด้านการสื่อสารเพื่อเข้าถึงของกลุ่มเป้าหมายนั้นทาง BenQ ยังคงเน้นการสื่อสารผ่านทางโซเซียลมีเดียต่างๆ เช่น เว็บไซต์ ยูทูป บล๊อคเกอร์ ทั้งนี้เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้อย่างทั่วถึง ด้านการพัฒนาช่องทางการจำหน่ายนั้น เราให้ความสำคัญกับผู้ร่วมค้าของ

ด้าน นายวัชรพงษ์ วงษ์มา ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ กล่าวเสริมในภาพรวมของผลิตภัณฑ์ว่า ด้วยการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์ DLP Projector, Professional LCD monitor (จอสำหรับช่างภาพ), Zowie LCD Monitor, ZOWIE Gaming gear และ Interactive Flat Panel นั้นมีอัตราการโตขึ้นอย่างต่อเนื่องแบบก้าวกระโดด ทั้งนี้ มีเพียงแค่ผลิตภัณฑ์จอ LCD Monitor แบบมาตรฐานที่ตัวเลขนั้นตกลงประมาณ 18.93% สืบเนื่องด้วย เบ็นคิวจะลดการทำตลาดจอขนาดเล็กจำพวก 18” - 19” ลง และไปเน้นจอที่มีขนาดตั้งแต่ 21.5” ขึ้นไป พร้อมกับนวัตกรรมถนอมสายตา ซึ่งกำลังทยอยเปิดตัวรุ่นใหม่ๆ ลงสู่ตลาดเพื่อผลักดันยอดขายและตัวเลขให้กลับมาอยู่ในแนวบวก และโตขึ้นแบบก้าวกระโดดในปีหน้า

ส่วนในปี 2562 นี้ เรามีแผนการนำผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาดด้วยการเตรียมความพร้อมในการนำเสนอโซลูชั่นสำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์มัลติมีเดียและระบบซอฟแวร์ที่จะช่วยประหยัดเวลาในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ต่อการใช้งานทั้งผลิตภัณฑ์โปรเจคเตอร์กลุ่มเลเซอร์ที่มีการนำเทคโนโลยี Laser BlueCoreTM และ Dust Guard ProTM Technologies ที่ให้สีส้นสดและเสมือนจริง รวมทั้งหลอดภาพแบบเลเซอร์ที่มีอายุการใช้งานยาวนานไม่ต่ำกว่า 20,000 ชั่วโมง ในส่วนทางด้านนวัตกรรม Interactive Flat Panel (IFP) ได้นำ Air Quality Sensor เซ็นเซอร์วัดคุณภาพอากาศเพื่อช่วยในการตรวจสอบระดับ

การผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้า เบ็นคิวยังคงสานต่อกลยุทธ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยี และบริการด้านโซลูชั่นสมัยใหม่ โดยเน้นการตอบโจทย์และการเข้าถึงการใช้งานของกลุ่มลูกค้า พร้อมเจาะกลุ่มเป้าหมายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงสถานศึกษา ไม่ว่าจะเป็น การรีวิวผลิตภัณฑ์ สื่อโฆษณาออนไลน์ และการออกบูธโชว์ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย พร้อมกันนี้เราได้มีการเตรียมขยายจำนวนศูนย์บริการหลังการขาย เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ให้มากขึ้น Service Coverage ให้ครบทุกภาคโดยเพิ่มจำนวน Service Authorize Center ให้ครอบคลุมถึงทั่วประเทศด้วย”



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ