จระเข้ ผู้นำตลาดกาวซีเมนต์ ทุ่ม 100 ล้านเปิดโกดังใหม่ เพิ่มศักยภาพการกระจายสินค้า รุกเสริมทัพนวัตกรรมวัสดุเพื่อที่อยู่อาศัย การันตีตรา มอก.(คุณภาพขั้นสูง) ในกลุ่มกาวซีเมนต์จระเข้เงิน เป็นกลุ่มแรกในไทย คาดสินปีนี้โกยรายได้ 2,600 ล้านบาท ยึดผู้นำอันดับ 1 ตลาดกาวซีเมนต์มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท
นายศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ในปี 2561 ที่ผ่านมา แบรนด์จระเข้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการดำเนินธุรกิจภายใต้ 2 แบรนด์หลักคือ จระเข้ และ ชาละวัน โดยได้ขับเคลื่อนธุรกิจผ่านแผนและกลยุทธ์ทางการตลาดคือ การโฟกัสกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก จัดกิจกรรมเชิงรุกให้เข้าถึงและเกิดการมีส่วนร่วมโดยเฉพาะการได้ใช้ผลิตภัณฑ์จริง โดยปีที่ผ่านมาจระเข้น มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ดีจากมูลค่าตลาดรวมทั้งหมดของอุตสาหกรรมและกลุ่มธุรกิจบ้านและการก่อสร้าง ปัจจุบันจระเข้เป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดกาวซีเมนต์มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท โดยมีส่วนแบ่งตลาด 50%
จากความสำเร็จดังกล่าว เพื่อความเชื่อมั่นของผู้ซื้อที่มีต่อสินค้าในเครือจระเข้ ทางจระเข้จึงได้ขยายกำลังการกระจายสินค้าตามความต้องการของลูกค้าที่ส่งถึงแบรนด์ที่มากขึ้น ด้วยการสร้างโกดังแห่งใหม่ (warehouse) มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท บนพื้นที่ 4,500 ตรม.และออกแบบพิเศษเป็นแนวตั้ง เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่เก็บสินค้าได้มากพอต่อการสั่งซื้อที่เพิ่มมากขึ้น ทุกอุปกรณ์ได้รับการออกแบบในแนวสูงเพื่อรองรับการใช้งานในโกดังใหม่แห่งนี้ เช่น Folk Lift ที่สูงเป็นพิเศษ และติดกล้องถ่ายภาพเพื่อให้เห็นภาพเมื่อหยิบสินค้าจากชั้นวางสูง และการบรรทุกสินค้าเข้ารถบรรทุกจะมีเครนพิเศษที่เรียกว่า "Folk-Crane" ซึ่งเป็นเครนรางที่มีแท่นวางเพื่อยกพาเลท เพื่อลดระยะเวลาในการรอสินค้าจัดส่ง และป้องกันของขาดตลาด ทั้งในประเทศ และการส่งออกไปต่างประเทศ โดยโกดังแห่งใหม่นี้ อยู่ในเขตพื้นที่ อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรีและจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปลายปี 2561 นี้
นายศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์ กล่าวต่ออีกว่า ในปี 2561 นี้ บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสร้างยอดขายได้ถึง 2,600 ล้านบาท สัดส่วนยอดขายจากในประเทศ 90% และต่างประเทศ 10% และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 2,800 ล้านบาท ในปี 2562 โดยทิศทางการทำตลาดในปี 2562 บริษัทได้วางกลยุทธ์บุกตลาดประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะเวียดนามพร้อมตั้งเป้าให้สัดส่วนยอดขายต่างประเทศเพิ่มเป็น 30% และในประเทศ 70% ด้านผลิตภัณฑ์จะมุ่งพัฒนานวัตกรรมใหม่ พวกเคมีสำหรับการก่อสร้าง และเน้นการสื่อสารออนไลน์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ปัจจุบันช่องทางจำหน่ายของ บริษัทฯครอบคลุมตลาดอย่างทั่วถึง โดย มีดีลเลอร์ ร้านอุปกรณ์ก่อสร้างจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กว่า 4,000 ราย และ โมเดิร์นทรดมากกว่า 70 แห่ง