“แม็คกรุ๊ป” ปรับเกมส์ธุรกิจ สู้ศึก Digital Disruption

วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

 “แม็คกรุ๊ป” ปรับเกมส์ธุรกิจ สู้ศึก Digital Disruption


นางสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า การบริโภคในประเทศยังไม่ฟื้นตัวจากปัจจัยแวดล้อมหลายอย่าง ส่งผลให้ในช่วงไตรมาสแรกของงบการเงินของบริษัทปี 61-62 หรือในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. 61 จะเห็นว่ายอดขายของบริษัทหดตัวลงราว8%  อันเนื่องมาจากการชะลอการทำโปรกางเกงยีนส์ เพื่อชะลอการซื้อสินค้าล่วงหน้าของลูกค้าในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น เพราะหากบริษัทพยายามกระตุ้นยอดขายมากเกินไป อาจจะส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทในอนาคตได้ ทำให้บริษัทตัดสินใจที่จะปรับกลยุทธ์ไม่เน้นการเติบโตของยอดขายมากนัก แต่จะไปเน้นที่การสร้างมูลค่าของสินค้า เพื่อทำให้กำไรของบริษัทยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องได้

อีกทั้ง ปัจจุบันวิถีชีวิตและพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก และหันมาให้ความสำคัญต่อการบริโภคสื่อ คอนเทนต์ของสินค้าที่สะท้อนความเป็นตัวตนของตนเองก่อนการตัดสินใจซื้อสินค้า ดังนั้น สิ่งสำคัญเท่าๆ กับการสร้างคอนเทนต์ คือ การสร้างโครงข่ายร้านค้าทั้ง online และoffline ให้พร้อมและครอบคลุมเพื่อรองรับการตัดสินใจที่เกิดได้ทุกที่ทุกเวลา ทางบริษัทจึงมีการปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจใหม่ให้ความสำคัญต่อช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ด้วยเหตุดังกล่าว ปีนี้เราก็ยังคงเดินหน้าลงทุนที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตราสินค้าทั้ง 3 กลุ่มของบริษัทอันประกอบไปด้วย (1)กลุ่มเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายนำโดยแบรนด์ ‘Mc Jeans’ เครื่องแต่งกาย Denim และ Non-denim และแบรนด์ ‘U-P’ (ยู-พี) เสื้อผ้าสไตล์ Sport casual (2) กลุ่ม Fashion Accessories โดยมีทั้งแบรนด์ Mc, U-P และแบรนด์นาฬิกาต่างๆของ ‘Timedeco’ และ (3) กลุ่มผลิตภัณฑ์ Personal care โดยแบรนด์ ‘M&C’ เป็นต้น

นายบัณฑิต ประดิษฐ์สุขถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินและบัญชีและผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ในปี 2562 นี้บริษัทฯ ได้มีการปรับรอบปีบัญชีใหม่เริ่มตั้งแต่เดือนมิ.ย. 61 - ก.ค. 62 ส่งผลให้ปี 2561 (ม.ค. 61 - มิ.ย. 61) มีผลประกอบการที่1,974 ล้านบาท และในปัจจุบันเราในฐานะผู้นำตลาดยีนส์ที่มีแชร์อยู่ 40% ส่วนในปี 2562 หรือ หนึ่งปีนับจากนี้  บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถดันผลประกอบการจะกลับมาโตขึ้นอีกราว 5% ได้อย่างแน่นอน 

ภายใต้แผนดำเนินงานที่เราได้วางไว้ในปีนี้  ภายใต้กลยุทธ์ Omni channel ไม่ว่าจะเป็นการขยายสาขาเปิดจุดขายเพิ่มกว่า 30 จุดขายจากปีที่แล้วที่มีอยู่ 894 จุดขายมาอยู่ที่ 927 จุดขาย และคาดว่าจะถึง 1,000 จุดขายภายใน 2 ปีข้างหน้า รวมทั้งได้ลงทุนเปิดจุดขายเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ผ่านร้านค้า‘mcmc Outlet Store’ ที่มีการเพิ่มจุดจำหน่ายภายในและภายนอกปั๊มน้ำมันปตท. ตลอดจนการพัฒนาช่องทาง Online marketplace คือ‘mcshop.com’ โดยเพิ่มการสรรหาสินค้าภายใต้แบรนด์ชั้นนำระดับโลกของพันธมิตรรายอื่นๆ ที่เป็นที่นิยมของคนไทยเข้ามานำเสนอต่อฐานลูกค้าหลายล้านคนของแม็คกรุ๊ป

ล่าสุดบริษัทฯ ได้เข้าลงทุนใน ‘Mcmillion’ ผู้บริหารคลังสินค้าและการจัดส่งสินค้าแบบครบวงจรสำหรับธุรกิจ E-commerce เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาวและลดระยะเวลาการจัดส่งสินค้าสำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ให้สั้นที่สุด

ในปัจจุบันบริษัทยังคงเดินหน้าเพิ่มฐานสมาชิก MC Club ซึ่งในขณะนี้มีจำนวนสมาชิกมากกว่า 650,000 คนและคาดว่าจะถึง 1 ล้านคนภายในหนึ่งปี โดยในไตรมาสนี้จะเริ่มนำ Mobile Application เข้ามาใช้งานเพื่อให้สามารถสื่อสารและนำเสนอ campaign ที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม สำหรับปีนี้บริษัทวางงบลงทุกว่า 320 ล้านบาท แบ่งเป็น 20 ล้านบาทในการสร้างแบรนด์ร่วมกับเซเลเบตี้ อีก 200 ล้านบาทในการทำการตลาด และอีก 100 ล้านบาท ด้านการขยายร้านและการวางระบบไอทีแพลทฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เชื่อว่าจะส่งผลให้ภาพรวมผลประกอบการถึงเดือน ธ.ค. 62 จะโตขึ้น 5% หรือทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 4,000-4,200 ล้านบาท

 


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ