ธ.ก.ส. ร่วม คปภ.มอบเงินชดเชยโครงการประกันภัยพืชผลลำไย

วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2562

ธ.ก.ส. ร่วม คปภ.มอบเงินชดเชยโครงการประกันภัยพืชผลลำไย


ธ.ก.ส. ร่วม คปภ. และบริษัทประกันภัยเครือข่ายพันธมิตรทำพิธีมอบเงินชดเชยแก่ผู้แทนเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ตามโครงการประกันภัยพืชผลลำไยจากภัยแล้งโดยใช้ดัชนีภัยแล้งที่ตรวจวัดด้วยดาวเทียมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่กว่า 9 แสนบาท เกษตรกรกว่า 500 ราย

วันนี้ (23เมษายน 2562) ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลยางเนิ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ นายมนัส ขันใสรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายนิพัฒน์  เกื้อสกุล รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ผู้แทนบริษัท ซมโปะประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด ร่วมพิธีมอบเงินชดเชยแก่เกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ตามโครงการประกันภัยพืชผลลำไยจากภัยแล้งโดยใช้ดัชนีภัยแล้ง(ตรวจวัดด้วยดาวเทียม) ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

นายนิพัฒน์  เกื้อสกุล รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ปัจจุบันสภาพภูมิอากาศของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงจากภาวะโลกร้อนในทุกภูมิภาค ซึ่งประเทศไทยได้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงมากขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ภัยแล้ง อุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิต ทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร การประกันภัยพืชผลจึงเป็นแนวทางหนึ่งในการบรรเทาความเดือดร้อนจากการเกิดภัยพิบัติเพราะเกษตรกรสามารถนำเงินค่าชดเชยที่ได้รับจากการประกันภัยพืชผลไปลงทุนในรอบการเพาะปลูกใหม่ได้โดยในปีการผลิต 2562 ธ.ก.ส. ร่วมกับ บริษัทซมโปะประกันภัยฯและบริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ฯ จัดทำโครงการประกันภัยพืชผลลำไยจากภัยแล้ง โดยใช้ค่าดัชนีฝนแล้ง ตรวจวัดด้วยดาวเทียม เป็นเกณฑ์การประเมินความเสียหาย ทั้งนี้เพื่อให้เกษตรกรได้รับความคุ้มครองกรณีเกิดปัญหาภัยแล้งและสร้างความเสียหายต่อการผลิต
ช่วยสร้างทางเลือกในการบริหารจัดการความเสี่ยง และเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยดำเนินการใน 24 อำเภอของจังหวัดโดยมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 1,053ราย

ทั้งนี้ โครงการประกันภัยพืชผลลำไยจากภัยแล้งฯ ได้สิ้นสุดระยะเวลาการขอเอาประกันภัยไปแล้วตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562  โดยมีระยะเวลาในการวัดปริมาณน้ำฝนหรือระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม– 30 เมษายน 2562 รวม 61 วัน ซึ่งการวัดค่าปริมาณน้ำฝนในแต่ละวันตลอดระยะเวลาประกันภัยจะอ้างอิงข้อมูลจากระบบดาวเทียม GSMaPผ่าน Website ของ ธ.ก.ส. กรณีเกิดภาวะฝนแล้งได้รับชดเชยในอัตราร้อยละ 9 ของวงเงินในส่วนที่ขอเอาประกันภัย และกรณีภัยแล้งรุนแรงได้รับชดเชยร้อยละ 12 ของวงเงินในส่วนที่ขอเอาประกันภัย รวมอัตราค่าชดเชยไม่เกินร้อยละ 21 ของวงเงินในส่วนที่ขอเอาประกันภัย ซึ่งบริษัทผู้รับประกันภัยได้ประมวลผลเพื่อพิจารณาจ่ายเงินชดเชยให้ในช่วงแรกก่อน(1–31 มีนาคม 2562)โดยสามารถบรรเทาความเสียหายของเกษตรกรจากภัยแล้งได้ถึง 584 ราย จำนวนเงินชดเชย 914,700 บาท เพื่อให้เกษตรกรที่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับเงินชดเชยสามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้ทันสำหรับฟื้นฟูการเพาะปลูกลำไยช่วยผ่อนปรนภาระเกษตรกรจากปัญหาการก่อหนี้สินเพิ่ม อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวยังไม่สิ้นสุดระยะเวลาการพิจารณาการจ่ายเงินชดเชย ซึ่งบริษัทผู้รับประกันภัยจะประมวลผลเพื่อพิจารณาจ่ายเงินชดเชยอีกครั้ง ณ วันที่ 30 เมษายน 2562 โดยนำข้อมูลปริมาณฝนแล้งติดต่อกันตลอดระยะเวลาของการคุ้มครอง (1 มีนาคม – 30 เมษายน 2562) มาพิจารณาการจ่ายเงินชดเชยเพิ่มเติมตามเกณฑ์ต่อไป

 

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ