“เนสกาแฟ” ไม่หวั่นเทรนด์ดื่มกาแฟนอกบ้านโต อัดพันกว่าล้าน (ยืนหนึ่ง) เจ้าตลาดกาแฟทรีอินวัน

วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2562

“เนสกาแฟ” ไม่หวั่นเทรนด์ดื่มกาแฟนอกบ้านโต อัดพันกว่าล้าน (ยืนหนึ่ง) เจ้าตลาดกาแฟทรีอินวัน


นางสาวนาริฐา วิบูลยเสข ผู้จัดการธุรกิจกาแฟปรุงสำเร็จ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์ของผู้บริโภคในการดื่มกาแฟเปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อนที่จะดื่มเพื่อให้ตื่นไม่ให้ง่วง แต่เดี๋ยวนี้เป็นดื่มเพื่อความหอมกรุ่น สร้างความสุขจากการได้ดื่มกาแฟมากกว่า อีกทั้ง ยังทางเลือกกาแฟที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะเราจะเห็นได้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ก็จะมีผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก รายใหญ่ จำนวนมาก ลงมาทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านกาแฟ เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้บริโภคก็หันไปนิยมดื่มกาแฟนอกบ้านกันมากขึ้นเช่นกัน โดยมีมูลค่าตลาดกาแฟนอกบ้านโดยรวม 26,700 ล้านบาท (ที่มาจากหน่วยงานภายในของเนสท์เล่) เติบโต 8%

ดังนั้น เนสกาแฟ ในฐานะผู้นำตลาดตลาดกาแฟปรุงสำเร็จเมนสตรีม เรามองเห็นโอกาสว่าเล่นส่วนใหญ่ยังคงใช้กาแฟเพียงสายพันธุ์เดียวนั่นคือโรบัสต้าล้วน ด้วยเหตุนี้ ล่าสุด เราจึงได้ใช้เทคโนโลยีพิเศษเอกสิทธิ์เฉพาะของเนสกาแฟเปิดตัว “เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู” สูตรใหม่ นวัตกรรมกาแฟปรุงสำเร็จ ผสมกาแฟคั่วบดละเอียดจาก 2 สายพันธุ์คือโรบัสต้าที่ให้รสชาติเข้ม และอาราบิก้าที่ให้รสชาตินุ่มละมุน โดยเนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู ใหม่นี้ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ของเนสกาแฟปรุงสำเร็จที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และเป็นการเปิดตัวกาแฟปรุงสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของเนสกาแฟในรอบ 3 ปีอีกด้วย จนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในปีที่ผ่านมาด้วย ส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 52.9% และมียอดการดื่มเนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู สูงถึง 1,500 ล้านแก้วต่อปี     

สำหรับแผนด้านทำการตลาดเนสกาแฟได้จัดสรรงบประมาณกว่า 1,200 ล้านบาทสำหรับแคมเปญสื่อสารการตลาดเนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรูใหม่ โดยมี 2 แบรนด์แอมบาสเดอร์ซูเปอร์สตาร์ระดับแม่เหล็กอย่าง โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ เป็นตัวแทนของทีมเข้มอย่างกาแฟโรบัสต้าที่เข้มเต็มรสกาแฟ และ เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข เป็นตัวแทนทีมนุ่มอย่างกาแฟอาราบิก้าที่นุ่มละมุน ผ่านทางภาพยนตร์โฆษณาและเว็บฟิล์มชุดใหม่จากผู้กำกับภาพยนตร์มือหนึ่งอย่างนายนิธิวัฒน์ (ต้น) ธราธร พร้อมกับเพลงดังอย่าง “เอาไปเลย” ที่นำมาคัฟเวอร์ใหม่ พร้อมจัดงานเปิดตัวสินค้าอย่างเป็นทางการซึ่งคาดว่าจะสามารถผลักดันยอดให้เติบโตตามเป้าที่วางไว้อย่างแน่นอน

ผู้บริหารสาว กล่าวต่อว่า ปัจจุบันอัตราการดื่มกาแฟของคนไทยอยู่ที่ปีละประมาณ 300 แก้วต่อคนต่อปี ส่วน คนญี่ปุ่นดื่มกาแฟปีละประมาณ 400 แก้วต่อคนต่อปี และ ในยุโรปที่เป็นตลาดพัฒนาแล้วมีการดื่มกาแฟเฉลี่ย 600 แก้วต่อคนต่อปี และสำหรับประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการดื่มเนสกาแฟปรุงสำเร็จมากที่สุดเป็นอันดับสอง รองจากประเทศฟิลิปปินส์

โดยปัจจุบันมูลค่าตลาดกาแฟสำเร็จรูปโดยรวม 21,000 ล้านบาท โต 4.8% เนสกาแฟมีสัดส่วนรายได้จากประเภทมิกซ์เซทกาแฟปรุงสำเร็จ (ทรีอินวัน) อยู่ที่ 80% เติบโต 6.2% ในขณะที่ตลาดรวมเซกเม้นท์นี้อยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท โต 4.2% ส่วนประเภทผงชงมูลค่าตลาด 5,000 ล้านบาท มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 20% เติบโต 4.8% ซึ่งปัจจุบันเนสกาแฟถือมาร์เก็ตแชร์ของตลาดกาแฟโดยรวมเป็นอันดับหนึ่งอยู่ที่ 56% และมีส่วนแบ่งการตลาดในเซกเม้นท์กาแฟปรุงสำเร็จ52.9% %  และคาดว่าการเปิดตัวสินค้าใหม่ในครั้งนี้จะผลักดันให้ส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นอีก เพื่อเป็นการตอกย้ำเนสกาแฟเป็นแบรนด์กาแฟอันดับหนึ่งของไทยอย่างต่อเนื่อง

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ