ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สำหรับ บริษัท เอส ดับบลิว พี กรุ๊ป จำกัด บริหารงานโดย “เป๊ก สิราภรณ์ สงสอน” กรรมการผู้จัดการบริษัท เอส ดับบลิว พี ที่กว่าธุรกิจจะเติบโตขยานตัวมาถึงวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอเลย เพราะเริ่มต้นชีวิตจากศูนย์ เคยเป็นกรรมกร มีมอเตอร์ไซค์ 1 คันและเช่าห้องอยู่
และจากการที่ต้องการหารายได้เสริมจึงได้เป็นตัวแทนขายสินค้าออนไลน์ จากนั้นก็เริ่มขายดีมีตัวแทนมากขึ้นเรื่อยๆ กลุ่มลูกค้าเยอะขึ้น จนในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจสร้างแบรนด์เองด้วยทุนที่มีทั้งชีวิตเพียง 30,000 บาท และเริ่มขยับขยายพัฒนาสินค้า จนสร้างกำไรให้กับบริษัทภายในระยะเวลาแค่ 1 ปี โดยใช้หลักในการทำงานยึดมั่นคุณภาพสินค้า สินค้าถึงจะไม่ตายและอยู่ในตลาดได้ยาวนานถึงปีที่ 7
นางสาว สิราภรณ์ สงสอน” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส ดับบลิว พี กรุ๊ป จำกัด เล่าว่า บริษัทดำเนินธุรกิจความงาม และสกินแคร์ ภายใต้บรนด์ชื่อเอส ดับบลิว พี ทำธุรกิจมาแล้วกว่า7 ปี ซึ่งปี2562 จะเดินหน้าทำการตลาดอย่างหนักในรอบ 7 ปี เพื่อรองรับการแข่งขันที่สูงขึ้น โดยในไตรมาสที่1 ที่ผ่านมาได้เร่งการรับรู้ผ่านการตลาดออนไลน์ และแบรนด์แอมบาสเดอร์ ส่วนในไตรมาสที่2 ของปีนี้นั้น จะมุ่งเน้นการทำการตลาดผ่านตัวแทนจำหน่าย ให้มากขึ้น เพื่อเร่งให้ตัวแทนจำหน่ายทำยอดขายได้สูงขึ้น ผ่านการทำการตลาดออนไลน์ โดยพื้นที่ที่มีการขยายตัวของธุรกิจมากที่สุด คือ ภาคกลาง กรุงเทพฯ ปริมณฑล ส่วนภูมิภาคอื่นๆ ก็คาดว่าจะขายตัวอย่างต่อเนื่อง ในเร็วๆนี้ เป็นผลมาจากการทำการตลาดที่หนักขึ้น
นอกจากนี้ในเร็วๆนี้ยังจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์อีก3 ตัว แบ่งเป็นสกินแคร์ 2 ตัว และอาหารเสริม 1 ตัว เพื่อเพิ่มเติ่มสินค้าให้มีการหลายหลากมากขึ้น จากเดิมที่บริษัทมีสินค้าอยู่แล้ว 13 ตัว (KPU) ในขณะเดียวกันจะยังรุกหนักในตลาดออฟไลน์ด้วย ผ่านตัวแทนจำนวนให้นำสินค้าไปออกบูธ เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ เน้นเจาะกลุ่ม หนุ่มสาว คนวัยทำงาน ในโรงงานที่มีอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ จังหวัดชลบุรี ระยอง พระนครศรีอยุธยา
“การตลาดบริษัทของเราจะเน้นหนักไปที่ออนไลน์มาร์เก็ตติ้งถึง 90 % ที่เหลือ10 % เป็นการทำการตลาดออฟไลน์ และมั่นใจว่าตลาดความงามในประเทศไทย ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะคนหันมาใส่ใจดูแลตัวฃเองมากขึ้น แต่การแข่งขันก็จะมีความรุนแรงมากขึ้น แบรนด์น้อยใหญ่ต่างงัดกลยุทธ์การตลาดมาสู้กัน รายเล็กที่ทำการตลาดไม่เป็น และสินค้าไม่มีความน่าเชื่อถือ ก็จะล้มตายไปจากวงจรธุรกิจ ส่วนเราก็จะเน้นคุณภาพ และความน่าเชื่อถือเป็นหลัก”
เจ้าของแบรนด์คนสวย เล่าต่อว่า หลักในการทำธุรกิจของเป๊กคือ เราต้องเริ่มต้นจากสินค้าที่ดีไม่หลอกลวงผู้บริโภค แบรนด์ของเป๊กไม่ได้เปิดมาแล้วปิดตีหัวเข้าบ้านโกยแล้วเปิดแบรนด์ใหม่นะคะ แต่เราอยู่อย่างมั่นคงในแบรนด์ SWP มา 7 ปีแล้ว ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญ เป๊กเคยลำบากมาก่อน แม่เป็นกรรมกรก่อสร้างต้องส่งเป๊กเรียนหนังสือ เป๊กว่างจากการเรียนก็ต้องมาช่วยแม่ทำงาน เราเห็นถึงความเหนื่อยยากในการทำมาหากินกว่าจะได้เงินมาแต่ละบาท ฉะนั้นสินค้าที่เป๊กผลิตจะต้องมีคุณภาพนำ เพื่อที่ลูกค้าจะได้ใช้ของดีๆ คุ้มราคา และตัวแทนที่เอาของเราไปขายก็จะได้ของที่ดี เมื่อขายของดีมีคุณภาพสินค้าก็จะยืนยงอยู่ได้ สินค้าเราถึงไม่ตายมียอดสั่งตลอด ทั้งๆ ที่เราไม่เคยใช้คนดังใช้ดารามาทำการตลาดเลย แต่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง
และจากแผนธุรกิจที่วางไว้จะทำการตลาดที่หนักขึ้น บริษัทยังเตรียมงบประมาณ20-50 ล้านบาท ในการลงทุนสร้างโรงงานผลิตสินค้าใหม่ เป็นของตัวเอง ที่จังหวัดพิษณุโลก บนเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการหาซื้อที่ดินในการสร้างโรงงาน คาดว่าหากซื้อที่ดินได้เร็วก็จะสร้างได้เร็วขึ้น โดยแผนงงานทั้งหมดนี้เพื่อรองรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนขายที่เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันนี้ มีหลายพันรายแล้ว
นอกจากนี้ ยังเตรียมจะขยายตลาดไปยังตลาดต่างประเทศ ผ่านตัวแทนจำหน่าย เช่น ประเทศอินเดีย บังกลาเทศ สปป.ลาว เมียนมา กัมพูชา มีบางประเทศได้นำสินค้าไปทดลองจำหน่ายแล้ว ตลาดตอบรับดีมากๆ เชื่อว่าในอนาคตจะขยายตัวอย่างรวดเร็วแน่นอน ในอนาคตจะนำสินค้าไปบุกประเทศจีน ที่มีความโดดเด่น ด้านจำนวนประชากร และกำลังซื้อ มหาศาล สำหรับปีนี้ตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่100ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตประมาณ50-80% หากเทียบกับปีที่ผ่านมา