นายหวัง จิง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สกายเวิร์ท (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายทีวีแบรนด์ “สกายเวิร์ท” (Skyworth), “คูคา” (CooCaa)  และ “โตชิบา” เปิดเผยว่า บริษัทมีประสบการณ์การทำงานกว่า 30 ปี ในประเทศจีน โดยมีความแข็งแกร่งในสินค้ากลุ่มทีวีซึ่งเป็นสินค้าเด่นของบริษัทในฐานะแบรนด์ทีวียอดขายอับดับ 1 ของจีน ด้วยส่วนแบ่งตลาด 20% และเป็นแบรนด์ชั้นนำติดอันดับท็อป 5 ของโลก  ทั้งนี้ บริษัทมีแผนต้อกการการขยายธุรกิจทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยเราได้เริ่มเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2018 โดยเน้นการขายสินค้าในกลุ่มทีวีเข้ามาทำตลาดก่อนในช่วงแรก  ซึ่งจะนำเสนอสินค้าประเภท AIoT เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบสินค้าเทคโนโลยีล้ำสมัย ควบรวมกับระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ ภายใต้  3 แบรนด์ ที่ได้นำมาทำตลาดในไทย คือ 1.โตชิบา (TOSHIBA) ได้รับสิทธิ์ในการเป็นผู้ทำตลาดและจัดจำหน่ายโทรทัศน์โตชิบาในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ  2.สกายเวิร์ท (SKYWORTH) และ 3. คูค่า (coocaa)

อย่างไรก็ตาม  บริษัทวางแผนกลยุทธ์การทำตลาดในแต่แบรนด์แตกต่างกัน ทั้งในด้านไลน์อัพสินค้า โมเดลสินค้า ราคา ช่องทางจำหน่าย เป็นต้น  โดยได้วางงบการทำตลาดไว้ปีนี้ 50 ล้านบาท ในการทำตลาดทั้ง 3 แบรนด์  อย่างแบรนด์ โตชิบาและ สกายเวิร์ท จะมีการขยายช่องทางการจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น ไปยัง บิ๊กซี, โฮมโปร เป็นต้น จากช่องทางเดิมที่มีอยู่แล้ว อาทิ เพาเวอร์บาย เพาเวอร์มอลล์ เทสโกโลตัส  ฯลฯ  ส่วนแบรนด์คูค่าจะขายเฉพาะช่องทางออนไลน์กับลาซาด้าเท่านั้น จะไม่มีการจำหน่ายในช่องทางค้าปลีก อีกทั้งจะมีการทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อช่องทางออนไลน์ การใช้เฟซบุ๊ก ไลน์ เข้ามาช่วยทำตลาด และได้ทำการเปิดเวปไซต์ใหม่ อีกทั้ว การใช้ป้ายบิลบอร์ดที่สนามบินสุวรรณภูมิ การใช้สื่อโรงหนัง เป็นต้น

ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า  นอกจากนี้ SKYWORTH จะเดินหน้าผลิตทีวี AI เพื่อส่งมอบโซลูชั่นทีวี AIoT อัจฉริยะและผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลกต่อไปในอนาคต ตั้งแต่ต้นปี 2019 ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้น 50% โดยยอดขายนี้จะมาจาก Android TV และ OLED AI TV กว่า 60% พร้อมตั้งเป้าให้ สกายเวิร์ท ก้าวสู่การเป็นผู้จำหน่ายทีวีที่ติดอันดับท็อป 3 ในประเทศไทยภายในปี 2024

“สำหรับสิ้นปี 2562 นี้ บริษัทวางเป้ายอดขายทีวีรวมทั้ง 3 แบรนด์ไว้ที่ 1,500 ล้านบาท เติบโต 3 เท่าจากปี 2561 ที่มียอดขาย 500 ล้านบาท ด้วยสัดส่วนจากแบรนด์สกายเวิร์ท 45% โตชิบา 50% และคูคา 5% พร้อมเล็งขึ้นเป็นผู้เล่นท็อป 3 ในตลาดทีวีภายในปี 2567 ก่อนจะเป็นเบอร์ 1 ใน ปี 2572  นอกจากนี้  ในปีหน้า มีแผนที่จะขยายตลาดไลน์สินค้าใหม่ของแบรนด์สกายเวิร์ท ไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนอื่นๆ  อาทิ เครื่องซักผ้า และตู้เย็น ซึ่งจะเน้นไปที่กลุ่มพรีเมี่ยมจับตลาดที่อยู่อาศัย และหลังจากนั้นมีแผนที่จะขยายกลุ่มอื่นเพิ่มเช่น เครื่องปรับอากาศ โดยตั้งเป้าหมายรายได้รวมในปีหน้าหากสามารถขยายไลน์สินค้าได้ตามแผนงาน จะมีรายได้รวม 3,000 ล้านบาท”