เปิดกลยุทธ์ ลุยศึก “แบ็คทูสคูล” รับนโยบายรัฐ ลดภาระผู้ปกครอง คาดเงินสะพัด 28,220 ลบ.

วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

เปิดกลยุทธ์ ลุยศึก “แบ็คทูสคูล” รับนโยบายรัฐ  ลดภาระผู้ปกครอง คาดเงินสะพัด 28,220 ลบ.


เข้าสู่ช่วงเปิดเทอมใหญ่กันแล้วแน่นอนในทุก ๆ ปี ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานในวัยเรียนจะมีค่าใช้จ่ายด้านการศึกษามากเป็นพิเศษ จากผลสำรวจของ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในช่วงเปิดเทอมใหญ่ปี 2562 ผู้ปกครองในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล น่าจะมีการใช้จ่ายด้านการศึกษาสำหรับบุตรหลาน (ระดับชั้นอนุบาลจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย) มูลค่าประมาณ 28,220 ล้านบาท

อีกทั้ง เปิดเทอมใหญ่ในปีนี้ รัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือในการซื้อสินค้าเพื่อการศึกษาสำหรับผู้ปกครองที่ถือบัตรสวัสดิการของรัฐ ซึ่งน่าจะช่วยบรรเทาภาระรายจ่ายสำหรับผู้ปกครองที่มีรายได้น้อยได้ส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีมาตรการหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับการซื้อสินค้าเพื่อการศึกษาและกีฬา สำหรับประชาชนผู้เสียภาษีเช่นกัน  ส่งผลให้ผู้ประกอบการ หรือ ห้างค้าปลีกต่างๆ  ที่มีกลุ่มธุรกิจสินค้าเกี่ยวข้องกับช่วงเปิดเทอมปีนี้ออกสินค้าใหม่ แคมแปญ กิจกรรม ลด แลก แจกแถม มากมายเพื่อตอบรับนโยบายรัฐในช่วงเปิดเทอม ประกอบกับเป็นช่วงหน้าขายที่จะสามารถช่วยผลักดันยอดขายได้ดีช่วงนี้

เริ่มจาก นายจักรพล จันทวิมล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและขาย บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวว่า โรงงานนันยางเพิ่มกำลังการผลิตและจัดส่ง พร้อมรับยอดขายช่วง Back to School  โดยเป็นแผนในการวางกลยุทธ์ด้านการผลิตเพื่อรองรับการเติบโตว่า ระหว่างเดือนเมษายน – พฤษภาคมของทุกปี ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของรองเท้าผ้าใบนันยางสำหรับนักเรียน เพราะเป็นช่วงก่อนเปิดเทอมใหม่ ที่โดยปกติจะสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 70 - 80% ของยอดขายทั้งปี ทำให้โรงงานที่ดำเนินการโดย นันยางอุตสาหกรรมปรับเพิ่มกำลังการผลิตขึ้น 25% และกำลังการจัดส่งกระจายสินค้า 40% จากช่วงเวลาปกติ เพื่อรองรับความต้องการของนักเรียนและผู้ปกครองทั่วประเทศ

โดยในปีนี้นันยางต้องการสื่อสารไปยังกลุ่มนักเรียน “เด็กกลางห้อง” ที่ไม่มีอะไรโดดเด่นและยังค้นหาตัวเองไม่เจอ ผ่านแคมเปญ “คนกลางๆ อย่างฉัน” นำโดยภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่และเป็นครั้งแรกที่ทำตลาดใน Twitter เพิ่มเติมจาก Facebook Instagram และ YouTube ตามด้วยการแนะนำรองเท้านันยางรุ่นใหม่ ผ่านกิจกรรม NANYANG U Challenge ที่จะท้าคนไทยทั้งประเทศให้สร้างสรรค์และออกแบบรองเท้านันยาง Limited Edition ในแบบตัวเองที่ไม่เหมือนใครในการเปิดเทอมใหม่  พร้อมเปิดตัว SUPER STAR ผ้าใบแบรนด์ใหม่ราคาประหยัดเพิ่มเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคBack to School  ในปีนี้  นันยางได้ตัดสินใจขยายสายการผลิตรองเท้าผ้าใบแบรนด์ใหม่ชื่อ  “ซุปเปอร์สตาร์”  เป็นสินค้าราคาประหยัด คุณภาพดี ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 249 บาท เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค ที่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ

มาที่ บริษัท เอส.ซี.เอส. สปอร์ตสแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย รองเท้าผ้าใบ รองเท้าแฟชั่น รองเท้ากีฬาและรองเท้านักเรียน ภายใต้ชื่อ ป๊อปทีน, แคทช่า และ เบรกเกอร์ ที่เชื่อว่าเด็กนักเรียนไทยรู้จักกันดี โดย นายวิษณุ วงศ์วีระนนท์ชัย รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ในปี 2562 นี้ บริษัทได้ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท เพื่อทำตลาดรองเท้าต้อนรับเปิดเทอมนี้ทั้งรองเท้านักเรียนที่มีครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเรามีจุดเด่นในด้านการเป็นผู้นำการผลิตรองเท้านักเรียนแบบครบวงจรสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ในทุกกลุ่มผู้บริโภคที่ครอบคลุมที่สุด สำหรับเด็กนักเรียนในกลุ่มอนุบาลจนถึงประถมต้น ทางบริษัทได้ซื้อลิขสิทธิ์ของ Walt Disney ในกลุ่มของเจ้าหญิงเพื่อตอบสนองเด็กผู้หญิงและกลุ่ม Avengers ไม่ว่าจะเป็นกัปตันอเมริกาหรือไอรอนแมน เพื่อตอบสนองของเด็กผู้ชาย

จากนั้นกลุ่มเด็กประถมศึกษาถึงระดับมัธยมทั้งชาย และหญิง ก็สร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองพฤติกรรมของวัยรุ่น เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกสินค้าได้ตรงตามพฤติกรรม สำหรับสินค้าเพื่อตอบสนองสาววัยใส น่ารัก ก็จะโดนใจในสินค้า รองเท้าป๊อปทีน ตามสโลแกน “ป๊อปทีน..เห็นแล้วปิ๊ง ใส่แล้วป๊อป” และสำหรับสาวเปรี้ยว แสบซ่า ก็จะโดนใจรองเท้าแคทช่า สโลแกน “แคทช่า ซ่าสุดๆ” ส่วนกลุ่มนักเรียนผู้ชาย รองเท้าผ้าใบ “เบรกเกอร์” ได้พัฒนาแบบให้เลือกหลากหลาย เบรกเกอร์ 4x4 สำหรับสายลุย เท่ห์ , เบรกเกอร์ BK4P สำหรับสายสมัยใหม่ สไตล์แฟชั่นกีฬา และล่าสุด เบรกเกอร์ เอ็กซ์ สำหรับสายสุดขั้วแบบ “ชีวิตสั่งได้”

ด้าน นางเออร์ลินดา เพชรพิสิฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท  โรบินสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เทศกาลเปิดเทอม นับเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่นักช้อป โดยเฉพาะกลุ่มพ่อ แม่ ผู้ปกครอง มักมีดีมานด์สูงในการจับจ่ายสินค้าเพื่อต้อนรับการเปิดภาคเรียนใหม่ของบุตรหลานเป็นประจำทุกปี ซึ่งส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่สูงในตลาดค้าปลีกตามมา  ทั้งในแง่ของ สินค้า ที่มีคุณภาพและครบครัน รวมทั้ง รายการส่งเสริมการขาย ที่ดึงดูดใจ เพื่อช่วงชิงกำลังซื้อของนักช้อปในช่วงเทศกาลดังกล่าว ด้วยเหตุนี้ โรบินสัน จึงเดินหน้าใช้งบประมาณการตลาดกว่า 10,000,000 บาท เปิดแคมเปญ ‘ROBINSON BACK TO SCHOOL’ (โรบินสัน แบ็ค ทู สคูล) เพื่อนักช้อปกลุ่มพ่อ แม่ ผู้ปกครอง อีกทั้งยังเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายในการขอความร่วมมือธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ร่วมลดราคาการจำหน่ายสินค้า ภายใต้ชื่องาน ‘รวมใจ..เพิ่มสุข..ช้อปสนุก..ลดรับเปิดเทอม’ อีกด้วย โดยคาดว่าการดำเนินงานดังกล่าว จะส่งผลให้ยอดขายของแคมเปญฯ เติบโดขึ้นกว่า 10% รวมทั้งเพิ่มทราฟฟิคนักช็อป โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวได้ราว  30% 

ปิดท้าย นางสาวฤดี เอื้อจงประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด กล่าวว่า แฟมิลี่มาร์ท ร่วมกับ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน จัดงาน “รวมใจ...เพิ่มสุข.. ช้อปสนุก..ลดรับเปิดเทอม” เพื่อตอบรับนโยบายรัฐบาลในการลดภาระค่าครองชีพให้กับผู้ปกครองและ กระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคักในช่วงเปิดเทอมนี้ กับมหกรรมลดสินค้าครั้งยิ่งใหญ่ เน้นสินค้าอาหารพร้อมทาน พร้อมเสิร์ฟความอร่อยทุกเวลา นอกจากนี้ยังมีสินค้าบริโภค อุปโภคอีกหลายรายการ ลดสูงสุด 50%  อาทิ นมยูเอชที เครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ของใช้ประจำวัน  อุปกรณ์การเรียน  เป็นต้น

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ