“บิวเทรี่ยม” ประกาศปรับแผนธุรกิจสู้ศึก "บิวตี้มัลติแบรนด์สโตร์" แข่งเดือด

วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2562

“บิวเทรี่ยม” ประกาศปรับแผนธุรกิจสู้ศึก


นายจิรวุฒิ โรจน์รัตนวลี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บิวเทรี่ยม จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเชนร้านจำหน่ายสินค้าเพื่อความงาม บิวเทรี่ยม/BEAUTRIUM) ของไทย กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาธุรกิจบิวตี้มัลติแบรนด์สโตร์ เริ่มมีการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นจากคู่แข่งหน้าใหม่ที่เข้ามาในตลาดนี้มากขึ้น หรือในส่วนของคนที่เปิดขายสินค้าความงามผ่านช่องทางออนไลน์

ดังนั้นบริษัทฯ ต้องมีการปรับแผนการดำเนินงานเพื่อจะได้ตอบสนองลูกค้าตรงตามไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น การตกแต่งร้านที่โปร่งและเป็นเอกลักษณ์ ลูกค้าเดินเลือกสินค้าได้สะดวก มีการแบ่งหมวดหมู่สินค้าอย่างชัดเจน มีมุมให้ได้ทดลองสินค้า จัดทำกิจกรรม workshop ต่างๆ เราจึงได้ปรับพื้นที่บางส่วนของร้านให้เป็นพื้นที่กิจกรรม ร่วมกับแบรนด์สินค้าชั้นนำต่างๆ นำสินค้า Exclusive จำหน่ายเฉพาะที่ BEAUTRIUM ส่งผลให้ในช่วงไตรมาสแรกปี 2562 นี้ แม้ว่าจะยังเติบโตอยู่ประมาณ 10%

สำหรับงบทำการดำเนินธุรกิจปีนี้บริษัทได้วางไว้ที่ 150 ล้านบาท เพื่อในแผนการดำเนินธุรกิจ ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้  บริษัทวางแผนจะทำการขยายสาขาเพิ่มอีก2 สาขา ลงทุนสาขาละ 30 ล้านบาท พื้นที่เฉลี่ย 300 ตารางเมตร จะเปิดปลายปีที่เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า กับเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต ปัจจุบันมีสาขาเปิดบริการรวม 8 สาขา เปิดในกรุงเทพฯ ทั้งหมด ซึ่งสิ้นนี้ปีนีคาดว่าจะมีครบ 10 สาขา นอกจากนั้นยังจะเพิ่มสินค้าทั้งในกลุ่มเดิมเพื่อเพิ่มเอสเคยู ทั้งเมกอัพ สกินแคร์ น้ำหอม เป็นต้น สินค้ากลุ่มใหม่เข้าสู่ตลาด ประมาณ 20% จากเดิมที่มสินค้าจำหน่ายในสโตร์มีประมาณ 1,000 แบรนด์ทั้งไทยและต่างประเทศ รวมมากกว่า 50,000 เอสเคยู

ด้าน อติโรจน์ โรจน์รัตนวลี กรรมการบริหาร บริษัท บิวเทรี่ยม จำกัด กล่าวเสริมว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับพันธมิตรหลักอย่างบัตรเดอะวัน “The 1” Loyalty Program Platform” ของทางกลุ่มเซ็นทรัลที่มี นักช้อปสมาชิกกว่า 15 ล้านคน เพื่อยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบไร้ขีดจำกัด ทั้ง Online และ Offline อีกทั้งเป็นการขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคและการทำโปรโมชันให้แก่ลูกค้าตั้งเป้ายอดขายโตเพิ่มขึ้น 20% โดยฐานตลาดเดิมของบิวเทรี่ยมส่วนใหญ่จะเป็นคนเริ่มทำงานใหม่ๆ ประมาณ 60% และเริ่มมามีกลุ่มผู้หญิงวัยรุ่น นักเรียนนักศึกษามากขึ้นเมื่อไม่นานนี้ ประมาณ 50% ขณะที่ฐานของกลุ่มเดอะวันจะมีผู้หญิงเป็นหลักกว่า 70% และเป็นผู้ใหญ่ที่มีกำลังซื้อสูงจะทำให้เราได้ขยายกลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้ได้ด้วย

ปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 10% จากปีที่แล้วที่ทำรายได้ 500 ล้านบาท ซึ่งปรับลดมาจากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ต้นปีว่าปีนี้คาดว่าจะทำได้1,000 ล้านบาท ส่วนปีก่อนหน้านี้ (2560) ทำรายได้ 250 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนรายได้จากออนไลน์ยังน้อยมากไม่ถึง 10% โดยช่องทางออนไลน์จะขายผ่านทางเว็บไซต์ เดอะบิวเทรี่ยม ดอตคอม ของบริษัทเอง และมีแพลตฟอร์มมาร์เกตเพลซผ่านพันธมิตรอย่างเช่น ชอปปี้ ลาซาด้า และเจดีเซ็นทรัล

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ