นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจ สิ้นสุดปีงบประมาณ 2561/2562 (เมษายน 61- มีนาคม 62) อิมแพ็ค ยังคงได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดงานแสดงสินค้า งานประชุม สัมมนา ทั้งขนาดใหญ่ กลาง เล็ก รวมถึงงานเลี้ยงสังสรรค์ งานแต่งงาน กิจกรรมพิเศษ โดยเฉพาะอินเซนทีฟ หรือ กลุ่มท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และคอนเสิร์ตจากศิลปินไทย-ต่างประเทศ จำนวนมาก เช่น คอนเสิร์ตเบิร์ดได้เพิ่มการแสดงถึง 5 รอบ คอนเสิร์ตของศิลปินเกาหลีหลายๆ วงชั้นนำ เช่น แบล็คพิ้งค์, กอท-เซเว่น เปิดรอบการแสดงถึง 3 วัน และคอนเสิร์ตของศิลปินอินเตอร์ก็หมุนเวียนมาเปิดการแสดงต่อเนื่อง รวมไปถึงดิสนีย์ ออน ไอซ์ ที่ยังคงมีการแสดงหลายรอบและหลายวันเช่นทุกปี
ขณะเดียวกันมีงานใหม่ๆ เพิ่มขึ้น อาทิ การประกวดนางงามจักรวาล หรือ Miss Universe 2018 งานแสดงสินค้าเพื่อแม่และเด็ก BBB Baby & Kids Best Buy 2019 งานไทยแลนด์ คอฟฟี่ เฟส 2019 และงานเดิมที่จัดอยู่ยังได้ขยายพื้นที่จัดงาน เช่น มหกรรมอาหาร ไทยเฟค เวิล์ด ออฟ ฟู้ด เอเชีย และในส่วนของประจำปี ซึ่งเป็นงานยอดนิยมของลูกค้าผู้ชมงาน เช่น โฮมโปร เอ็กซ์โป, มหกรรมลดทะลุพิกัด ของเดอะมอลล์กรุ๊ป, งานโอทอป ยังคงจัดงานต่อเนื่อง 3-4 ครั้งต่อปี โดยรวมแล้วทั้งปี อิมแพ็ค รองรับการจัดงานรวมกว่า 1,000 งาน ส่งผลให้รายได้เป็นไปตามเป้า
นางสาววันเพ็ญ มุ่งเพียรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ เอ็ม ไอ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็ค โกรท กล่าวต่อว่า สำหรับรายได้รวมของกองทรัสต์ฯ อยู่ที่ 2,445 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมา และคิดเป็นกำไรสุทธิเท่ากับ 1,317.6 ล้านบาท เติบโต 9% โดยเป็นผลจากการใช้พื้นที่รวมเท่ากับ 51% ของพื้นที่ที่เป็นสินทรัพย์ก่อให้เกิดรายได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม จากภาพรวมของอิมแพ็คที่ยังคงมีงานใหม่เพิ่มขึ้น และปัจจัยการสนับสนุนของภาครัฐ-เอกชนผลักดันให้ธุรกิจไมซ์ประเทศไทยมีการขยายตัว จะส่งผลทำให้กองทรัสต์ฯ ยังคงเติบโตต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
อีกทั้ง ด้าน นางสาวจินตนา พงษ์ภักดี ผู้อำนวยการ สำนักงานฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี กล่าวเสริมว่า ล่าสุดเราได้ใช้งบลงทุนราว 7 ล้านบาท สำหรับการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยเฉพาะการเปลี่ยนหลอดไฟ LED ซึ่งช่วยประหยัดพลังงาน และการสร้างแผงติดตั้งไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์ รูฟท็อป)ของอาคารชาเลนเจอร์และอาคารจอดรถ P2 เป็นต้น โดยได้นำทีมวิศวกรได้วางระบบที่เหมาะสมช่วยคำนวนลดค่าพลังงาน ซึ่งในไตรมาสแรกเดือนมกราคม-มีนาคม 2562 ค่าพลังงานไฟฟ้าลดลง 240,000 กิโลวัตต์ต่อชม. สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 894,000 บาท อย่างไรก็ตาม แม้ค่าพลังงานจะลดลงเป็นที่พอใจ แต่ทางทีมบริหารก็ได้กำหนดเป้าหมายการประหยัดพลังงานของปีนี้ไว้ที่ 4% และมั่นใจ อิมแพ็ค จะลดใช้พลังงานได้ตามเป้าเช่นทุกปีที่ผ่านมา
