นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยยังคงเป็นประเทศที่บริษัทแม่ให้ความสำคัญมากที่สุดสำหรับการดำเนินธุรกิจในตลาดภูมิภาคเอเชีย เพราะเป็นประเทศที่ยังคงมีอัตราการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมไตรมาสแรกของโลตัสทั่วโลกที่ผ่านมา (มี.ค.-พ.ค. 2562) เติบโต 0.4% และในส่วนของเอเชีย (รวมประเทศไทย) เติบโตที่ 2.6% โดยในแต่ละปีบริษัทแม่จะให้งบลงทุนดำเนินธุรกิจเทสโก้ในประเทศไทยปีละ 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งปีนี้ก็ยังเป็นงบประมาณจำนวนเท่าเดิม
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหลายคนอาจจะมีความกังวลกับสถานการณ์จากเศรษฐกิจและการเมืองไทยในขณะนี้ แต่สำหรับเรามองว่าไม่ได้มีความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญไปจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ยังมองไม่เห็นถึงปัจจัยลบและปัจจัยบวก สำหรับภาพรวมธุรกิจค้าปลีกครึ่งปีแรกที่ผ่านมาอยู่ในสภาวะทรงตัว และคาดว่าทั้งปีนี้คงอาจไม่เติบโตมากนัก แต่ไม่ได้ถึงกับทรุด เพราะจากที่เราทราบกันว่าธุรกิจค้าปลีกทั่วโลกและทั้งในไทยมีการแข่งขันค่อนข้างสูง เพราะการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของสังคมเมืองและเทคโนโลยีนับเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยภายในปี พ.ศ. 2573 คาดว่า 58% ของประชากรไทยจะอาศัยอยู่ในเมือง เพิ่มขึ้นจากประชากรโดยรวมปัจจุบันอยู่ที่ 50%
“ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกจะเติบโตแบบฟู่ฟ่าเหมือนสมัยอดีตเป็นตัวเลข 2 หลัก คงเป็นไปได้ยาก แต่จะเติบโตอยู่ในระดับที่พอประมาณได้เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ผู้ประกอบการจำต้องมองว่าจะปรับตัวธุรกิจอย่างไรให้รักษาฐานลูกค้าไว้ได้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ในยุคที่การเติบโตของสังคมเมืองพร้อมภาวะตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคแปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว”
ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า ดังนั้น เทสโก้ โลตัส จำเป็นจะต้องปรับรูปแบบค้าปลีกเพื่อให้บริการลูกค้ากลุ่มนี้ให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการสร้างจุดยืนที่แตกต่างทั้งในด้านของสินค้าและช่องทาง ซึ่งรวมถึงการเดินหน้าเปิดสาขาเพิ่มเติมควบคู่ไปกับการปรับร้านค้าขนาดเล็กที่มีอยู่ให้เป็นร้านค้าโฉมใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าสังคมเมืองได้ดีกว่าเดิม ในส่วนของสาขาขนาดใหญ่ก็จะมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่และสินค้าที่วางจำหน่าย ควบคู่ไปกับการพัฒนาประสบการณ์แบบออมนิแชนแนล
ทั้งนี้ บริษัทจึงได้วางแผนทิศทางการดำเนินธุรกิจของเทสโก้โลตัสในประเทศไทยระยะยาว 3 ปี นับจากนี้ คือ ปรับปรุง “เทสโก้ โลตัสเอ็กซ์เพรส” สาขาที่มีอยู่เดิมให้เป็นรูปแบบใหม่ คือ สด ง่าย และตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน อาทิ เพิ่มเมนูกลุ่มอาหารพร้อมทานมากขึ้น มีมุมนั่งพักสำหรับรับประทานอาหาร มีร้านขายไอศกรีม บริการส่งพัสดุและเพิ่มพื้นที่ร้านกาแฟ แบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ “เทสโก้ คอฟฟี่” ให้บริการ เป็นต้น โดยที่ผ่านมาได้มีการทดลองเปิดให้บริการรูปโฉมใหม่ไปแล้ว 30 สาขา คาดว่าจะทยอยปรับโฉมเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส ที่ปัจจุบันมีอยู่ 1,500 สาขา และวางแผนจะขยายเพิมในรูปใหม่นี้อีก 750 สาขา ให้ครบภายใน 3 ปีเช่นกัน
ส่วนของสาขาขนาดใหญ่อย่าง “ไฮเปอร์มาร์เก็ต” และ “เทสโก้ ตลาด” ปัจจุบันมี 400 สาขาทั่วประเทศ ก็จะทยอยปรับโฉมใหม่ โดยลดพื้นที่ค้าปลีกลง และเพิ่มพื้นที่เช่า ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมคนยุคปัจจุบัน ซึ่งปีนี้มีแผนจะเปิดไซซ์ใหญ่ 3 สาขา โดยครึ่งปีที่ผ่านมาเปิดไปแล้ว 2 สาขา และปลายปีอีก 1 สาขาที่อำเภอองครักษ์ นครนายก สำหรับช่องทางออนไลน์ปัจจุบันเราให้บริการเฉพาะกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ตเท่านั้น ซึ่งบริษัทยังเข้าไปจับมือ วางขายสินค้ากับคู่ค้าอย่างลาซาด้าโดยคาดว่าอีก 3 ปี จะสามารถพัฒนาการส่งให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดช้อปปิ้งออนไลน์ที่มีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
