6 ข้อควรรู้ พ่อ แม่ เด็กยุคดิจิตอล ป้องกันลูก ท่องเว็บซื้อของออนไลน์ห่างไกลภัยไซเบอร์

วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

6 ข้อควรรู้ พ่อ แม่ เด็กยุคดิจิตอล ป้องกันลูก ท่องเว็บซื้อของออนไลน์ห่างไกลภัยไซเบอร์


หากเปรียบเทียบกับช่วงเวลานี้เมื่อปีที่แล้ว เด็กในปัจจุบันหันมาเป็นผู้บริโภคในการการซื้อของออนไลน์มากขึ้น พวกเขาสนใจในการซื้อของออนไลน์เพิ่มมากขึ้นจากปีที่แล้วมากกว่า 3 เท่า นั่นคือ จาก 2% เพิ่มเป็น 9% ที่มาจากข้อมูลจากรายงานประจำปีเกี่ยวกับความปลอดภัยของเด็กของ Kaspersky Lab ซึ่งเป็นข้อมูลทางสถิติที่รวบรวมจากผลิตภัณฑ์ของ Kaspersky Lab รวมกับฟังก์ชั่นการควบคุมของผู้ปกครอง

จากสถิติความสนใจของเด็กและเยาวชนมีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในการเข้าเว็บไซต์การซื้อของออนไลน์ทั่วโลก แต่อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับที่ตั้งด้วย โดยข้อมูลรายงานด้านล่างนี้ แสดงให้เห็นถึงการเติบโตในการใช้งานซื้อของออนไลน์ในแถบรัสเซียและประเทศในโซน CIS คิดเป็น 23% ตามมาด้วยโซนอเมริกาเหนือ 15% ยุโรปและตะวันออกกลางคิดเป็น11% ส่วนเอเชียและละตินอเมริกาคิดเป็น 9% ในประเทศไทยเด็กและเยาวชนให้ความสนใจกับการซื้อของออนไลน์เติบโตขึ้น 5 เท่า จาก 1.02% เป็น 5.64% ซึ่งนับเป็นความสนใจอันดับที่ 4 รองมาจาก การเล่นโซเชียลมีเดีย ดูหนัง ฟังเพลง และการเล่นเกมส์

มีการตั้งขอสังเกตว่า การค้นหาสินค้าออนไลน์หรือแม้แต่การเข้าไปยังเว็บไซต์ต่าง ๆ ก็ไม่จำเป็นเสมอไปว่าจะต้องจบด้วยการซื้อของ พวกเด็ก ๆ อาจเพียงแค่เข้าไปดูในรายการของที่อยากได้ และนำมาบอกเพื่อน ๆ และครอบครัวนั่นเอง เพราะฉะนั้นการที่เด็ก ๆ ให้ความสนใจในการซื้อของออนไลน์เพิ่มมากขึ้นก็ไม่ควรจะเป็นสิ่งต้องห้าม แต่ผู้ปกครองควรสังเกตพฤติกรรมและให้คำแนะนำกับเด็ก ๆ ในความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นและสิ่งที่ควรระวังพื้นฐานทั่วไป

สำหรับประเทศไทยเป็นประเทศที่เติบโตทางเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งถือได้ว่าประชากรมีส่วนร่วมในการใช้งานออนไลน์มากที่สุด โดยตลาดอีคอมเมิร์ซตั้งเป้าการซื้อของออนไลน์ในส่วนของค้าปลีกเพิ่มขึ้นเป็น 10% ภายในปี 2566 ซึ่งเด็กในปัจจุบันจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนหรือหยุดชะงักได้ เพราะพวกเขาเริ่มการซื้อของออนไลน์ด้วยตัวเองเร็วเกินไป ดังนั้นควรจะต้องให้คำแนะนำและใช้เครื่องมือที่จะช่วยปกป้องการเงินออนไลน์ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองต้องรับผิดชอบในส่วนนี้ และต้องเริ่มตั้งแต่เนิ่น ๆ อีกด้วย

โดย คำแนะนำต่อไปนี้ จะทำให้มั่นใจได้ว่าเด็ก ๆ จะปลอดภัยจากการใช้งานในการท่องเว็บไซต์ซื้อของออนไลน์ ต่าง ๆ ดังนี้ 

1.เตือนพวกเขาว่า หากมีการใช้งานไวไฟสาธารณะและทำการชำระเงินออนไลน์ จะทำให้ถูกการขโมยข้อมูลส่วนตัวได้ง่าย ดังนั้นไม่ควรใช้ไวไฟสาธารณะในการซื้อของออนไลน์

2.ควรตกลงกับเด็ก ๆ ว่าก่อนที่จะทำการซื้อของออนไลน์จะต้องแจ้งให้ผู้ปกครองทราบ หรือผู้ปกครองช่วยเด็กในการทำการชำระเงิน จนกว่ามั่นใจได้ว่าพวกเขาสามารถทำการชำระเงินได้ด้วยตนเองอย่างปลอดภัย ไม่ควรให้ข้อมูลบัตรเครดิตกับเว็บไซต์ที่น่าสงสัยหรือไม่คุ้นเคย เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงจากอาชญากรทางไซเบอร์

3.ให้คำแนะนำพวกเขาให้หลีกเลี่ยงการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวแก่บุคคลใด ๆ จากร้านค้าไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์หรือผ่านทางออนไลน์ และต้องให้เด็กกล้าที่จะถามเมื่อเกิดปัญหาหรือมีข้อสงสัย

4.ไม่ควรให้ข้อมูลบัตรเครดิต กับบุคคลอื่นนอกจากคนในครอบครัวอย่างเด็ดขาด แม้กระทั่งเพื่อนหรือผู้ปกครองคนอื่น ๆ ต้องให้เด็กจำไว้ว่าไม่มีใครมีสิทธิมาขอข้อมูลเหล่านี้เด็ดขาด

5.ต้องจำไว้เสมอว่าหากมีการบันทึกข้อมูลส่วนตัวและบัตรเครดิตไว้ในมือถือ หากมีการสูญหายหรือโดนขโมยอาจตกไปอยู่มือคนไม่หวังดีได้

และ 6. ดาวน์โหลดและใช้งานซอฟแวร์ที่ควบคุมโดยผู้ปกครอง ใน Kaspersky Security Cloud, Kaspersky Total Security หรือซอฟแวร์พิเศษอย่าง Kaspersky Safe Kids ที่ช่วยให้ผู้ปกครองสามารถติดตามการใช้งานออนไลน์ของเด็ก ๆ ในทุกอุปกรณ์ รวมไปถึงอุปกรณ์มือถือ ซึ่งซอฟต์แวร์จะแนะนำให้เด็กใช้งานออนไลน์อย่างถูกวิธีอีกด้วย ผู้ปกครองต้องอธิบายประโยชน์ของซอฟต์แวร์ให้เด็กเข้าใจและรู้สึกสบายใจในการใช้ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมโดยผู้ปกครอง

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ