“ฟูจิฟิล์ม” ขิงต่อ ไม่รอแล้ว ส่ง กล้อง instax บันทึกเสียงเจ้าแรก ย้ำผู้นำตลาดกล้องฟิล์ม

วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

“ฟูจิฟิล์ม”  ขิงต่อ ไม่รอแล้ว ส่ง กล้อง instax  บันทึกเสียงเจ้าแรก ย้ำผู้นำตลาดกล้องฟิล์ม


ยังคงมาแรง ฮิตติดลมบนยาวมาราว 2-3 ปี สำหรับกล้องกล้องฟิล์ม หรือที่จริงแล้วเรียกกันว่า กล้องอินสแตกซ์ที่กลับมานิยมอีกครั้งจากกลุ่มคนรุ่นใหม่สไตล์ ฮิปสเตอร์  อีกทั้ง ยิ่งพอมีกลุ่มคนดัง ศิลปิน ดารา เซเลป จากทั้งในไทย อาทิ ญาญ่า – อุรัสยา , แป้งโก๊ะ  และในต่างประเทศที่ส่วนใหญ่จะเป็นไอดอลเกาหลี มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ศิลปินวง BTS , Got 7 และไอดอลหลายวงอีกมากมาย ที่นิยมนำภาพจากการถ่ายจากกล้องมาโชว์ หรือแม่กระทั้งถือกล้องนี้เป็นพร๊อบพร้อมถ่ายภาพออกมาโชว์ลงทวิตเตอร์ หรือ ไอจี กันมากมาย จนยิ่งปลุกให้กระแสกล้องดังกล่าวกลับมาบูมอีกครั้ง ทั้งในไทยและต่างประเทศ

และสำหรับตลาดกล้องอินสแตกซ์ ก็มีอยู่ไม่กี่แบรนด์ที่ผลิตกล้องกลุ่มดังกล่าวลุยทำตลาดอย่างจริงจัง ซึ่งแน่นอนว่าถ้าพูดถึงกล้องกลุ่มดังกล่าว เราต้องนึกถึงแบรนด์แรกอย่าง “ฟูจิฟิล์ม”เป็นแน่ เพราะปัจจุบันถือเป็นเจ้าตลาดผู้นำเพียงหนึ่งเดียวที่รุกทำตลาดกล้องกลุ่มนี้อย่างจริงจัง  ล่าสุด ก็ตอกย้ำความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวกล้อง instax mini LiPlay ระบบ Hybrid Instant Cameraที่ชูฟีเจอร์เด็ดภาพถ่ายบันทึกเสียงได้ ขนาดเล็กที่สุด และน้ำหนักเบาที่สุด ที่ได้ถูกคิดค้นและพัฒนาโดยฟูจิฟิล์มเป็นแบรนด์แรกที่นำเทคโนโลยีบันทึกเสียงเข้าไปในภาพได้เพื่อเก็บความทรงจำในช่วงถ่ายรูปได้

นายซึโตมุ  วาตะนาเบ้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  ฟูจิฟิล์มประสบความสำเร็จในตลาดกล้องและฟิล์มอินสแตกซ์ ที่จำหน่ายทั่วโลกมาอย่างยาวนาน โดยตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา กล้องตระกูล อินสแตกซ์ สร้างความสำเร็จให้ฟูจิฟิล์มด้วยยอดจำหน่ายกว่า 40 ล้านเครื่องทั่วโลก และมาในปี 2561 บริษัทมียอดขายจากกล้องกลุ่มดังกล่าวทั่วโลกถึง 10 ล้านเหรียญ หรือมียอดจำหน่ายกว่า 100 ล้านเครื่องทั่วโลก  ขณะที่ปี 2560 มียอดขายอยู่ที่ 7.7 ล้านเหรียญ โดยมี “ไทย” เป็นตลาดใหญ่ติด 1 ใน 5 ต่อจาก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน และฟิลิปปินส์ จะเห็นได้ว่ากล้องกลุ่มดังกล่าวมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก

โดยในปีนี้ฟูจิฟิล์มได้เปิดตัวกล้อง Hybrid Instant Camera รุ่นใหม่ “Instax mini Liplay” ด้วยความพิเศษ “บันทึกเสียงเข้าไปในภาพได้ถึง 10 วินาที” เพื่อช่วยบันทึกความประทับใจผ่านเสียงที่ซ่อนอยู่ในภาพถ่าย ซึ่งสามารถฟังข้อความเสียงที่บันทึกได้ผ่านการสแกน QR Code และมาพร้อมขนาดเล็กกระทัดรัด จับถนัดมือ ด้วยหน้าจอ LCD ที่มีขนาดเพียง 2.7 นิ้ว นอกจากนี้ยังออกแบบใหม่ให้สวยงาม เรียบง่าย ตามสไตล์ minimal มีสีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ สีขาว และสีชมพู ในราคา 5,490 บาท ซึ่งถูกกว่าต่างประเทศที่มีราคาขายอยู่ที่ 159 ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ตั้งเป้ายอดขาย 1 หมื่นเครื่องภายในสิ้นปีนี้

ด้าน สภารัตน์ ประดิษฐ์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด แผนกโฟโต้อินเมจจิ้ง บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดกล้องอินสแตกซ์ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกต่อเนื่อง  โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นส่วนใหญ่เราจะเห็น เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวเค้าไม่ได้เติบโตมาในช่วงยุคกล้องฟิล์ม อาจจะไม่ได้เคยเห็นหรือสัมผัส พอได้เห็นจึงรู้สึกชอบและรู้สึกว่ามันเป็นไลฟ์สไตล์และมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างไม่เหมือนกับกล้องทั่วไป  ส่งผลให้วัยรุ่นแนวฮิปสเตอร์ที่ชอบถ่ายรูป นิยมใช้กล้องอินสแตกซ์ถ่ายรูปเพื่ออัพขึ้นโซเชียลจากรูปที่ถูกปรินต์ออกมาอีกทีหนึ่ง  และนอกเหนือจากกลุ่มวัยรุ่นแล้ว ก็ยังมีกลุ่มคนวัยทำงาน และกลุ่มที่แต่งคอสเพลย์ก็นิยมใช้ด้วย

ดังนั้น ล่าสุดฟูจิฟิล์มยังคงทำการตลาดต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวกล้อง  instax mini LiPlayกล้องระบบ Hybrid instant camera จุดเด่นคือถ่ายภาพแล้วสามารถปริ้นท์ภาพออกมาได้เลยและมีจอ LCD มีขนาด 2.7 นิ้ว สำหรับใช้ดูตัวอย่างรูปก่อนที่จะกดถ่ายถือเป็นการรวมตัวกันของกล้องดิจิตอลและกล้องฟิล์ม instax ไว้ในเครื่องเดียวกัน  บริษัททุ่มงบการตลาด 30 ล้านบาท เพื่อสื่อสารและโฆษณา ภายใต้แคมเปญ #LiveLifePlay ให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว

สำหรับกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ บริษัทฯ ได้เตรียมงบการตลาด 30 ล้านบาท เพื่อสื่อสารและโฆษณา ภายใต้แคมเปญ #LiveLifePlay ให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ผลิตภัณฑ์ ในการสื่อสารแบบ Total communication ทั้ง สื่อ offline and online ทาง social media โดยได้ทำสื่อออนไลน์ทั้งทาง YouTube, Facebook, Instagram นอกจากนี้ทางฟูจิฟิล์มยังมุ่งเน้นการทำการตลาดผ่าน Influencer ชื่อดังจากหลายแขนง  ได้แก่ คนรักสัตว์เลี้ยง กลุ่มครอบครัว แฟชั่น อาหาร บิวตี้ ศิลปะ และท่องเที่ยว โดยบริษัทจ้างอินฟลูเอนเซอร์-บล็อกเกอร์มากกว่า 30 ช่อง โดยภายในสิ้นปีตั้งเป้าว่าฟูจิฟิล์ม จะมียอดขายจากกล้องกลุ่ม ฟิล์มอินสแตกซ์ อยู่ที่ 10,000 ตัว ซึ่งจะส่งผลทำให้ภาพรวมมียอดขายกลุ่มกล้องดังกล่าวทั้งหมดอยู่ที่ 100,000 ตัว เติบโตจากปี ก่อน 30% ซึ่งมียอดขาย 70,000 ตัว จากกล้องอินสแตกซ์ 10 กว่ารุ่นของฟูจิฟิล์มที่วางจำหน่ายอยู่ปัจจุบัน

 

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ